นายกฯ ยันดูกลาโหมเอง โยน “พงศ์เทพ” เช็กข้อกฎหมาย-สัญญา ให้ “เฉลิม” ดูมหาดไทย ชี้ให้นั่งเบอร์ 1 เรื่องปกติ ย้ำหน้าที่ไม่ต่างจากเดิม รับไม่มีใครดูไฟใต้โดยตรง รอประกาศใช้ ศปก.กปต.ให้ “ยุทธศักดิ์” เข้าไปดู เชื่องานไม่สับสน โอ่ปรับ ครม.เอาผู้มีประสบการณ์เข้ามาเพิ่มทำรัฐแข็งแกร่ง แนะอย่ามองเอาโจกแดงได้ดีตอบแทนการเมือง ปัดโยก “นิรุตต์” เป็นกุนซือ รมว.วิทย์ เพราะทำงานพลาด ชู “หมอทศพร” อยู่การเมืองนานตอบปัญหาชาวบ้านได้
วันนี้ (2 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.40 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการแบ่งงานว่า ภาพรวมเรื่องกลาโหมตนเป็นคนดูแล ซึ่งที่จริงแล้วก็มีรัฐมนตรีว่าการะทรวงกลาโหมดูแลอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นกรณีข้อสัญญา ข้อพิพาทต่างๆ ที่ต้องพึ่งกฎหมายให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเป็นโครงสร้างเดิมที่บูรณาการอยู่ภายใต้ ศปก.กปต.โดยมีงานใน 3 ส่วน คือ งานด้านข้อกฎหมาย โดยจะเสริมหน่วยงานดูแลข้อกฎหมาย โดยมีนายพงศ์เทพ และกระทรวงยุติธรรมเข้ามาร่วมกันบูรณาการ ส่วนงานด้านการพัฒนาที่อยู่ภายใต้ ศอ.บต. โดย ร.ต.อ.เฉลิมกำกับในส่วนของ ศอ.บต. และกำกับในส่วนของกระทรวงมหาดไทย และในส่วนของ กอ.รมน.ที่ตนร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และอยู่ภายใต้กระทรวงกลาโหม โดยทั้งหมดนี้ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เพราะถือว่าเป็นการบูรราการเพื่อให้งานเดินหน้าต่อไปได้ และการทำหน้าที่ก็ไม่ได้ต่างจากเดิม
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแบ่งงานครั้งนี้จะไม่มีรองนายกรัฐมนตรีที่จะรับผิดชอบงานและดูแลภาคใต้โดยตรงใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวยืนยันว่า ไม่มี ทั้งนี้ ศปก.กปต.ในภาพรวมตนจะเข้ามาร่วมบูรณาการภายใต้สภาเลขาธิการความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจะมีการประกาศโครงสร้าง ศปก.กปต.อีกครั้งหนึ่งแต่ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากเดิม เพราะทุกอย่างเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เพียงแต่ว่าทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องต้องมีการปรับเพิ่มในส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาเท่านั้น ทุกอย่างเหมือนเดิม
เมื่อถามว่า การแต่งตั้ง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีจะให้ช่วยดูในด้านใด นายกฯ กล่าวว่า จะให้เข้ามาร่วมประชุมของ ศปก.กปต. ซึ่งเท่ากับว่างานทั้งหมดจะต่อเนื่องเหมือนเดิม เจ้าหน้าที่ทุกคนก็เหมือนเดิม เพียงแต่เติม ร.ต.อ.เฉลิม และนายพงศ์เทพเข้ามาเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดการบูรณาการให้เป็นเอกภาพ เมื่อถามว่า การแบ่งงานให้หลายคนเข้ามารับผิดชอบงานจะทำให้เกิดปัญหาการทำงานหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่และจะไม่สับสน เพราะอย่างเรื่องของการพัฒนาก็ยังอยู่ภายใต้ ศอ.บต.เหมือนเดิม แต่เป็นแค่การบูรณาการมากกว่า เพราะเราเองต้องการให้มีการบูรณาการมาจากส่วนเดียวและประสานงานตรงไปยัง ศอ.บต. และกอ.รมน.
เมื่อถามว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ต่างจากครั้งที่แล้วมาอย่างไรในส่วนของการดูแลภาคใต้ นายกฯ กล่าวว่า การปรับ ครม.ทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีผู้ที่มีประสบการณ์และผ่านงานทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าจะให้องคาพยพในคณะรัฐมนตรีมีความชำนาญและมี่ความแข็งแรงมากขึ้น เมื่อถามต่อว่า การแต่งตั้งที่ปรึกษาและเลขาธิการรัฐมนตรีเป็นการตอบแทนคนเสื้อแดงหรือไม่ นายกฯ กล่าวยืนยันว่าเคยพูดไปหลายครั้งแล้ว หลายคนอย่ามองว่าเป็นการตอบแทนเลย ผู้ที่ทำงานทางการเมืองหรือมีผลงานทางการเมืองก็มีความสามารถหลายคน ซึ่งต้องใช้งานให้เต็มที่
เมื่อถามว่า การที่ให้ ร.ต.อ.เฉลิมขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอันดับหนึ่ง พิจารณาด้วยเหตุผลใด นายกฯ กล่าวว่า ถ้าตามลำดับจากที่ท่านมานั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่นานแล้ว และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่อยู่แล้วก็ต้องเป็นท่านเฉลิม ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง ก็เป็นเรื่องปกติ
ส่วนกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของนายนิรุตต์ คุณวัฒน์ จากรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ทำหน้าที่ประสานงานการต่างประเทศ ไปเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะถูกมองว่ามีข้อบกพร่องนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่ใช่ นายนิรุตเป็นคนเก่งและขยัน ที่สำคัญวันนี้ไปช่วยภารกิจของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งกระทรวงเองต้องมีการประสานงานกับต่างประเทศและการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมมาแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ำ การดูภาคการเกษตร ซึ่งนายนิรุตต์ถือว่ามีความชำนาญในส่วนนี้ ก็จะได้ช่วยนำประสบการณ์ที่มีอยู่มาเสริมภารกิจนี้ และกลับมาทำงานควบคู่ไปกับงานในสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้งานที่ต่อเนื่องก็ยังช่วยดูแลอยู่ ซึ่งงานต่างประเทศที่จริงแล้วก็มีฝ่ายสารัตถะของกระทรวงต่างประเทศทำอยู่
เมื่อถามว่า การตั้ง นพ.ทศพร เสรีรักษ์ เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลใดในการพิจารณา น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า นพ.ทศพรมีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อน และเคยเป็นเลขาธิการรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง และเชื่อว่าจากพื้นฐานที่ทำงานมาสามารถที่จะนำพื้นฐานที่อยู่ชี้แจงและตอบปัญหาแก่ประชาชนได้ ทั้งนี้ในส่วนของ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก็กำลังดูอยู่