“เฉลิม” ผวาติดคุก ส่งไม้ต่อ ผบ.ตร.รับผิดชอบควบคุมม็อบ “เสธ.อ้าย” รัฐบาลแค่ทำหน้าที่บูรณาการกฎหมายให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้ ขู่ผู้ร่วมชุมนุมระวังมือที่ 3 ก่อเหตุ ใครกลัวไม่ต้องเข้าร่วม อ้างใช้กำลังเจ้าหน้าที่ 5 หมื่นคุมม็อบป้องกันเหตุปะทะ ยุสื่อไม่ควรทำข่าวกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามถ้าไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย
วันนี้ (14 พ.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามในวันที่ 24-25 พ.ย.นี้ว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นการใช้สิทธิที่ชอบ ผู้ชุมนุมคงเคารพสิทธิของผู้อื่นและเคารพกฎหมาย โดยตนจะใช้วิธีการละมุนละม่อมไม่ลงมาเกี่ยวข้องกับในการควบคุมม็อบ แต่มอบให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้รับผิดชอบ ทางรัฐบาลจะบูรณาการกฎหมายให้ ผบ.ตร.สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และเชิญองค์กรอิสระ สหประชาชาติ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศมาเป็นสักขีพยานว่าการทำงานของเจ้าหน้าทียึดหลึกสากล จะได้ไม่มีปัญหาหลังเหตุเกิดแล้วต้องมาดำเนินคดีกัน
ทั้งนี้ยังห่วงเรื่องมือที่ 3 เพราะหากเกิดเหตุอะไรขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ จึงอยากให้พี่น้องประชาชนใช้ดุลพินิจให้ดีว่ายังที่จะทำตามที่องค์การพิทักษ์สยามคิดหรือไม่ นอกจากนี้ ในวันที่ 15 พ.ย.ตนจะประชุมตรวจความเรียบร้อยที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อีกครั้งหนึ่ง หวังใจว่าพี่น้องประชาชนส่วนหนึ่งคงไม่มาร่วมด้วย เพราะเป็นช่วงสำคัญที่ประเทศไทยได้รับเกียรติจากผู้นำระดับโลก
ส่วนการรับมือกลุ่มที่ต่อต้านนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานั้น ร.ต.อ.เฉลิมปฏิเสธว่ายังไม่มีเรื่องนี้ เพราะขณะนี้มีแต่กลุ่มที่ขยับเพื่อจะจัดการกับรัฐบาลอย่างเดียว
ส่วนการเตรียมแผนรักษาความปลอดภัยการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายบารัค โอบามานั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เตรียมไว้หมดทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหา แผนเหล่านี้บอกไม่ได้ แต่ตำรวจมีความพร้อม และในวันที่ 15 พ.ย.จะมีการประชุมสรุปอีกครั้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และหน่วยล่วงหน้าสหรัฐฯ เองพอใจ และอนุญาตให้มีการปิดการจราจรถนนด้านนอกรอบทำเนียบ รวมถึงเฝ้าระวังจุดสูงข่ม
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวถึงการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ถึง 5 หมื่นนายในการควบคุมการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่า เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนมาเผชิญหน้า และเพื่อดูแลความเรียบร้อยปลอดภัยประชาชน ขณะที่ประธานรัฐสภาเองได้ทำทางเข้า-ออกที่รัฐสภาให้เรียบร้อยแล้ว หากเข้าข้างหน้าก็ออกข้างหลัง หากเข้าข้างหลังออกข้างหน้า เพราะถ้าเผชิญหน้าปัญหาจะเกิด
ส่วนกลุ่มทุน 85 รายที่สนับสนุนการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามนั้น ทางสันติบาลรายงานว่า บางกลุ่มมีจำนวนมาก บางกลุ่มมีจำนวนน้อย แต่ตั้งตนเองเป็นกลุ่ม ส่วนนายทุนตนได้ประสานไปแล้ว 4 กลุ่ม ซึ่งเขาก็ได้อธิบายความให้ฟังว่าใครมาติดต่อเขาบ้างแต่สุดท้ายแล้วเขาไม่ให้ ยังมีบ่อนเล็กๆ น้อยๆ อย่างบ่อนบางนา เตาปูน ส่วนแหล่งยาเสพติดยังไม่ชัด
ส่วนที่ พล.อ.บุญเลิศจะแถลงข่าวทุกวันนั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า กำลังบอกสื่อว่าถ้าไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวายอย่าไปทำก็จบ ส่วนที่มีการติงเรื่องฤกษ์ชุมนุมเวลา 09.01 น.ที่องค์การพิทักษ์สยามกำหนดว่าจะมีการประสานให้ พล.อ.บุญเลิศเปลี่ยนแปลงหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่าตนไม่พูดกับท่านเพราะเป็นสิทธิส่วนตัว แต่เห็นหรือไม่ว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ให้สัมภาษณ์ดุมาก ขนาดอายุมาก บอกวันที่ 2 บอกว่าจบ ถึงได้ห่วงเอาเจ้าหน้าที่มาเยอะ
“ผลสำรวจประชาชนนิยมรัฐบาล บอกว่าสถานการณ์สุกงอมในมุมมองไหน ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายค้านโหมโรงคึกคัก รำแบบทศกัณฐ์ พอยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเปลี่ยนมารำแบบพระราม พระลักษณ์ แล้วสถานการณ์รัฐบาลสุกงอมตามที่ น.ต.ประสงค์พูดตรงไหน เป็นรัฐบาล 3 วัน น.ต.ประสงค์ก็มองว่าสุกงอมแล้ว ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล น.ต.ประสงค์ต่อวีซ่าไม่ต้องเลือกตั้ง มันเป็นที่รู้กันอยู่ อยากให้ชุมนุมอย่างสงบไม่ต่อเนื่อง และอย่ามีเรื่องแต่ไปบังคับผู้ชุมนุมไม่ได้ ประเทศประชาธิประชาธิปไตยก็เป็นอย่างนี้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินอย่างไรหากมีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษควบคุมม็อบ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าค่อยๆ ปรึกษาหารือ ชี้คนเดียวไม่ได้ ไม่อยากอึกทึกคึกโครม เพราะกฎหมายที่มีอยู่ใช้กันก็พอ แต่ที่ใช้กันไม่ได้เพราะเราประนีประนอมกัน แต่ตนเป็นห่วงว่าใครมาทำอะไรไม่ดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมจะโกลหล ส่วนจะใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงเป็นหลักหรือไม่นั้นค่อยมาคิดกัน แน่นอนผู้ที่มาชุมนุมไปสกัดกั้นไม่ได้ แต่ถ้าได้ดูโทรทัศน์อาจเปลี่ยนใจไม่มา เมื่อเห็นการเยือนของผู้นำหลายประเทศ เมื่อประเทศอินเตอร์แล้วจะมาแช่แข็งประเทศ 5 ปีแล้วจะทำยังไง