xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.สส.-ผบ.ทบ.ติงรัฐขุด กม.มั่นคง คาด 19 พ.ย.รู้ใช้หรือไม่ แย้มส่ง “อดุลย์” หัวโต๊ะคุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (แฟ้มภาพ)
แหล่งข่าวความมั่นคงเผย นายกฯ ถกบิ๊กท็อปบูตประเมินสถานการณ์ม็อบเสธ.อ้าย “บิ๊กเจี๊ยบ-บิ๊กตู่” ขอใช้กฎหมายปกติคุม ชี้ยังไม่พบมือที่ 3 เคลื่อนไหว แต่ไม่ขัด “บิ๊กอู๋” จะใช้ ยันทหารไม่ยุ่ง โยนตำรวจจัดการ คาดจันทร์นี้ถกอีกรอบใช้ พ.ร.บ.มั่นคงหรือไม่ แฉ ขรก.กังวลศักยภาพเสธ.อ้ายคุมมวลชน ห่วงพวกป่วนยิงบึ้ม เสียวโดนเล่นเหมือน 7 ตุลาฯ แย้มอาจขุดกฎหมายใช้เหมือนยุค “มาร์ค” หากวุ่น ให้ ผบ.ตร.นั่งหัวโต๊ะรับผิดชอบ

วันนี้ (16 พ.ย.) ที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือร่วมกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชากาทหารอากาศ ที่ห้องรับรองใน ททบ.5 ก่อนอัดเทปคำอาเศียรวาทถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) และขั้นตอนการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า ในระหว่างการพูดคุย พล.อ.ธนะศักดิ์ และพล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าอยากให้ใช้กฎหมายปกติในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยไปก่อน เนื่องจากข้อมูลจากการติดตามสถานการณ์ก่อนหน้านี้ไม่พบว่ามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น และยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือที่ 3 จึงมองว่าไม่น่าจะมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง แต่เมื่อ ผบ.ตร.ต้องการจะให้มีกฎหมายพิเศษเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่จึงไม่อยากจะขัดข้อง โดยทางทหารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว และให้ตำรวจเป็นเจ้าหน้าที่หลักในการดูแลความเรียบร้อย

โดยในวันจันทร์ที่ 19 พ.ย.นี้จะมีการเรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมเพื่อสรุปว่าจะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ โดยเฉพาะการประเมินจากหน่วยงานด้านการข่าว เช่น สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ว่าข้อมูลที่ได้รับเพียงพอที่รัฐบาลจะต้องมีการใช้กฎหมายพิเศษเพื่อเตรียมพร้อมและรองรับสถานการณ์หากเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย หรือความรุนแรงเกิดขึ้น

แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวอีกว่า เบื้องต้นหน่วยงานความมั่นคงมีความกังวลใน 3 ข้อ คือ 1. ศักยภาพของแกนนำคือ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม จะควบคุมกลุ่มมวลชนที่จะเดินทางมาชุมนุมได้หรือไม่ เพราะเท่าที่ตรวจสอบมีหลายองค์กรที่จะเข้าร่วม 2. มือที่ 3 ที่ต้องการสร้างความวุ่นวาย และความสูญเสียให้เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นการปาระเบิด หรือยิงเอ็ม 79 และ 3. การออกมาตรการรองรับคุ้มครองเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในอดีตสมัย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็น ผบ.ตร.ก็ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงกล่าวอีกว่า การดำเนินการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงจะไม่แตกต่างเมื่อครั้งรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยจะมีการดำเนินการเป็นขั้นตอน คือ หากสถานการณ์ยังอยู่ในขั้นที่ควบคุมได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กฎหมายปกติในการดูแลความสงบเรียบร้อย หากสถานการณ์ถึงขั้นที่ส่อว่าจะมีความรุนแรงจะเข้าสู่การใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยมาตรา 15 คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีมติมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกันปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภายในพื้นที่และระยะเวลาที่กำหนดได้ มาตรา 16 ให้ ครม.แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งใดใน กอ.รมน.เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้น หรือมีมติให้หน่วยงานของรัฐนั้นมอบอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมายในเรื่องดังกล่าว ให้ กอ.รมน.ดำเนินการแทนหรือมีอำนาจดำเนินการด้วยภายในพื้นที่และระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งคาดว่าจะเป็น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ดำเนินการออกประกาศในรายละเอียดต่อไป และมาตรา 18 เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ภายในให้ผู้อำนวยการโดยความเห็นชอบของ ครม.มีอำนาจออกข้อกำหนด


กำลังโหลดความคิดเห็น