ปธ.ส.ส.กทม.ปชป. แจง รบ.ปรับเอ็มโอยูค้าข้าวจีน ไม่ชัดเจนมีการซื้อขายจริงเหตุใช้คำกว้าง แถมระบุสามารถแก้ไขได้ ชี้เจรจา ตปท.ไม่ทำกัน จวกปาหี่บนเวทีโลกหลอก ปชช.ไปวันๆ บี้แจงข้อมูลจริง หยุดเอาความเชื่อมั่นเศรษฐกิจมาล้อเล่น เหตุกระทบเอกชน หวังผลแค่ทางการเมือง
วันนี้ (21 พ.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่ไทยกำลังจะเซ็นบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ในการขายข้าวกับประเทศจีนว่า ข้อตกลงของเอ็มโอยูที่ลงนามกันในวันนี้แตกต่างจากเอ็มโอยูฉบับเดิมที่ได้มีข้อตกลงว่าจะขายข้าวให้กับจีนตามสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวนปีละ 5 ล้านตันเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ 2556-2558 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่เอ็มโอยูฉบับที่แก้ไขใหม่มีแต่เพียงกรอบกว้างๆ ในการดำเนินการขายข้าวเท่านั้น ซึ่งตนขอตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลมีความเร่งรีบในการเร่งอนุมัติเอ็มโอยูดังกล่าว โดยยังไม่มีความชัดเจน นอกจากเป็นการทำลายน้ำหนักข้อมูลการอภิปรายของฝ่ายค้านแล้ว ยังกำลังหลอกสังคมว่ารัฐบาลไทยสามารถระบายข้าวในโครงการรับจำนำของรัฐบาลออกไปได้แล้ว อีกทั้งมติ ครม.ดังกล่าวออกมาเพื่อหวังผลทางการเมืองมากกว่าเหตุผลทางด้านการค้า
นายองอาจระบุต่อไปว่า เอ็มโอยูดังกล่าวที่จะมีการลงนามในวันนี้ ชี้ชัดว่าเป็นเอ็มโอยูที่ไร้น้ำหนัก ซึ่งไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณว่าจะมีการซื้อขายข้าวจริงแต่อย่างใด เพราะในข้อตกลงดังกล่าวมีการใช้คำอย่างกว้างๆ เช่น สนับสนุนการค้าข้าว การสร้างบรรยากาศ การส่งเสริมตลาด เป็นต้น ไม่มีความรัดกุมและไม่มีการบังคับให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ที่สำคัญก็คือ ข้อที่ 4 ที่ระบุในเอ็มโอยูฉบับนี้ก็คือ เป็นเอ็มโอยูที่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งปกติในการเจรจาระหว่างประเทศจะไม่ทำกัน แต่เนื่องจากจีนยังไม่ได้มีการตกลงกับไทยในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเมื่อถึงวันลงนามในวันนี้ จีนถึงยังไม่รับร่างนี้แต่อย่างใด
“พฤติกรรมของรัฐบาลในเรื่องนี้ เป็นการเล่นปาหี่ในเวทีระดับโลก ถือเป็นการขายผ้าเอาหน้ารอดหลอกลวงประชาชนไปวันๆ ดังนั้น ขอเรียกร้องให้รัฐบาลอย่าเอาความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจมาเป็นการล้อเล่นทางการเมือง เนื่องจากไม่เป็นผลดีแล้วยังทำลายความเชื่อมั่นของภาคเอกชนทำเกิดข้อสงสัยในตัวรัฐบาลด้วย ดังนั้น รัฐบาลควรจะบอกความจริงกับประชาชนในเรื่องดังกล่าวจะมีประโยชน์มากกว่าการพยายามหาเครื่องมือเพื่อคุยโม้โอ้อวดหลอกลวงประชาชนไปวันๆ” นายองอาจกล่าว