“นิคม” เผยยื่นวาระ ส.ว.ซักฟอกเพิ่มแล้ว คาดได้คำตอบ 20 พ.ย. ปัดสอดคล้องพิทักษ์สยามชุมนุม “สุรชัย” ย้อนคำพูดนายกฯ ให้แก้ปัญหาในสภาฯ ดักไม่มาต้องตอบสังคม แนะซ้อมใหญ่ก่อนซัดกับฝ่ายค้าน “ไพบูลย์” ชม ปธ.วุฒิ แต่ติงล่าช้า ดัก รมต.ไม่มาเหมือนละเลยหน้าที่ เผยเป็นไปได้ขออภิปรายหลังม็อบเสธ.อ้าย ชุมนุม
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กรณีการอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรีชี้แจงข้อเท็จจริงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการ โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ว่า ขณะนี้ได้มีการบรรจุระเบียบวาระการประชุมวันที่ 23-24 พ.ย. แล้ว และการประชุมดังกล่าวจะมีความเป็นไปได้ใน 2 แนวทางคือ 1.แม้จะไม่มีคณะรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมรับฟัง แต่หากมติที่ประชุมเห็นสมควร ก็จะเป็นการอภิปรายฝ่ายเดียว หรือ 2.หากสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่ามีความจำเป็นที่คณะรัฐมนตรีต้องร่วมรับฟังด้วย ก็อาจจะเลื่อนนำเอากฎหมายที่ค้างพิจารณามาดำเนินการก่อน และไปเริ่มอภิปรายตามมาตรา 161 ในวันที่ 28 พ.ย. แทน ทั้งนี้ ทางวุฒิสภาได้มีการแจ้งความประสงค์ในการอภิปรายวันที่ 23-24 พ.ย. ต่อคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ไปตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน คาดว่าจะได้รับคำชี้แจงตอบกลับภายในวันที่ 20 พ.ย.นี้
ส่วนข้อสังเกตที่ว่า การอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภาสอดคล้องกับการนัดชุมนุมขับไล่รัฐบาลของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่มี พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เป็นแกนนำนั้น นายนิคม กล่าวว่า การอภิปรายในส่วน ส.ว.กับการชุมนุมไม่เกี่ยวข้องกัน และเท่าที่ติดตามข่าวเชื่อว่า การชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามไม่มีเหตุรุนแรง อีกทั้ง ส.ว.ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่ผู้ชุมนุมจะต่อต้าน ดังนั้น ถึงจะมีการประชุมในวันดังกล่าวก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาแต่อย่างใด
ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 กล่าวว่า ขณะนี้ประธานวุฒิสภา ได้ทำหนังสือส่งไปยังรัฐบาล และวาระการประชุมของวุฒิสภาก็ออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเริ่มอภิปรายตั้งแต่เวลา 09.30-22.00 น. โดยมีเวลาอภิปรายทั้งหมด 24 ชั่วโมง แต่ขณะนี้ยังไม่มีคำตอบจากรัฐบาล ทั้งนี้ หากในวันดังกล่าวคณะรัฐมนตรีติดภารกิจ และไม่มีใครเข้าชี้แจงต่อวุฒิสภานั้น เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องตอบคำถาม และต้องให้เกียรติต่อวุฒิสภาด้วย ซึ่งอยากเห็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่าอยากให้ใช้เวทีสภาแก้ไขปัญหาให้บ้านเมืองด้วย ซึ่งจะเป็นบททดสอบว่าฝ่ายรัฐบาลจะใช้เวทีสภาแก้ไขปัญหาหรือไม่ เพราะทั้งหมดเป็นเรื่องเปิดโอกาสให้รัฐบาลใช้ช่องทางผ่านเวทีรัฐสภาเพื่อชี้แจงข้อสงสัยต่อวุฒิสภา และต่อสังคม ขณะเดียวกัน หากรัฐบาลตอบรับการอภิปรายในวันที่ 23-24 พ.ย.นี้ ก็เหมือนเป็นการอุ่นเครื่องซ้อมใหญ่ให้รัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย
ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน กล่าวว่า ขอชื่นชมประธานวุฒิสภาที่บรรจุวาระการประชุมอภิปรายทั่วไปในวันที่ 23-24 พ.ย. เป็นเรื่องด่วนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 เพราะจะได้เป็นแนวทางต่อไปของวุฒิสภาในการพิจารณาญัตติเช่นนี้ แต่ถ้าจะให้ดีในคราวหน้าไม่ควรจะเกิน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ ส.ว.ยื่นญัตติจะดีกว่า เนื่องจากเหล่า ส.ว.ได้เข้าชื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. และได้รับปากว่าจะได้อภิปรายในสิ้นเดือน ต.ค. แต่ต้องรอถึง 47 วัน จึงจะได้อภิปราย จึงถือว่าล่าช้าไปมาก ส่วนที่คณะรัฐมนตรีทั้ง 36 ท่าน อยู่ห่างจากรัฐสภาเพียงไม่กี่เมตร ถ้าจะไม่ว่างมาตอบญัตติการบริหารราชการแผ่นดินต่อวุฒิสภา ถ้าไม่เรียกว่าเป็นการละเลยปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกอย่างไร อย่างไรก็ตาม ทราบว่าจะมีการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามในวันที่ 24 พ.ย. ตรงกับการประชุมของวุฒิสภา ถ้าเป็นไปได้ก็อยากอภิปรายในวันที่ 23 พ.ย. ก่อน แล้วค่อยไปต่อวันที่ 28 พ.ย. จะดีกว่าหรือไม่