“เต้น” อ้าง “ไอ้ตู่” ฟูมฟายวืด รมต.แค่ถามรัฐบาล-เบรก “ขวัญชัย” ปะทะ “เสธ.อ้าย”

“ณัฐวุฒิ” พูดเอาตัวรอด ปัด นปช.เรียกร้องเก้าอี้ รมต. ส่วนที่ “ไอ้ตู่” อาละวาดแค่สอบถาม พร้อมฝากข้อคิดถึงรัฐบาล ยันไม่มีปัญหากัน เหน็บ “องค์การพิทักษ์สยาม” ชุมนุมคนหน้าเดิมโค่น 3 รัฐบาล อ้างตรรกะเพี้ยน วอนทุกฝ่ายปกป้อง “ยิ่งลักษณ์” เท่ากับปกป้องประชาธิปไตย เบรก “ขวัญชัย” ขนแดงปะทะ อ้างไม่จำเป็น


วันนี้ (30 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวถึงกรณีที่มีการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่า เป็นการชุมนุมของคนกลุ่มเดิมที่เคยชุมนุมเพื่อโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าการชุมนุมครั้งนี้สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่จำนวนคน แต่อยู่ที่สัญญาณที่จะโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยของประเทศอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นจึงอยากจะสื่อสารไปยังประชาชนทุกฝ่ายให้ร่วมกันปฎิเสธการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้ ไม่ใช่เพื่อปกป้องรัฐบาลแต่เป็นการปกป้องประชาธิปไตยของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยถูกแช่แข็งทางการเมืองมาตั้งแต่ 19 ก.ย. 2549 แล้ว ซึ่งส่วนตัวไม่ได้กังวลกับจำนวนของผู้ชุมนุม นอกจากนี้ยังเรียกร้องไปยังกลุ่มเป้าหมายของการชุมนุมว่าอย่ายอมให้มีข้อมูลเท็จจนกลายเป็นปัญหาของประเทศ

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้ยังมีความพยายามของฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างรัฐบาลกับประชาชน โดยเฉพาะเรื่องการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี ยืนยันว่าที่ผ่านมาแกนนำ นปช.ไม่เคยยื่นข้อเรียกร้องใดๆ ไปยังนายกรัฐมนตรี การปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีเป็นไปตามดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีทั้งสิ้น ส่วนที่แกนนำ นปช.และกลุ่มคนเสื้อแดงได้ออกมาทวงถามถึงตำแหน่งของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. เป็นเพียงการสอบถามไม่ได้เป็นการเรียกร้องเพื่อทวงตำแหน่ง ส่วนท่าทีของนายจตุพรเป็นเพียงการฝากข้อคิดไปยังรัฐบาลให้รับรู้ว่าสถานการณ์การสู้รบยังมีอยู่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าตนจะได้รับตำแหน่งหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าส่วนตัวไม่มีปัญหากับ นายจตุพรเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังปฏิเสธกรณีที่ นายขวัญชัย สาราคำ หรือฉายา ขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร จะนำมวลชนจำนวน 2 แสนคนมาชุมนุมคัดค้านในทุกเวทีที่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย จัดขึ้น โดยมองว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นจนถึงขั้นนั้น ส่วนเรื่องการนำ พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านภายใน 4 ปีนั้น มองว่าเป็นแค่ความเห็นเท่านั้น