“เฉลิม อยู่บางบอน” ชี้เหตุไม่เปิดมัฆวานฯ เพราะอพส.คนน้อย ยันใช้หลักสากล อ้างม็อบรุนแรงหวังสลาย ตร.ถึงใช้แก๊สน้ำตาทันที เล็งยัดข้อหาพยายามฆ่าคนขับรถชน ตร. พร้อมเช็กเทปแกนนำพูด ผิดพร้อมฟัน ยกรัฐศาสตร์ตัดสิน ปชช.ที่ถูกจับ แนะบอกถูกหลอกชุมนุมไม่ผิด เล็ง ผบ.ตร.เลิก พ.ร.บ.มั่นคง ได้ทีโว ปชช.ไม่เห็นด้วยทำม็อบจบเร็ว ไม่ใส่ใจ อพส.เปลี่ยน ปธ. เผยขน ตร.มาแยะหวั่นโดนบุกทำเนียบ
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การใช้แก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่า คนวิจารณ์ไม่เข้าใจ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่โครงสร้างระดับผู้บังคับการมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) มีการสั่งห้ามฝ่าฝืนเข้ามายังพื้นที่ตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าฯ และบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ผู้ชุมนุมประกาศชัดเจนว่าจะชุมนุมกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเราก็บอกว่าถ้าหากมีคนล้นจริงๆ ก็จะเปิดทางให้ แต่นี่มีคนเพียงหมื่นเศษๆ คนที่ฝ่าฝืนขับรถชนตำรวจก่อนจนบาดเจ็บสาหัส ไม่ใช่เพิ่งมาห้าม บอกกันล่วงหน้าถึง 2 วัน และไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปสลายการชุมนุมที่ลานพระบรมรูปฯ แต่นี่ม็อบมาสลายตำรวจ
รองนายกฯ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำตามหลักสากล อยากเตือนผู้ชุมนุมว่าอย่าเข้าใจผิดว่าจะเข้าข่ายทำผิด พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพียงอย่าเดียว เพราะการขับรถชนเจ้าหน้าที่ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ ถึงแม้จะไม่เล็งเห็นผล แต่ทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ จัดอยู่ในเกณฑ์พยายามฆ่า ถ้าเราไม่ใช้แก๊สน้ำตา เจ้าหน้าที่ก็ตายหลายคน เจ้าหน้าที่ถูกแทงด้วยเหล็กแหลมบาดเจ็บสาหัส ถูกรถชน อย่างนี้เหมาะสมหรือไม่ ที่บอกว่าเรียกร้องประชาธิปไตย หากไปรอฉีดน้ำตำรวจคงตายหมด การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ถือเป็นความชอบธรรมและถูกต้อง ตนสั่งห้ามเจ้าหน้าที่พกอาวุธโดยเด็ดขาด ยกเว้นกระบองและแก๊สน้ำตาเท่านั้นถือว่าเป็นไปตามกติกาโลกหลักสากลยูเอ็น ตนเป็นคนออกกฎตรงนี้เอง โดยให้ผู้ที่เก่งภาษาอังกฤษแปลมาจากกฎยูเอ็น
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ส่วนพวกที่ขึ้นเวทีปราศรัย ผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดตั้งการชุมนุมตั้งแต่ต้น กระทำผิดอะไรก็ว่ากันไปตามกฎหมาย เนื้อหาบนเวทีปราศรัยเจ้าหน้าที่เปิดวิดีโอเทปตรวจสอบอยู่ ไม่ถูกต้องก็ดำเนินคดี เพราะถ้าไม่ดำเนินคดี เท่ากับว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจละเว้น ตนจะไม่ไปสั่ง ดูกันไปตามหน้าที่ อะไรผิดก็ผิด อะไรถูกก็ถูก และคนที่ถูกจับไปร้อยกว่าคนได้ย้ำให้ใช้หลักรัฐศาสตร์ ยึดตามหลักมาตรา 21 ถ้าสืบสวนและพบว่าถูกหลอกให้มาชุมนุมไม่ต้องดำเนินคดี
เมื่อถามว่าจะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จนจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าต้องหารือ ผบ.ตร.ก่อน ถ้าไม่มีความจำเป็นก็ยกเลิก เมื่อถามว่าได้มีการประเมินหรือไม่ว่าทำไมถึงยุติการชุมนุมเร็วเกินคาด ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คนส่วนใหญ่ทั้งประเทศไม่เอาด้วย เลยจบเร็ว แต่ถ้ามาเป็นแสนคน ห้าหมื่นคนคงไม่จบ จากผลโพล 94 เปอร์เซ็นต์คนไม่เอาม็อบ และถ้าจะมองว่ารัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงฯ เก้อก็ไม่เป็นไร เอาเถอะ เมื่อเหตุการณ์สงบแล้วจะด่าอย่างไรก็เชิญ ส่วนที่เปลี่ยนแกนนำจาก พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธาน อพส.เป็น น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ แกนนำ อพส.เป็นสิทธิของเขา ส่วนที่มองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่าม็อบนั้น เพราะว่าก่อนหน้าที่เขาประกาศว่าผู้ชุมนุมจะมาเป็นล้าน แล้วจะให้ตำรวจมาน้อยได้อย่างไร ถ้ามาน้อยเขาก็บุกทำเนียบ