xs
xsm
sm
md
lg

“ม็อบเสธ.อ้าย” แพ้ศึกแต่สงครามยังไม่แพ้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สะเก็ดไฟ

รูดม่านเก็บฉากไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่คาดการณ์กันไว้ พร้อมด้วยม่านควันของแก๊สน้ำที่จางหายไปในพริบตา สำหรับการชุมนุมของ “องค์การพิทักษ์สยาม” ภายใต้การนำของ “พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ” หรือ เสธ.อ้าย เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

สร้างความผ่อนคลายให้กับสังคมไปมาก แต่ที่ผ่อนคลาย-โล่งอก-สบายใจ มากกว่าใครคงหนีไม่พ้น “รัฐบาล” โดยเฉพาะ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และ “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” รองนายกรัฐมนตรี รวมถึง “กลุ่มคนเสื้อแดง” เพราะในช่วงที่ผ่านมาหวั่นกลัวกันจนแทบจะหายใจไม่ออก

“ม็อบเสธ.อ้าย” ไม่สามารถฝ่าด่าน “พ.ร.บ.ความมั่นคง” ที่ประกาศปิดการสัญจรในบริเวณรอบๆการชุมนุมไปได้ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงเป็น “กำแพงมนุษย์” กันไว้อย่างเข้มแข็ง ทำให้ฝูงชนกว่า 5 หมื่นคน อยู่ในพื้นที่ที่ทาง “ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย” (ศอ.รส.) ขีดเส้นกำหนดไว้เพียงเท่านั้น

ปัจจัยหนึ่งคือต้องยอมรับว่า “ม็อบเสธ.อ้าย” ไม่ใช่ประเภท “ม็อบแฟนคลับ” ที่พร้อมยอมสละเวลา-ชีวิต อยู่ร่วมการชุมนุมได้นานๆ ความแข็งแกร่ง-ความอึด-แนวทางการต่อสู้ ผิดกับการชุมนุมของ “กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” (พธม.) ที่มีบรรดา “แฟนคลับ” มาร่วมการชุมนุม สามารถต่อสู้ยืดเยื้อได้อย่างสบาย

อีกปัจจัยหนึ่ง การกำหนดทิศทางของการชุมนุมยังไม่มีความเป็น “เอกภาพ” ต่างคนต่างเคลื่อน เดินกันคนละทิศคนละทาง เมื่อเจอมาตรการ “รักษาพื้นที่” ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญๆของรัฐบาลก็ทำให้กำลังลดน้อยลงไปโดยปริยาย

เชื่อว่าหากมีการชุมนุมของ “องค์การพิทักษ์สยาม” ในเที่ยวหน้า ไม่ว่าคนนำจะชื่ออะไร แต่คงต้องนำปัจจัยเหล่านี้ไปพิจารณา เพื่อกำหนดทิศทางการชุมนุมต่อสู้กับ “รัฐบาล” ให้สูสีมากกว่านี้

ทว่าเหรียญนั้นมีสองด้านเสมอ “องค์การพิทักษ์สยาม” อาจจะดูเหมือน "แพ้" แต่ที่จริงแล้ว "ไม่แพ้" เพราะเกมที่วางไว้จริงอาจจะไม่ใช้การล้ม "รัฐบาล" ให้ได้ภายในพริบตา หากแต่เป็นการวางแผน-วางเกม ไว้แต่สู้ใน "อนาคต" เพราะหากลองสังเคราะห์ลงไปลึกๆ การชุมนุมของ “องค์การพิทักษ์สยาม” มีได้มากกว่าเสีย

ทั้งได้แสดงให้ “โลก” เห็นว่า “รัฐบาล” จากพรรคเพื่อไทย หากเข้าตาจนก็นิยมใช้ความรุนแรงต่อการสลายการชุมนุมของ “ประชาชน” เช่นกัน ลบข้ออ้างที่พรรคเพื่อไทยชอบใช้กับ “ประชาธิปัตย์” ไปได้เปราะหนึ่ง

และยังได้เช็คกำลังของฝ่าย “รัฐบาล” ว่ามีใครพร้อมทำงานอยู่ร่วมด้วย มีกลไกใดที่จะใช้ต่อสู้การชุมนุม มีใครพร้อมที่จะรับใช้ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี มีใครที่ผันตัวไปตามฐานอำนาจที่เปลี่ยนมือไป มีใครที่ทรยศหักหลังกันบ้าง

ตรงนี้ทำให้บรรดาขบวนการต่อต้าน “พ.ต.ท.ทักษิณ” รู้เช่นเห็นชาติมากขึ้นว่าใครคบได้คบไม่ได้ ใครควรคบหาสมาคมต่อไป

แถมได้รู้ไต๋รูปแบบหรือแผนการต่างของ “รัฐบาล” โดยเฉพาะการใช้กฎหมายพิเศษออกมาควบคุมดูแล รู้ว่าหากประกาศใช้กฎหมายพิเศษ “ฝ่ายการเมือง” จะไม่โดดมาควบคุมดูแลโดยตรงอย่างแน่นอน สังเกตได้จากการที่ “รัฐบาล” มอบหมายให้ “พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ดูแลการชุมนุมแทน โดย “รัฐบาล” ทำหน้าที่เป็นแบล็คอัพคอยเซ็ตข้อมูลให้อยู่ห่างๆ

แม้ “รัฐบาล” จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ แต่เหลี่ยมนี้ “รัฐบาล” ก็ขอเล่นเพลย์เซฟตัวเอง ไม่ถล้ำเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง เพราะหวั่นใจอยู่เล็กๆว่าหากเข้าสั่งการด้วยเอง-ออกหน้าเอง แล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับการชุมนุม อาจจะโดนเล่นงานจาก “องค์กรอิสระ” ได้ในภายหลัง

ที่สำคัญทำให้ได้รู้ชัดเจนขึ้นว่าแท้ที่จริงแล้ว “ผู้บัญชาการเหล่าทัพ” ใครอยู่สายไหน ใครเลือกเส้นทางไหนเดิน เพราะอย่างน้อย “สัญญาณ” ต่างๆถูกส่งออกมาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะท่าทีต่างๆ ในทาง “ลับ”

ท่าทีของ “พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ว่ายังเดิมอยู่หรือไม่

ท่าทีของ “พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่เริ่มมีกระแสข่าวว่าแอบปันใจไปอยู่กับ “ยิ่งลักษณ์” เสียแล้ว แท้ที่จริงเป็นอย่างไร

ท่าทีของ “พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์” ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ที่ถูกมองมาตลอดว่ายังเป็น “แตงโม” อยู่ แท้ที่จริงแล้ว “จุดยืน” ขณะนี้-ตอนนี้ของ “บิ๊กหรุ่น” เป็นอย่างไร

และท่าทีของ “พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง” ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ที่แม้จะสนิทสนมกับ “พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข” องคมนตรี แต่ “พล.อ.ประจิน” ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง จะมีจุดยืนอย่างไร

ทั้งหมดคือสิ่งที่ได้จากการชุมนุมครั้งนี้ เพื่อเป็น “เข็มทิศ” ในการชุมนุมครั้งต่อไปของบรรดาพลพรรคคนเกลียด “แม้ว” เป็น “เข็มทิศ” ให้ขุมกำลังต่างๆ ได้รู้ว่า “ไผเป็นไผ” ในวังวนที่ต่างๆคนต่างสวม “หน้ากาก” เข้าหากัน

แม้ “เสธ.อ้าย” จะประกาศลั่นว่า “ไอ้บุญเลิศตายไปแล้ว จะไม่มีบุญเลิศเข้ามาร่วมการชุมนุมทางการเมืองอีกเด็ดขาด เพราะไม่อยากให้มีการชุมนุมเกิดขึ้นครั้งที่ 3 ภายใต้การนำของผม ยอมรับว่าการชุมนุม ผมแพ้”

แต่การชุมนุมต่อต้าน “พ.ต.ท.ทักษิณ” ไม่ได้ “ตาย” ไปกับ “เสธ.อ้าย” เพียงแต่รอเวลาสุกงอมขึ้นมากอีกครั้ง เพียงแต่จะ “สง่างาม” และมี “พลัง” มากน้อยแค่ไหนต้องติดตามสามยอด
กำลังโหลดความคิดเห็น