แกนนำองค์การพิทักษ์สยาม ยื่นหนังสือถึง รมว.มหาดไทย ยืนยันเจตนารมณ์ชุมนุม 24 พ.ย.สงบไม่รุนแรง พร้อมคัดค้านสั่งผู้ว่าฯ สกัดม็อบ “ชัจจ์” ยันไม่เคยสั่ง เผยกับนักข่าวห่วงมือที่ 3 ป้ายสีม็อบกลุ่มนี้เคยทำระเบิดปิงปอง หวั่นเลือดตกยางออก เผยมี กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ไม่พอใจต่อสาย บอกจะแสดงออกต้าน ส่วนเรื่องซักฟอกบอกเตรียมข้อมูลจะสมบูรณ์แล้ว
วันนี้ (16 พ.ย.) ที่กระทรวงมหาดไทย พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ รองประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ผ่าน พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย โดย พล.ร.อ.ชัย กล่าวว่า เหตุที่มายื่นหนังสือเพื่อแจ้งให้ รมว.มหาดไทย ทราบถึงการเคลื่อนไหวขององค์การพิทักษ์สยาม ว่าจะชุมนุมด้วยความสงบ ไม่ใช้ความรุนแรง โดยจะไม่มีการเผาบ้าน เผาเมือง ยึดโรงพยาบาล หรือเผาศาลากลาง อย่างที่มีผู้ชุมนุมบางกลุ่มเคยทำ รวมถึงต้องการแสดงจุดยืนคัดค้านนายจารุพงศ์ที่ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สกัดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และขอคัดค้านการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ได้มีเจตนาก่อให้เกิดความรุนแรง และเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง
ด้าน พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า ไม่มีการสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดห้ามไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาชุมนุมอย่างที่เป็นข่าว ทั้งนี้ ที่ รมว.มหาดไทยสั่งการเป็นเพียงการชี้แจงระเบียบ หลักเกณฑ์ให้หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดเข้าใจเท่านั้น โดยการชุมนุมถือเป็นสิทธิของประชาชนที่จะเข้าร่วม ส่วนการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง นั้น เป็นเพียงหลักการกว้างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดกฎเกณฑ์ อำนาจ หน้าที่เท่าที่มีอยูในการดูแลความสงบเรียบร้อย และยืนยันว่า จะดูแลภายใต้ขั้นตอนทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม อยากฝากให้ผู้ชุมนุมจับตามือที่ 3 ที่จะเข้ามาสร้างความวุ่นวายให้ดี
ก่อนหน้าการรับหนังสือดังกล่าว พล.ต.ท.ชัจจ์ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นห่วงกระแสข่าวที่จะมีมือที่สามมาป่วนการชุมนุม เพราะถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุด จึงอยากให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าเข้าไปร่วมชุมนุม เพราะการชุมนุมโดยกลุ่มที่เคยจัดตั้งมวลชนกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่เคยจัดการชุมนุมแล้วมีระเบิดปิงปอง ทำให้คนบาดเจ็บถึงตายมาแล้ว จึงมีโอกาสจะเกิดความวุ่นวายถึงขั้นเลือดตกยางออกได้ แนะนำถ้าเกิดเหตุรุนแรงหรือการปะทะขอให้อยู่นิ่งๆ เพราะถ้าแตกตื่นจะเหยียบกันตาย ถ้าเกิดการปะทะกันให้หลีกเลี่ยงไป เพราะจะเกิดอันตราย สิ่งที่น่ากลัวมือที่สาม คือ มือที่หนึ่งที่ใช้มือที่สามมาก่อเหตุ มันเป็นเป้าหมายของหลายคนที่ใช้ความวุ่นวายไปเป็นบันไดไปสู่ความรุนแรง และนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร
ส่วนที่จะมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อดูแลสถานการณ์ พล.ต.ท.ชัชจ์กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจที่จะมาดูแลความสงบ หากมีการชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า จะยากต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเป็นจุดที่อยู่ใกล้สถานที่สำคัญ รัฐจะพยายามแก้ไขปัญหาและดูแลสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรง
พล.ต.ท.ชัจจ์ยังกล่าวถึงการเตรียมพร้อมของรัฐบาลในการชุมนุมใหญ่ 24 พ.ย.นี้ว่า การชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้นำการชุมนุม ถ้าเจตนาบริสุทธิ์เมื่อประกาศไว้อย่างไรก็ต้องทำอย่างนั้น ผู้นำต้องมีความรู้ความชำนาญถ้าคุมไม่อยู่หรือสื่อสารกันไม่ได้ก็จะเกิดความวุ่นวายได้
“ผมเคยทำงานทางภาคใต้ จึงได้รับรายงานว่า จะมีประชาชนมาร่วมชุมนุมมาก จึงให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน พยายามชี้แจงห้ามปราม อย่างไรก็ดี มีกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ที่ไม่เห็นด้วยกับคนกลุ่มนี้อยู่จำนวนมาก โดยได้โทรศัพท์มาหาว่าจะมีการออกมาแสดงออกเช่นเดียวกัน โดยอาจจะเป็นการแสดงออกในวันเดียวกับที่มีการนัดชุมนุม ตนเข้าใจว่า คนส่วนมากจะไม่เห็นด้วยและจะชักชวนกันมาแสดงออกด้วยความห่วงใย” พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ชัจจ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ที่ถูกพรรคฝ่ายค้าน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง โดยกล่าวถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ไม่ทราบว่าจะถูกฝ่ายค้านอภิปรายเรื่องใด จึงได้เตรียมข้อมูลสำหรับชี้แจงไว้มากจะครบสมบรูณ์ภายในสัปดาห์หน้า แต่ไม่รู้สึกกังวลสามารถอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้