xs
xsm
sm
md
lg

“สมจิตต์” เผยศาลนัดฟังรับฟ้องหรือไม่คดีอีเมลแดงเพชรบุรีขู่ 6 ธ.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 (แฟ้มภาพ)
“ศาลแขวงดุสิต” ไต่สวนนัดแรกคดีนักข่าวช่อง 7 ฟ้องโจกแดงเพชรบุรีส่งอีเมลขู่ หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง โดยนัดฟังคำสั่งรับหรือไม่ 6 ธ.ค. เชื่อศาลเป็นที่พึ่งได้ ขอรักษาอย่าให้ใครมาทำระบบตุลาการอ่อนแอ พร้อมยื่นอุทธรณ์ต่อหากไม่รับฟ้องจริงๆ ลั่นเดินให้สุดทางเพื่อกระตุ้นสังคมคนไทยต้องเคารพสิทธิ

วันนี้ (13 พย.) ศาลแขวงดุสิตได้พิจารณาคดีที่ น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.พรทิพย์ ปักษานนท์ ประธาน นปช.เพชรบุรี กรณีส่งอีเมลข่มขู่ โดยเป็นการไต่สวนนัดแรกเพื่อพิจารณาว่าจะรับฟ้องหรือไม่ หลังจากที่ตำรวจและอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องในเรื่องนี้ โดย น.ส.สมจิตต์เดินทางไปให้ปากคำด้วยตัวเองพร้อมกับนายกิตติวัฒน์ นิติอัครพัฒน์ ตัวแทนจากสภาทนายความ ซึ่งเป็นผู้ว่าความในคดีนี้ ส่วน น.ส.พรทิพย์ไม่ได้มาศาลแต่ส่งทนายมาซักค้าน โดยไม่ได้มีพยานมาหักล้างข้อกล่าวหา หลังการไต่สวนศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้

ต่อมา น.ส.สมจิตต์ได้โพสต์ข้อความลงเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า หลังจากให้ปากคำในชั้นศาลไว้ว่า ได้ขึ้นศาลครั้งแรกในชีวิต เห็นขั้นตอนการไต่สวน การให้โอกาสทั้งสองฝ่ายจากกรณีที่ น.ส.พรทิพย์ส่งอีเมลข่มขู่แล้ว อยากบอกคนไทยว่ากระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะศาลนั้นเป็นที่พึ่งได้ ช่วยกันรักษาอย่าให้ใครมาทำให้ระบบตุลาการอ่อนแอจนไม่สามารถทำหน้าที่ถ่วงดุลตามระบอบประชาธิปไตยได้อย่างเข้มแข็ง วันนี้ น.ส.พรทิพย์ไม่ได้เดินทางไปรับฟังการไต่สวนและไม่มีพยานใดมาหักล้าง แต่ส่งทนายความมาซักค้าน ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ผู้พิพากษาศาลแขวงดุสิตจึงนัดให้ฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 6 ธันวาคม 55

น.ส.สมจิตต์เขียนว่า ประเด็นสำคัญที่สุดของคดีนี้ คือ ความผิดในการขู่เข็ญสำเร็จแล้วหรือไม่ หรืออยู่ในขั้นตระเตรียมการ ซึ่งกฎหมายไม่มีบทลงโทษ จึงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้พิพากษาว่าจะพิจารณาอย่างไร แต่ก็ได้คุยกับนายกิตติวัฒน์ นิติอัครพัฒน์ ตัวแทนจากสภาทนายความไว้แล้วว่า หากศาลชั้นต้นไม่รับฟ้องก็ยังมีช่องทางที่จะยื่นอุทธรณ์ได้ แม้ว่าเป็นคดีลหุโทษแต่ก็มีข้อยกเว้นว่าจะต้องให้ผู้พิพากษาในศาลชั้นต้นเซ็นรับรองให้ โดยการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมก็จะไปได้ถึงศาลฎีกาตามปกติ

“ไม่ว่าศาลจะรับฟ้องหรือไม่ก็ตาม จะเดินให้สุดทางเพื่อกระตุ้นให้สังคมเห็นว่าประชาชนคนไทยต้องเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน มีสติยั้งคิดก่อนที่จะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน และทุกคนต้องมีสิทธิในทางกฎหมายที่จะปกป้องตัวเองอย่างเท่าเทียมกัน” น.ส.สมจิตต์ระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น