xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” จี้รัฐบาลหยุดปั่นกระแสดิสเครดิตม็อบ ทำสังคมเครียด แย้มซักฟอกถล่ม “ปู” 2 วันเต็ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” เรียกร้องรัฐบาลปรับท่าทีต่อม็อบ “องค์การพิทักษ์สยาม” หยุดปั่นกระแสหวังดิสเครดิตการชุมนุมและสร้างความตรึงเครียดในสังคม หนุนให้องค์กรอิสระร่วมสังเกตการณ์ แย้มศึกซักฟอก จองกฐิน “ปู” 2 วันเต็ม ส่วน 3 รมต.รวมกันอภิปรายฯ วันเดียว เล็งขอขยายเวลาประชุมหากถูกรัฐบาลตีรวนคุณสมบัติ จนญัตติซักฟอกค้างเติ่ง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่า รัฐบาลกำลังให้ข่าวที่ทำให้เหตุการณ์น่ากลัวและตึงเครียดขึ้น ซึ่งการที่คนในรัฐบาลให้ข้อมูลว่าจะมีการทำผิดกฎหมาย หรือมีแผนหลายอย่าง ตลอดจนการสั่งการลักษณะของการสกัดกั้นก็ไม่ได้เป็นผลดี และเพิ่มความตึงเครียด ความขัดแย้งขึ้นมาเปล่าๆ จึงอยากเห็นรัฐบาลปรับท่าที

ส่วนช่วงเวลาการชุมนุมที่เป็นช่วงเดียวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจทำให้คนในรัฐบาลเชื่อมโยงว่าเป็นการแบ่งงานกันทำของฝ่ายค้าน ส.ว.และผู้ชุมนุมนั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยืนยันว่าไม่ใช่ และอาจมองได้ว่ารัฐบาลจะสร้างสถานการณ์โดยบีบให้มีการอภิปรายในช่วงนี้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ตนเห็นแต่ละฝ่ายควรทำหน้าที่ของตนเองไป ทุกคนมีหน้าที่ที่จะทำทั้ง ส.ว., ส.ส., รัฐบาล, นายกรัฐมนตรีจึงไม่ควรสร้างข่าวใส่ร้ายป้ายสีกันเพื่อหวังผลดิสเครดิตผู้ที่มาชุมนุม และเพื่อปลุกระดมผู้สนับสนุนรัฐบาลเอง

“ถ้ารัฐบาลคิดถึงระบบ และคิดถึงการสร้างความเชื่อมั่นในบ้านเมืองแล้ว วิธีการก็ต้องเคารพสิทธิของแต่ละฝ่าย แล้วก็ทำหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองในขณะนี้ก็เพราะว่ารัฐบาลคิดถึงความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองเฉพาะหน้าของตนเองมากกว่าการรักษาระบบ แต่สุดท้ายมันก็จะสะสมและย้อนกลับมาทำลายทุกฝ่าย รวมทั้งฝ่ายรัฐบาลเอง”

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า การปฏิบัติการอะไรก็ขอให้รัฐบาลเปิดเผย ซึ่งการให้องค์กรอิสระร่วมสังเกตการณ์การดูแลผู้ชุมนุมนั้น ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งตนก็ย้ำว่าในปี 2552-2553 นั้น รัฐบาลทำให้สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศสามารถสังเกตการณ์การปฏิบัติการได้ตลอด เพราะฉะนั้น การที่จะให้ใครมาสังเกตการณ์นั้นเป็นเรื่องดีไม่ได้มีปัญหาอยู่แล้ว หรือรัฐบาลอยากจะถ่ายทอดสดการชุมนุมทุกช่องเลยก็ได้

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 25-27 พ.ย.นี้ว่า อยากให้ประชาชนติดตามการอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภา และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะปีที่ผ่านมาตนและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน มีเรื่องที่จะพูดเกี่ยวกับรัฐบาลเยอะมาก แต่ก็ได้กลั่นกรองเอาประเด็นหลักๆ สำคัญของประเทศ เช่น นโยบายสำคัญและโครงการที่มีการทุจริต ซึ่งจะเป็นการอภิปรายที่ค่อนข้างกระชับ เพราะตนได้กำชับกับผู้อภิปรายทุกคนว่ามีประเด็นที่ชัดเจนแต่ละคน สมบูรณ์ในตัวเอง ฟังตั้งแต่ต้นจนจบเข้าใจเรื่องเลย ซึ่งก็จะมีหลายเรื่องที่ประชาชนควรจะได้รับรู้ รับทราบถึงการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ว่าล้มเหลว และทุจริตอย่างไร

ทั้งนี้ การอภิปรายรัฐมนตรี 3 คนคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 วัน ส่วนอีก 2 วันก็จะอภิปรายนายกรัฐมนตรี โดยการอภิปรายนายกรัฐมนตรีเราก็จะจัดเป็นหมวดหมู่ เช่น เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดการนโยบายข้าว ซึ่งก็จะมีทั้งในแง่ความล้มเหลว แง่การทุจริต ส่วนการรับมือการประท้วงของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลนั้น เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา แต่ได้กำชับผู้อภิปรายทุกคนให้อยู่ในข้อบังคับ ไม่จำเป็นอย่าเลี้ยวออกไปไหน เดี๋ยว ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอาจอาศัยสิทธิ์พาดพิง จึงให้อภิปรายตรงตัวเลยไม่ต้องขยายวง

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่อาจมีการหยิบยกเรื่องคุณสมบัติ ส.ส.มาโจมตีในสภานั้นว่า ไม่มีความจำเป็นอะไร เพราะว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในศาลปกครอง และขณะนี้ก็มีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตราบใดที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้ชี้ขาด ตนก็ยังไม่พ้นสภาพ ส.ส. และยืนยันว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้นจึงไม่ควรจะมาเสียเวลาของสภาเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ทั้งนี้หากมีการหยิกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาตีรวนก่อนเริ่มการอภิปราย โดยหยิบยกในเชิงข้อกฎหมาย ข้อบังคับ ประธานก็ต้องวินิจฉัยให้จบและเดินหน้าต่อ ซึ่งขณะนี้ประธานก็บอกแล้วว่าญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเรียบร้อย สภาก็บรรจุญัตติแล้ว ซึ่งพวกตนก็เตรียมพร้อมรัฐบาลเองก็ยืนยันว่าจะไม่หนี ส่วนจะมีปัญหาบานปลายมาจากวันที่ 24 หรือไม่นั้น แกนนำผู้ชุมนุมก็บอกแล้วว่าจะจบภายในวันที่ 24 พ.ย.ก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกัน

“ถ้ามีการสร้างสถานการณ์ทำให้อภิปรายญัตติไม่จบ ญัตติก็ยังค้างไว้ และผมก็ต้องเรียกร้องรัฐบาลให้ขยายสมัยประชุม เพราะเห็นเรื่องอื่นยังขยายสมัยประชุมได้เลย เรื่องนี้ก็ต้องขยายได้เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นเปิดสภามาก็ต้องตอบ ซึ่งไม่น่าจะเป็นผลดีกับรัฐบาล” นายอภิสิทธิ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น