เกาะกระแส
00 ได้เห็นอาการของบรรดาหัวโจกเสื้อแดง หลายคนที่เรียงหน้าออกมาแสดงท่าทางฮึดฮัดไม่พอใจการปรับครม.ปูนิ่ม 3 ทำให้ จตุพร พรหมพันธุ์ ต้องวืดเก้าอี้ รมต.ไปอีกรอบ บางคนแสดงท่าทางเหมือนกับหวังดี อยากให้ได้เก้าอี้ รมต.กันเต็มแก่ เห็นอาการที่ว่าแล้วอดรู้สึก “สมเพช” เวทนาไม่ได้ เพราะมีทั้งประเภท “หวังดีประสงค์ร้าย” ตีกัน พูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือฉกฉวยสถานการณ์สารพัด
00 สังเกตหรือไม่ว่าคนพวกนี้แม้จะบริภาษคนในพรรคเพื่อไทย ทวงบุญคุณกันระดับไหนก็ตาม แต่สุดท้ายก็สรุปลงที่ว่าจะรับใช้พรรคต่อไป สนับสนุน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อไป และที่สำคัญที่สุดก็คือเข้าใจและเคารพนับถือ ทักษิณ ชินวัตร ตราบชั่วฟ้าดินสลายประมาณนั้น สาเหตุก็ไม่มีอะไรซับซ้อน คนพวกนี้เป็นได้แค่คนรับใช้ มีสถานะไม่ต่างจาก “ข้าบริวาร” ของครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์ จึงไม่มีสิทธิ์เงยหน้าขึ้นมาสบตา “นาย” ดังนั้นพฤติกรรมของแต่ละคนที่ดาหน้าออกมาล้วนแล้วออกมาในแบบ “ตามน้ำ” โวยวายกันไปตามกระแสเท่านั้นไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก หรือไม่ก็ฉวยโอกาสโบ้ยใส่ “อำมาตย์” ว่าขัดขวางไม่ให้ได้เก้าอี้รมต. ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าต้นตอที่ชี้นกเป็นไม้ไม่ให้ “ขึ้นวอ” ก็ล้วนมาจาก “แม้ว” ที่มีอำนาจบัญชาสูงสุดไม่ใช่อำนาจพิเศษอื่นที่ไหนหรอก
00 คนเสื้อแดงบางคนที่ได้รับบำเหน็จเป็น ส.ส.ได้รับตำแหน่งทางการเมืองอื่นมีเบี้ยหวัดเงินเดือนจากภาษีประชาชน(ไม่ใช่เงินทักษิณ) มาถึงขั้นนี้ก็ถือว่ามาไกลโขแล้ว คนพวกนี้ก็รู้ดี และนี่แหละว่าทำไมทำได้แค่ออกอาการฮึดฮัดแต่สุดท้ายก็แค่ “การแสดง” หลอกต้มมวลชนที่อยู่ข้างหลังเท่านั้น บรรดา ส.ส.และคนเสื้อแดงมีสภาพไม่ต่างจากคนรับใช้บริวาร ไม่มีสิทธิ์หือกับเจ้าของบริษัท ไม่เช่นนั้นจะถูกไล่ออกต้องอดอยากปากแห้งเหมือนเก่า นี่แหละคือคำตอบแบบไม่ควรไม่สนใจและเสียเวลากับลีลาคำพูดของคนพวกนี้ แต่คนที่แฮปปี้ที่สุดเห็นจะไม่มีใครเกิน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางตกขบวน อ้าวพวกเสื้อแดงเตรียมตัวยกขบวนไปเกาะให้แน่นๆ ก็แล้วกัน
00 ทำเป็นออกอาการเหวี่ยงใส่ ส.คนใกล้ชิด นายกฯยิ่งลักษณ์ พูดให้ตรงๆก็มีอยู่ไม่กี่คนใช่ ส.สุรนันทน์ เวชชาชีวะ ที่เป็นเลขาฯนายกฯหรือเปล่า หรืออาจจะฟังผิดอาจเป็น ศ.เศรษฐา ก็ได้เหมือนกันนะ เพราะคนที่เอ่ยชื่อมาถือว่าอยู่ในเครือข่าย “แก๊ง 4 คน” ที่ถือว่ามาแรง ก็จะไม่แรงได้ไงเพราะมาจากกลุ่ม “บางปู” อันมี กิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นคีร์แมนหลัก เหนียวหนึบยิ่งกว่าตุ๊กแก
00 ในที่สุด รัฐบาลปู 3 ก็คลอดออกมาแล้ว คนที่เข้าใจการเมืองก็คงไม่มีใครตื่นเต้น เพราะผลที่ออกมาไม่ต่างจากการแข่งขัน “แย่งกันรับใช้นาย” แล้วก็ได้รับรางวัลผลตอบแทนแบบ “ถึงขนาด” โดยไม่แคร์ความรู้สึกของชาวบ้านทั่วไป ทำราวกับว่านี่คือบริษัทของ ชินวัตร-ดามาพงศ์ ที่ต้องให้รางวัลเบิ้ลโบนัสให้กับพนักงานที่ขยันรับใช้และซื่อสัตย์เท่านั้น
00 หากว่ากันเฉพาะรายหลักๆ หนักๆ ก็ต้องยินดีด้วยกับ “อ้ายปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่รับใช้อำนวยความสะดวกให้ “นายใหญ่” เดินทางไปไหนมาไหนได้แบบอิสระ เข้าออกประเทศโน้นประเทศนี้แบบไม่อั้น มาคราวนี้จึงได้รับรางวัลแบบแทบอ้วกกันไปเลย นั่นคือ จาก รมว.ต่างประเทศได้เบิ้ลรองนายกฯใหญ่เบ้อเริ่มเลยนะ !!
00 ปรับครม.เที่ยวนี้ถือว่า ทั้งเฮียทั้งเจ๊ “จัดเต็ม” ส่งเด็กในบ้านเข้ามากันเข้ามาแบบสายใครสายมันในแบ่งโควตากันในครอบครัวกันเป็นที่สนุกสนาน ทั้ง วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วิทย์ นี่ก็เหนียวเพราะสายเจ๊ ด.แดง ดันมาสุดตัว “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักด์ รักตพงศ์ไพศาล นี่ก็ได้ทุกสายเข้ามานั่งคุมพลังงานแทน อารักษ์ ชลธาร์นนท์ เด็กในบ้านอีกคนที่ตอบแทนกันเต็มที่กันไปแล้ว ถึงเวลาต้องไปรับใช้ทางด้านอื่นต่อไป ส่วน “อำมาตย์เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็โยกมาช่วยพาณิชย์ เคยทำยางเจ๊ง ต่อไปจะทำ “จำนำข้าว” เจ๊งอีกเท่าไหร่ และใครรวยกันจนพุงปลิ้นให้ติดตามกันให้ดี และเสียใจด้วยนะ “เพื่อนตู่” เพราะนายใหญ่เขาเคาะมาแล้วว่าอนาคตขุนพลเสื้อแดงมีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น
00 ขณะเดียวกันอย่าได้แปลกใจว่าทำไมในตอนท้าย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ถึงไม่มีชื่อในครม.ปู 3 คำตอบไม่มีอะไรมากไปกว่า “อดเปรี้ยวได้กินหวาน” รออีก 1 ปี ก็ไม่สาย แต่เที่ยวหน้าขอให้ “ดามาพงศ์” เป็นนายกฯบ้างนะ เพราะขนาดสติปัญญาระดับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร , สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังเป็นนายกฯได้เลย แล้วทำไมคนอย่าง “พี่ชายอ้อ” จะขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งเป็นเกียรติกับตระกูลบ้างไม่ได้ หา มีอะไรป่าว !!