“ชายจืด” เคาะสมองปรับเกมช่วย รบ.สู้ศึกม็อบไล่ - อภิปรายไม่ไว้วางใจ

พท.หวังใช้ “กรมกร๊วก-อสมท” กระบอกเสียงต้านม็อบ ล้อมวงเก็งข้อสอบฝ่ายค้าน เชื่อ “ปู” โดนแน่ “จำนำข้าว-ไซฟ่อนเงิน-พาสปอร์ตพี่ชาย-ว.5โฟร์ซีซั่นส์” หนักใจ “ชัจจ์” เจอกระทบชิ่งหลังคนใกล้ชิดหาประโยชน์ ด้าน “นพดล” ยกคำ ปธน.สหรัฐฯ ไทยเป็นแม่แบบ ปชต. อัดม็อบเสธ.อ้ายเคลื่อนไหวแช่แข็งทำร้ายประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย วันที่ 19 พ.ย.ว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นำโดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ทำการประชุมหารือสถานการณ์การเมืองถึงการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยช่วงหนึ่งได้มีการเชิญรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์ และประสานงานกับสื่อมวลชน เช่น นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธีระพงษ์ โสดาศรี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และนายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อวางยุทธศาสตร์ด้านการข่าว ทำความเข้าใจในการนำเสนอคำชี้แจงของรัฐบาลในเรื่องที่ถูกโจมตี รวมทั้งทิศทางการนำเสนอข่าวในช่วงนี้ที่จะมีการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้ในวงประชุมดังกล่าวยังได้หารือเตรียมข้อมูลสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยคาดการณ์ประเด็นที่ฝ่ายค้านใช้ในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นจะเป็นข้อมูลโดยรวมทั่วไปที่ฝ่ายค้านจะโจมตีเรื่องการบริหารล้มเหลว เน้นหนักไปที่เรื่องโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งจะวางตัว ร.ต.อ.เฉลิม และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมชี้แจงในเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังเตรียมข้อมูลที่คาดว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องการไซฟ่อนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท เรื่องพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงกรณี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ด้วย สำหรับรายของ พล.อ.อ.สุกำพล และ พล.ต.ท.ชัจจ์ ที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าไปที่เรื่องการทุจริตในการบริหารงานกระทรวงคมนาคมนั้น คณะยุทธศาสตร์คาดว่าเป็นเรื่องที่คนใกล้ตัว พล.ต.ท.ชัจจ์ถูกตั้งข้อสงสัยว่าไปรับผลประโยชน์โดยมิชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันที่ 21 พ.ย. นายกรัฐมนตรีจะเรียกรัฐมนตรีและคณะทำงานของพรรคที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมทั้งการบริหารจัดการติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม มาประชุมที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลด้วย

ด้าน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตหัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีฯ จะเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่า การที่ใครจะไปร่วมชุมนุมนับเป็นสิทธิ พล.ร.อ.พะจุณณ์ก็ถือเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญของการเมืองไทย มีนัยยะที่สังคมเข้าใจได้ว่าหมายความว่าอย่างไร ก็เป็นเรื่องดีที่ไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน หรือทำอะไรลับๆ ล่อๆ กัน อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือการชุมนุมต้องอยู่ในกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ

“เมื่อท่านเขียนมันขึ้นมาก็กรุณาทำตามด้วย อย่าเขียนด้วยมือแล้วลบด้วยเท้า วันนี้แนวคิดล้มรัฐบาล แช่แข็งประเทศไทย ล้วนน่าเป็นห่วง ฝ่ายรัฐบาลประเมินแล้วว่าการก่อเนิดและการเคลื่อนไหวของม็อบมีความผิดปกติ อ่านไม่ยากว่าเกิดจากขาประจำหน้าเดิมๆ ที่ไม่พอใจพรรคเพื่อไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ ตัวละครก็ปรากฏหน้าทีวีทั้งหมด แต่ไม่อยากพูดว่าเปิดหน้าชน” นายนพดลกล่าว

นายนพดลกล่าวอีกว่า หลังจากเหตุการณ์เมื่อปี 2553 ที่มีคนตาย ทุกอย่างก็ต้องกลับไปสู่จุดที่ต้องถามความเห็นจากประชาชน และการเลือกตั้งปี 2554 ประชาชนก็ได้ตัดสินแล้วว่าให้พรรคเพื่อไทยมาบริหารประเทศ เหตุใดจึงไม่เคารพ ไม่ยอมอดทนรอให้รัฐบาลบริหารประเทศครบ 4 ปีก่อน การออกมาเคลื่อนไหวกดดัน ประกาศแช่แข็งทำร้ายประเทศเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม วันนี้รัฐบาลอยากเห็นการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกายังบอกว่าประเทศไทยเป็นประเทศแม่แบบของประชาธิปไตย นายกฯ กำลังนำพาไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ต่างชาติและรัฐบาลกำลังสร้าง แต่กลายเป็นว่าคนส่วนน้อยกำลังทำลาย