xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” เผย พธม.ยังไม่พร้อมเข้าร่วม เสธ.อ้าย เว้นแต่มีวิธีนำไปสู่การปฏิรูปชัดเจน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปานเทพ” แจงข้อดี พธม.ยังไม่ร่วมเสธ.อ้าย เพราะจะได้เป็นหลักประกันชั้นที่สองหากเกิดความผิดพลาดกับองค์การพิทักษ์สยาม ยันพร้อมร่วมมือหากมีแผนชัดเจนว่าจะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศได้จริง พร้อมแนะรอจังหวะสุกงอมให้เสื้อแดงเห็นธาตุแท้รัฐบาล หวั่นออกเร็วไปฝ่ายตรงข้ามยิ่งผนึกกำลังแน่นแฟ้น

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

โดยนายปานเทพกล่าวว่า จากแถลงการณ์ฉบับแรกขององค์การพิทักษ์สยาม พันธมิตรฯไม่เห็นความชัดเจนว่าจะไม่เป็นเพียงการเปลี่ยนขั้วอำนาจ ฉะนั้นพันธมิตรฯ จะประกาศเจตนารมณ์เป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากให้กำลังใจ แต่ล่าสุดชัดเจนมากขึ้น เสธ.อ้ายเสนอให้หยุดประเทศไว้ 5 ปี เพื่อนำไปสู่การปฏิวัติประชาชาติ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่ใกล้เคียงกับพันธมิตรฯ คือการปฏิรูปประเทศ เพียงแต่ว่าบันไดสองขั้นของเสธ.อ้าย ขั้นแรกล้มรัฐบาลก่อน ขั้นที่สองคือปฏิรูปประชาชาติ แน่นอนในขั้นแรกย่อมมีคนหลากหลายกลุ่มเข้าร่วม อย่างเช่น ประชาธิปัตย์ แต่พอบรรลุเป้าหมายขั้นที่หนึ่งก็คงไม่ไปต่อในขั้นที่สอง และบางส่วนก็ต้องการให้มีการปฏิวัติ แต่ไม่สนเรื่องการปฏิรูป ดังนั้นมันเป้าหมายอาจแตกตอนปลายก็ได้หากไม่วางแผนให้ดี

เดิมพันครั้งนี้สูงมาก และเดิมพันที่สำคัญที่สุดคือชีวิตประชาชน ซึ่งมีโอกาสเสียเลือดเสียเนื้อ สำหรับตนจะก้าวเดินต้องมั่นใจได้ว่าต่อไปจากนี้จะเป็นก้าวเดินสุดท้ายของพันธมิตรฯที่ต้องนำไปสู่การปฏิรูปจริงๆ ตนเห็นข้อดีของการที่แกนนำพันธมิตรฯ ยังไม่เข้าร่วม คือ 1. มันไม่เป็นการช่วงชิงการนำทำให้ภาพลักษณ์กลายเป็นพันธมิตรฯ 2. ทำให้เกิดความไม่ตะขิดตะขวงใจกับคนที่มีข้อพิพาทกับพันธมิตรฯ แล้วจากการที่พันธมิตรฯ วิจารณ์หลายๆ สื่อ ถ้าการชุมนุมคราวนี้เป็นภาพของพันธมิตรฯ คงไม่ได้ลงหน้าหนึ่ง นี่เป็นข้อดี จากนี้ไปองค์การพิทักษ์สยามต้องคิดต่อให้จบ เพราะมวลชนที่เกิดขึ้น เขาออกมาเพื่อต้องการสำแดงพลัง ต้องการทำตามเป้าหมายแตกหักกับรัฐบาล

ประการต่อมา พันธมิตรฯ ต้องใคร่ครวญว่าหากเข้าร่วม องค์การพิทักษ์สยามต้องมีการวางแผนอย่างดีว่าจะปฏิวัติประชาชาติจริงๆ แต่ถ้าเราประเมินแล้วเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ มันจะทำให้เสียหายทั้งคู่ พันธมิตรฯ ถอยออกมาเพื่อเป็นหลักประกันชั้นที่สองของภาคประชาชน เพราะมีโอกาสเกิดขึ้นได้หลายอย่าง เช่น สมมติองค์การพิทักษ์สยามไม่สามารถก้าวข้ามขั้นที่สองได้ ไม่ว่าจะเพราะเกิดการตีกินจากขั้วอำนาจการเมือง หรือเกิดรัฐประหารกวาดล้างทั้งสองฝ่าย พันธมิตรฯ ซึ่งทิ้งระยะห่างจะไม่ถูกข้อครหานี้ แต่จะเป็นองค์กรนำต่อในการปฏิรุปประเทศทันที หรือหากถูกปราบปราม ถ้าพันธมิตรฯ เข้าร่วมด้วยก็จะจบไปด้วย ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

“เว้นเสียแต่ว่าองค์การพิทักษ์สยามมีความชัดเจนว่าจะปฏิรูปประเทศแน่นอน มีแผนชัดเจนว่านำเข้าสู่การปฏิรูปได้จริงๆ จนหมดข้อกังขา ก็มีโอกาสที่จะเกิดความร่วมมือระดับหนึ่งก็ได้ แต่วันนี้ยังไม่เกิด พันธมิตรฯ เลยต้องรอบคอบชัดเจน เราไม่ได้กลัวเสียหน้า กลัวเสียมวลชน” นายปานเทพกล่าว

นายปานเทพกล่าวอีกว่า การออกมาในจังหวะที่พอดีก็มีความสำคัญมาก ถ้าออกเร็วเสื้อแดงจะไม่เห็นธาตุแท้ของรัฐบาล แล้วยังไปสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเสื้อแดงกับรัฐบาลให้เป็นเอกภาพขึ้นมาอีก กว่าพันธมิตรฯ จะรู้ว่าประชาธิปัตย์ไม่ใช่คำตอบ ใช้เวลาถึง 4 ปี ทำนองเดียวกัน หากออกมาต่อต้านรัฐบาลก่อนเวลาอันควร มวลชนแดงก็จะผนึกความสามัคคีกันขึ้นมา นี่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อยากฝากให้พิจารณา เพราะปัญหาปากท้องกำลังจะปะทุในปีหน้าเป็นต้นไป จากสถิติที่ผ่านมาการชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลให้แก้ปัญหาปากท้อง 60 เปอร์เซ็นต์ ประท้วงในพื้นที่เสื้อแดงเอง ฉะนั้นเวลาก็มีส่วนสำคัญยิ่ง แม้เสธ.อ้ายมองว่าหากปล่อยไว้จะทำให้ประเทศลงเหว มันก็จริง แต่เวลามันต้องพอดี การปฏิวัติประชาชาติไม่ได้เกิดจากการที่คนเพียงกลุ่มหนึ่งตื่นรู้ แต่เกิดจากคนจำนวนมากรู้สึกว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ตนเข้าใจความรู้สึกมวลชนไม่อยากให้บ้านเมืองแย่ แต่เรามีบทเรียนว่าการเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลโดยไม่มีหลักประกันว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ แทนที่จะสู้เพื่อขั้วอำนาจเรามาสู้กันที่ประเด็นก่อน

ด้าน นายพิชายกล่าวว่า การโค่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากนี้ไป พล.อ.บุญเลิศต้องทำงานหนัก การให้ประชาชนหามาคนละ 100 คน เป็นการปัดความรับผิดชอบให้ประชาชนมากเกินไป ต้องอ่านเกมว่ารัฐบาลจะตอบโต้กลับอย่างไร

นายพิชายกล่าวด้วยว่า ปัญหาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังจะปะทุ ทราบมาว่าตอนนี้ราชการส่วนต่างๆ ก็มีปัญหาเรื่องเงินแล้ว รัฐบาลถังแตก มีโอกาสเกิดการเปลี่ยนแปลงได้แน่ อย่าเพิ่งใจร้อน ลองฟังแกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งมีประสบการณ์ในการต่อสู้ รู้ว่าตรงไหนมีจุดพลิกผัน ส่วนพี่น้องก็ทำหน้าที่ขยายข้อมูลออกไปเรื่อยๆ รอจังหวะที่เหมาะสม ไม่เร็วไป ไม่ช้าไป

กำลังโหลดความคิดเห็น