เกาะกระแส
00 วันก่อนได้เห็นภาพรวมของ ครม.ปู 3 กันไปแล้ว ก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร เป็นเพียงการตกรางวัลให้กับลูกน้องที่ซื่อสัตย์รับใช้ถวายชีวิต หรือส่งลูกน้องคนใหม่เข้ามาดูแลผลประโยชน์ขับเคลื่อนนโยบายสำคัญที่กำลังจะผลักดันต่อไปในอนาคต เพราะเมื่อพิจารณาจากรายชื่อ รมต.หลายคน ความหมายออกมาแบบนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่คราวนี้อัปเกรดขึ้นมาเป็นรองนายกฯควบรมว.ต่างประเทศ ก็ด้วยผลงานรับใช้ ทักษิณ ชินวัตร อำนวยความสะดวกในการเดินทางในต่างประเทศ สมฐานะ “ผู้มีบารมีเหนือกม.” ตัวจริง
00 อีกคนที่น่าจับตาก็คือ “เสี่ยเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ที่ถูกส่งมาคุม “พลังงาน” คนใหม่ ว่ากันว่านี่แหละคือคนดูแลผลประโยชน์ทางด้าน “ธุรกิจการเมือง” ของครอบครัวทักษิณ คนสำคัญอีกคนหนึ่ง และต่อไปทำให้คาดหมายกันว่า นโยบายด้านพลังงานและต่างประเทศ จะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย นั่นคือ เจรจา-ลงนาม โดยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เวลาเดินหน้าเต็มกำลัง
00 แน่นอนว่าการปรับครม.เที่ยวนี้ ไม่ต้องไปมองเรื่องความเหมาะสม มีความรู้ความสามารถเหมาะกับงานที่ทำหรือไม่ขึ้นอยู่กับการ “กูจะตอบแทนให้ใคร” ต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อ ตท.10 อย่าง พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต ที่มาเป็น รมช.คมนาคม รวมไปถึงคนอื่นทั้งที่เข้าใหม่และถูกปรับออกไปหลังจากตอบแทนกันพอสมควรแล้ว มองอีกมุมหนึ่งยังเป็นตัวอย่างให้คนอื่นเห็นอีกว่า หากใครรับใช้ หรือมาสวามิภักดิ์ รับรองได้ดีทุกคน นี่แหละถึงได้เกิดปรากฏการณ์ “แย่งกันเลีย” กันอย่างไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน ทั้งพวกนักการเมืองและข้าราชการ ไม่สนใจความถูกผิดของกฎหมายบ้านเมืองอีกต่อไป
00 การปรับครม.เที่ยวนี้ หากสังเกตให้ดีจะเห็นก๊กก๊วนภายในครอบครัวกันอย่างชัดเจน แต่ที่น่าสนใจและมาแรงสุดๆ ก็เห็นจะเป็นสาย “บางปู” เพราะสามารถนั่งเก้าอี้สำคัญได้หลายตำแหน่ง เริ่มจาก กิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ถือว่าเป็น “สายตรง” เพื่อนรัก นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เหนียวหนึบกับเก้าอี้ “ขุนคลัง” ควบรอบนายกฯ ทำหน้าที่หัวหน้าทีม ศก.อย่างเหนียวแน่น แม้จะโดนด่าเสียงขรม แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไผเป็นไผ อีกคนที่ต้องบอกว่ามีสถานะไม่ต่างกันก็เห็นจะเป็นรายของ ศันสนีย์ นาคพงศ์ ที่ขยับจากโฆษกรัฐบาลขึ้นมาเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็ถือว่าความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา
00 แต่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ “ส.” คนใกล้ชิดนายกฯ ที่คราวนี้มีเสียงโวยวายออกมาจากภายในพรรค รวมไปถึงคนเสื้อแดง หาว่าคอยกีดกันคนนั้นคนนี้ไม่ให้ได้รับเก้าอี้รมต.ส่วน ส. คนดังกล่าวจะเป็นคนเดียวกับ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาฯนายกฯหรือเปล่า มันก็น่าคิด เพราะที่ผ่านมา ส.สุรนันทน์ ถูกระบุว่า กลายเป็นหนึ่งใน “แก๊ง 4 คน” ที่มี เศรษฐา ทวีสิน บิ๊กอสังหาฯคนนั้น ส่วนอีกสองก็คือ เสี่ยโต้ง และ ปูนิ่ม นั่นแหละที่เริ่มกำหนดบทบาทของรัฐบาล ทีนี้ชัดหรือยังว่า ใครบ้างที่อยู่ “สายแข็ง” กำลังขยายเครือข่ายออกไป อย่าลืมว่าอำนาจมันก็เหมือนเหล้า กินเข้าไปมากมันก็เมา และบางครั้งก็ติดลมถอนตัวยากพิลึก !!