“พงศ์พิชาญ” บุกรัฐสภารอบที่ 3 จนท.รู้ทันไม่ปล่อยเข้า ฉุนงัดถังแก๊สปิกนิกขู่ระเบิด แต่ถูกรวบก่อน เกือบถูก ปชช.ประชาทัณฑ์ ค้นรถพบแอลกอฮอล์ ส่ง สน.ดุสิตจัดการ
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่รัฐสภา ระหว่างที่มีการประชุมวุฒิสภา ในวาระพิจารณาเลือกประธานวุฒิสภา ได้มีเหตุไม่คาดคิดขึ้นบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา เมื่อนายพงศ์พิชาญ ธนาถิรพงษ์ อายุ 49 ปี ได้ขับรถแท็กซี่รับจ้างสีชมพู หมายเลขทะเบียน ทย 9522 เพื่อทำการประท้วงเกี่ยวกับการขอรับเยียวจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรัฐสภาสามารถจดจำลักษณะรถของนายพงศ์พิชาญเนื่องจากได้มีการติดป้ายคำเตือนไม่ให้รถเลขทะเบียนดังกล่าวเข้ามาในบริเวณรัฐสภา ก่อนที่จะนำแผงเหล็กมากั้นและปิดประตูทางเข้าออกรัฐสภาทันที
จากนั้นนายพงศ์พิชาญได้นำถังแก๊สปิกนิกออกมาพร้อมกับแกลลอนน้ำมันและที่จุดประกายไฟออกมาโชว์ โดยได้ไขกระจกบริเวณคนขับลงมาและขอเข้าไปในรัฐสภา ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าพุ่งไปตะครุบตัวแล้วเปิดประตูรถนำตัวลงมาจากรถ ส่งผลให้ประชาชนที่ยืนดูสถานการณ์อยู่แล้วได้เข้ารุมจะทำร้าย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐสภาเข้ามาห้ามเอาไว้ได้ทัน และเมื่อมีการค้นรถแท็กซี่ยังพบมีขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อหนึ่งอยู่ในภายในที่มีการรับประทานไปแล้วส่วนหนึ่งด้วย หลังจากนั้นเจ้าหน้าจึงได้ส่งตัวนายพงศ์พิชาญและรถไปที่ สน.ดุสิตทันทีเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ นายพงศ์พิชาญได้เคยเดินทางมาที่รัฐสภามาแล้วก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ตั้งแต่สมัยประชุมสามัญทั่วไป ได้แก่ วันประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 1 ส.ค. และวันที่ 14 ส.ค.ระหว่างการประชุมวุฒิสภาเพื่อเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ โดยในวันดังกล่าวนายพงศ์พิชาญได้ขับรถฝ่าขึ้นมาบริเวณชั้น 2 ของอาคารรัฐสภา จนส่งผลให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการสำนักรักษาความปลอดภัยเป็นการเร่งด่วน
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่รัฐสภา ระหว่างที่มีการประชุมวุฒิสภา ในวาระพิจารณาเลือกประธานวุฒิสภา ได้มีเหตุไม่คาดคิดขึ้นบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา เมื่อนายพงศ์พิชาญ ธนาถิรพงษ์ อายุ 49 ปี ได้ขับรถแท็กซี่รับจ้างสีชมพู หมายเลขทะเบียน ทย 9522 เพื่อทำการประท้วงเกี่ยวกับการขอรับเยียวจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรัฐสภาสามารถจดจำลักษณะรถของนายพงศ์พิชาญเนื่องจากได้มีการติดป้ายคำเตือนไม่ให้รถเลขทะเบียนดังกล่าวเข้ามาในบริเวณรัฐสภา ก่อนที่จะนำแผงเหล็กมากั้นและปิดประตูทางเข้าออกรัฐสภาทันที
จากนั้นนายพงศ์พิชาญได้นำถังแก๊สปิกนิกออกมาพร้อมกับแกลลอนน้ำมันและที่จุดประกายไฟออกมาโชว์ โดยได้ไขกระจกบริเวณคนขับลงมาและขอเข้าไปในรัฐสภา ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าพุ่งไปตะครุบตัวแล้วเปิดประตูรถนำตัวลงมาจากรถ ส่งผลให้ประชาชนที่ยืนดูสถานการณ์อยู่แล้วได้เข้ารุมจะทำร้าย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐสภาเข้ามาห้ามเอาไว้ได้ทัน และเมื่อมีการค้นรถแท็กซี่ยังพบมีขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อหนึ่งอยู่ในภายในที่มีการรับประทานไปแล้วส่วนหนึ่งด้วย หลังจากนั้นเจ้าหน้าจึงได้ส่งตัวนายพงศ์พิชาญและรถไปที่ สน.ดุสิตทันทีเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ นายพงศ์พิชาญได้เคยเดินทางมาที่รัฐสภามาแล้วก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ตั้งแต่สมัยประชุมสามัญทั่วไป ได้แก่ วันประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 1 ส.ค. และวันที่ 14 ส.ค.ระหว่างการประชุมวุฒิสภาเพื่อเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ โดยในวันดังกล่าวนายพงศ์พิชาญได้ขับรถฝ่าขึ้นมาบริเวณชั้น 2 ของอาคารรัฐสภา จนส่งผลให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการสำนักรักษาความปลอดภัยเป็นการเร่งด่วน