"เฉลิม" เผยเคลียร์ "เสงี่ยม" แล้ว ไม่ขนแดงล้อมทำเนียบ ปูดมือที่สามจ่อป่วน ยันไม่ใช้มาตรการรุนแรง โยน "อดุลย์" จัดการ ไม่ขอยุ่ง ไม่เกี่ยว แนะม็อบมายื่นหนังสือเวิร์กกว่า อ้างฤกษ์เสธ.อ้าย 09.01 น. ไม่สมควร ย้ำไม่อยากให้เผชิญหน้า โวยเศรษฐกิจกำลังดี โอบามาก็จะมา จะกวนน้ำขุ่นทำไม เผยไม่มีผู้นำชาติไหนยกเลิกเยือน เตือน 85 นายทุนม็อบสันติบาลรู้หมดแล้ว ย้ำก๊วนรัฐประหาร กุคนขนบ่อนร่วม พร้อมใช้ตำรวจ 5 หมื่นคุม ปัดรัฐตั้งวอร์รูมจับตา
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.เสงี่ยม สำราญรัตน์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะนำกลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมปิดล้อมบริเวณนอกทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 24 พ.ย. เพื่อป้องกันทำเนียบรัฐบาล ว่า คงไม่ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ได้ทำความเข้าใจกันแล้วในพรรค เราใช้ระบบพรรค มีมติชัดเจน เราเป็นรัฐบาลจะเอาคน 2 ฝ่ายมาเผชิญหน้ากันไม่ได้ และตนไม่ได้มองว่าม็อบ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ แกนนำกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เป็นศัตรู แต่ที่ตนหนักใจและได้ปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งหน่วยงานด้านความมั่นคงทางด้านข่าวสาร เนื่องจากมีการข่าวว่าจะมีการก่อเหตุจากมือที่สาม ส่วนจะเป็นกี่กลุ่มนั้นขณะนี้ยังประมวลไม่ละเอียด แต่รัฐบาลรับรองได้เลยว่าจะไม่มีมาตรการรุนแรงแข็งกร้าวโดยเด็ดขาด และไม่ได้มองว่าประชาชนที่มาชุมนุมเป็นศัตรู มองว่าเป็นการใช้สิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตย แต่เกรงว่าหากมือที่สามก่อเหตุจะควบคุมสถานการณ์ได้ยาก หากโยนระเบิดเข้าใส่ผู้ชุมนุมก็ปั่นป่วนทั้งประเทศ จึงอยากขอร้องพี่น้องประชาชนว่าหากไม่พึงพอใจรัฐบาลให้มายื่นเรื่องร้องเรียนเป็นหนังสือจะเหมาะสมกว่า อีกทั้งในขณะนี้ใกล้วันอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ก็ถือว่าเป็นทิศทางที่ถูกต้อง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า จากการที่ตนอ่านข่าว ตนไม่สบายใจที่ฝ่ายผู้ชุมนุมกำหนดฤกษ์ชุมนุมในเวลา 09.01 น. ซึ่งไม่เหมาะสม ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง และต่อไปนี้เมื่อรัฐบาลบูรณาการมอบหมายเจ้าหน้าที่รัฐดูแลแล้วตนจะไม่ยุ่งเกี่ยวและไม่สั่งการ จะให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้รับผิดชอบ และตนได้มอบนโยบายให้ผบ.ตร.และคณะทำงานเชิญองค์กรอิสระทุกองค์กรมาร่วมรับทราบการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ โดยจะมีการประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันที่ 15 พ.ย. และในวันที่ 20 พ.ย. จะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำหรับกรณีที่เกรงว่าจะมีการบุกรัฐสภา ตนก็คิดแบบคนที่เคยเรียนปราบจลาจล หากผู้ชุมนุมเข้าทางข้างหน้าก็ต้องออกทางข้างหลัง ต้องทำทางออกให้เรียบร้อย ไม่ต้องไปปีนบันไดลิง ซึ่งตนจะให้ตำรวจประสานกับสำนักพระราชวัง อย่างไรก็ตามตนไม่อยากให้มีการเผชิญหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุให้มือที่สามก่อเหตุ และขณะนี้ตนได้วางมาตรการในการรักษาความปลอดภัยไว้หมดแล้ว
เมื่อถามว่า การให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย ส่วนนี้ต้องมีการแต่งตั้งหรือมอบอำนาจให้อย่างเป็นทางการหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ต้องมอบเป็นทางการ ส่วนจะต้องนำคำสั่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่นั้นไม่ขอบอก อีก 2-3 วันก็รู้
“ขณะนี้เศรษฐกิจกำลังดี การท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้น ทั่วโลกยืนยันว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยดีที่สุด ผู้นำระดับโลกมาเยือนประเทศไทย เร็วๆนี้ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็จะมา แล้วจะมากวนน้ำให้ขุ่นกันทำไม เราคนไทยด้วยกัน ขอร้องเถอะ อย่าทำเลย และท่านจะทำรูปแบบไหน ทหารก็พูดชัดว่าไม่เกี่ยวข้องทางการชุมนุม” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
เมื่อถามว่า ผู้นำต่างประเทศที่มีคิวจะมาไทยได้มีการยกเลิกไปบ้างหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีการยกเลิก และยังไม่มีใครถามถึงประเด็นนี้ ยังพอได้อยู่
เมื่อถามว่า อีก 1 สัปดาห์ก่อนจะมีการชุมนุม รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรกับตัวการ รองนายกฯ กล่าวว่า คงทำไม่ได้ เพราะเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามจากการปราศรัยก็ยังไม่เข้าเกณฑ์ ส่วนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็พูดชัดเจนว่าไม่ได้ร่วมด้วย แต่หากมวลชนจะมาฟังการปราศรัยทางพันธมิตรฯก็ไม่ขัดข้อง เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล
เมื่อถามว่า การที่กลุ่มผู้ชุมนุมย้ายสถานที่ไปชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ได้มีการประสานให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยมาหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ได้มีการประสาน แต่ส่วนตัวผมรักกันมานาน ส่วนกรณีกลุ่มนายทุนนั้น ตนขอเตือนว่าตำรวจสันนิบาลรู้หมดแล้ว ว่า 85 กลุ่มมาจากไหน กลุ่มไหนจังหวัดไหนมากี่คน แต่กรุงเทพฯนั้นลำบากเพราะนายทุนเจ้าของบ่อนขนคนมา ทั้งบ่อนบางนา บ่อนบางซื่อ นักการเมืองท้องถิ่นแถวบางรัก และเมื่อคืน (12 พ.ย.) ตนใช้วิธีการต่อสายคุยกับคนที่เป็นนายทุนว่าจะทำให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ทำไม เขาก็ปฎิเสธ แต่ก็สะดุ้งเหมือนกัน เมื่อถามว่า นายทุนที่ว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองด้วยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นรอบเดียวกับเมื่อปี 49
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว 5 หมื่นนาย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มาก และต่อไปนี้จะมีการเติมเจ้าหน้าที่ตลอด แต่จะไม่เอาประชาชนมา จะใช้ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาตำรวจ หน่วยปราบจลาจลทั่วประเทศ และนายตำรวจระดับผู้บัญชาการมาประชุมประเมินสถานการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา รวมถึงเอานายตำรวจระดับผู้การที่มีความรู้มากทั่วประเทศมาอำนวยการ โดยตนเน้นแนวทางสันติ ไม่รุนแรง ไม่ต้องการให้มีการปะทะกัน จึงต้องนำนายตำรวจระดับสูงมารับผิดชอบ เมื่อถามว่า ที่ไม่ให้ทหารมาร่วมด้วย เพราะไม่ไว้ใจหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ รัฐบาลนี้ไว้ใจ เชื่อมั่น และเชื่อถือกองทัพมากที่สุด เมื่อถามว่า มีการตั้งวอร์รูมในส่วนของรัฐบาลเพื่อรับมือผู้ชุมนุมหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ รัฐบาลไม่รับ ให้ตำรวจไปจัดการกันเอง