xs
xsm
sm
md
lg

วาระร้อนรับมือ “เสธ.อ้าย” ผวาภาพหลอนแดงเผาเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สะเก็ดไฟ

ประชุมคณะรัฐมนตรี อังคารที่ 20 พ.ย.นี้ วาระร้อนที่ถูกจับตามองมากสุด คงไม่พ้นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีจะเห็นชอบกับข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เสนอให้รัฐบาลประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อดูแลสถานการณ์และควบคุมการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ภายใต้การนำของ เสธ.อ้าย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ที่นัดชุมนุมใหญ่เช้าวันที่ 24 พ.ย.นี้ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า

มีข่าวว่าวันจันทร์ที่ 19 พ.ย.นี้ จะมีการเรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามก่อน ว่าสมควรเสนอให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ โดยจะเป็นการประชุมเพื่อประเมินความเห็นจากหลายหน่วยงานด้านการข่าว เช่น สำนักข่าวกรองแห่งชาติ, สภาความมั่นคงแห่งชาติ, กองบัญชาการตำรวจสันติบาล จะเห็นควรอย่างไรต่อการใช้กฎหมายพิเศษเพื่อเตรียมพร้อมการชุมนุมหากเกิดเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น

จากนั้นถึงจะนำความเห็นที่แต่ละหน่วยเสนอนำไปประมวลสถานการณ์ให้ ครม.รับทราบ และตัดสินใจว่า จะมีการใช้ พ.ร.บ. มั่นคงฯ หรือไม่

ถึงตอนนี้เสียงเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยจากพวกรัฐมนตรีทั้งหลายต่อการใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ยังไม่ชัด ดูแล้วคงเคาะกันหลังจาก ฟังการประเมินสถานการณ์จาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล สตช. กลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อังคารนี้

อย่างไรก็ตาม มีรัฐมนตรีหลายคนที่มีท่าทีเห็นด้วยกับการประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ โดยอ้างว่า การข่าวภายในที่รัฐบาลได้รับ ทำเอารัฐมนตรีหลายคนเกิดอาการวิตกจริตกันไปมากพอสมควร ถึงขั้นบอกว่า จะเป็นการนัดชุมนุมเพื่อนำไปสู่การรัฐประหาร บ้างก็ว่าจะเกิดเหตุถึงขั้นเลือดตกยางออก!

ก็ไม่รู้กลัวอะไรหนักหนา ทั้งที่แกนนำและกลุ่มภาคีเครือข่ายที่จะมาร่วมชุมนุมก็บอกแล้วว่า ชุมนุมอย่างสงบ ไม่ยืดเยื้อ แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ปล่อยข่าวทำลายเครดิตกลุ่มเสธ.อ้ายรายวัน เพื่อหวังทำให้ผู้คนหวาดกลัวจะเกิดเหตุรุนแรงจนไม่กล้าไปร่วมชุมนุม รวมถึงเพื่อทำให้เกิดกระแสต่อต้าน คิดไปว่าพวกเสธ.อ้ายจะนำประเทศไปสู่การปฏิวัติ จะได้ออกมาต่อต้านม็อบเสธ.อ้าย

ดูอย่างคำให้สัมภาษณ์ของ “ประชา ประสพดี” รมช.มหาดไทย รหัส มท.3 พูดให้ร้ายป้ายสีประชาชนไปทั่ว ไม่ทิ้งนิสัยเดิมๆ ก่อนเป็นรัฐมนตรี บอกว่าวันนัดชุมนุมจะมีการวางแผนสร้างความปั่นป่วนเป็นลำดับชั้น โน้มน้าวผู้ชุมนุมให้เคลื่อนตัวไปปิดล้อมทั้งทำเนียบ รัฐสภา ก่อให้เกิดความวุ่นวายในระบบสาธารณูปโภค

“พร้อมทั้งวางเกมลามปาม กดดัน บีบคั้นให้รัฐบาลทำตามเงื่อนไข ด้วยการไปยังท่าน้ำศิริราช ซึ่งก็ต้องถามว่าไปตรงนั้นทำไม สมควรหรือไม่ ผมรู้ดีว่าบางคนบางกลุ่มคิดอะไรอยู่ ขอเตือนกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่า อย่าพยายามใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย หรือทำอะไรเลยเถิด เพราะไม่ใช่แค่คนเสื้อแดงเท่านั้นที่ไม่ยอม ประชาชนทั่วไปก็จะไม่ยอมด้วยแน่ วันนี้พฤติกรรมการแสดงออกของแกนนำส่อสัญญาณว่า เป็นม็อบอันธพาล ไม่มีหลักการเหตุผลอะไร คิดแต่จะล้มล้างรัฐบาล แช่แข็งประเทศ ขอร้องว่าอย่านำพาประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไปเสี่ยงอันตราย”

นี่แหละสันดานรัฐบาลเพื่อไทย ทีพวกตัวเองคิดวางแผนนัดชุมนุมใหญ่ในกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 52 และ 53 โดยเฉพาะช่วงเมษายน-พฤษภาคม 53 ที่สุดท้ายก็เกิดเหตุเผาบ้านเผาเมือง ตอนนั้นก็อ้างว่าเป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ทั้งที่เป้าหมายก็คือจะโค่นล้มรัฐบาลเวลานั้น และสร้างเหตุการณ์จราจลหลายจังหวัดทั่วประเทศ

ตอนนัดชุมนุมก็อ้างสารพัด สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย พอรัฐบาลเพื่อไทยจะโดนการชุมนุมของประชาชนบ้าง ก็เอาลูกไม้เก่าๆ ทำลายฝ่ายตรงข้ามด้วยการป้ายสีสารพัด หวังทำลายเครดิตฝ่ายตรงข้าม

มท.3 ประชา คนเดียวยังไม่พอ อีกคน มท.2 พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รายนี้ก็เสื้อแดงตัวพ่อ มีบทบาทสำคัญยิ่งในการชุมนุมเสื้อแดงปี 53 โดยเฉพาะงานด้วยการวางแผนให้แกนนำ นปช. และถูกมองว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ให้เวทีเสื้อแดง ทั้งที่สะพานมัฆวานฯและสี่แยกราชประสงค์ จึงไม่แปลกที่ทำไม ไม่โดนปรับออกจาก ครม. อยู่มาสองกระทรวงใหญ่แล้ว ทั้งที่คมนาคม-มหาดไทย

“เสี่ยชัจจ์” ออกมาผสมโรง หวังสกัดไม่ให้คนไปร่วมชุมนุมลานพระบรมรูปทรงม้า โดยบอกว่าการชุมนุมครั้งนี้ กลุ่มแกนนำจัดชุมนุมกลุ่มนี้เคยจัดตั้งมวลชนจัดการชุมนุมแล้ว มีระเบิดปิงปองทำให้คนบาดเจ็บถึงตายมาแล้ว จึงมีโอกาสจะเกิดความวุ่นวายถึงขั้นเลือดตกยางออกได้ พร้อมอ้างว่า ต้องจับตามือที่สาม เพราะมือที่หนึ่งที่ใช้มือที่สาม มาก่อเหตุ

“เป็นเป้าหมายของหลายคนที่ใช้ความวุ่นวายไปเป็นบันไดไปสู่ความรุนแรง และนำไปสู่การปฏิวัติ รัฐประหาร”

แล้วก็ผสมโรงด้วย พล.ท.มนัส เปาริก ที่ปรึกษา รมช.มหาดไทย (ประชา ประสพดี) แกนนำกลุ่มเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ก็มีบทบาทสำคัญในการชุมนุมเสื้อแดงปี 53 จนถูกขึ้นบัญชีดำ สั่งห้ามทำธุรกรรมทางการเงินมาแล้วช่วงเสื้อแดงชุมนุมปี 53 ก็ออกมาอ้างว่า ได้มอนิเตอร์สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม พบว่าจะมีกลุ่มทหารผ่านศึกที่นำโดย “นายพลคอสเมติก” นำขบวนเข้าร่วมชุมนุม 1-2 พันคน นอกจากนั้นเป็นกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และทหารประจำการที่อยู่ในหน่วยรอบ กรุงเทพมหานคร ไม่เกิน 100 กิโลเมตร บริเวณจังหวัดใกล้ๆ เช่น ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และกาญจนบุรี โดยส่วนนี้จะทำหน้าทีเป็นการ์ดรักษาความปลอดภัย

เท่ากับว่า พล.ท.มนัส ที่ทำงานการข่าวให้กับแกนนำรัฐบาลบางคนอ้างว่า ชุมนุมครั้งนี้จะมีทหารประจำการในแถบจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพมหานคร อย่างฉะเชิงเทรา ชลบุรี และกาญจนบุรี ที่ก็คงเป็นพวกพลทหาร หรือทหารเกณฑ์ ถูกเกณฑ์มาร่วมชุมนุมด้วย

เท่ากับว่า พล.ท.มนัสกำลังจะบอกว่ามีทหารอยู่เบื้องหลังการชุมนุมขับไล่รัฐบาลด้วยทำนองนั้น ทั้งที่ผู้นำเหล่าทัพอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ก็บอกชัดว่า ทหารไม่ยุ่งการเมือง ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมการเมืองครั้งนี้ แล้วแบบนี้จะหมายความว่าอย่างไร

ดูอาการของคนในรัฐบาลที่นั่งอยู่ในกระทรวงมหาดไทยทั้ง ประชา-พล.ต.ท.ชัจจ์-พล.ท.มนัส แล้ว เห็นเลยว่าแม้จะบอกว่าไม่หวั่นไหวกับการนัดชุมนุม แต่มันออกอาการปากกล้าขาสั่น พูดไปขาสั่นไป ถึงขั้นต้องออกมาเต้าข่าวมั่วรายวัน เพื่อหวังสกัดประชาชน

ไม่รู้เพราะเคยร่วมวางแผนจัดม็อบช่วงปี 53 เลยกลัวแผนนั้นมันจะย้อนศรมาถึงรัฐบาลตัวเอง ใช่หรือไม่ ถึงกลัวลนลานแบบนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น