“ดร.พิชาย” จับทางเหตุจูงใจปรับ ครม.ปู 3 ก็แค่ลดกระแสจ้องโค่น รบ. และรับมือศึกซักฟอก เขี่ยพวกไม่เชื่อฟัง ทำงานสนองไม่คุ้มเก้าอี้ เชื่อจงใจเขี่ย “ไอ้ตู่” เหตุขยะแขยง มั่นใจคนที่ไม่ใช่ลัทธิแดง เห็นพ้องไม่รู้สึกดีขึ้น เพราะตัวปัญหาของประเทศคือตัวยิ่งลักษณ์และเครือข่ายเครือญาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 27 ต.ค. ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พิชาย ณ ภูเก็ต วิเคราะห์ถึงมูลเหตุในการปรับ ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 ดังนี้
“1. แรงจูงใจ
1.1 ยิ่งลักษณ์เอือมระอารัฐมนตรีบางคนที่ไม่เห็นเธออยู่ในสายตา สั่งก็ไม่ทำ บอกก็ไม่เชื่อเกิดอาการหงุดหงิด จึงเขี่ยออกไปให้พ้นหูพ้นตา (อันนี้เป็นแรงจูงใจเพื่อครอบงำผู้อื่น)
1.2 ภาคประชาชนในนามองค์การพิทักษ์สยาม ประกาศชุมนุมใหญ่โค่นล้มรัฐบาล ทำให้เกิดความหวั่นใจ จึงปรับ ครม.เพื่อลดกระแส เบี่ยงเบนความสนใจของสังคม (อันนี้เป็นแรงจูงใจเพื่อเลี่ยงอันตราย)
1.3. ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปรับเพื่อลดแรงปะทะและความแหลมคมของฝ่ายค้าน ทั้งยังนำคนที่มีความเขี้ยวทางการเมืองทั้งหลายอย่างกลุ่ม 111 มาเป็น รมต.หลายคน เพื่อเตรียมรับมือกับฝ่ายค้านในศึกอภิปราย (อันนี้ก็เป็นแรงจูงใจในการหลีกหนีอันตราย)
1.4. รัฐมนตรีบางคนทำงานไม่เข้าเป้าหมาย ไม่คุ้มค่า ไม่สามารถสนองผลประโยชน์ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงขับไสออกไป และหาคนที่คิดว่าจะสร้างประโยชน์ให้คุ้มค่ากว่ามาแทน (อันนี้เป็นแรงจูงใจใฝ่ประโยชน์)
1.5 ในการปรับไม่ยอมเอาแกนนำเสื้อแดงอย่างจตุพร ซึ่งเป็นคนที่สาวกเสื้อแดงจำนวนมากสนับสนุนมาเป็นรัฐมนตรี มีข่าวว่าเธอไม่ชอบจตุพร ค่อนไปในทางที่รังเกียจด้วยซ้ำ จึงไม่เอาจตุพรมานั่งในตำแหน่ง (อันนี้เป็นแรงจูงใจเพื่อเลี่ยงความขยะแขยง)
2. ความคาดหวัง
2.1 เธอและเครือญาติคาดหวังว่าการปรับ ครม.จะช่วยลดกระแสการต่อต้านจากสังคม. ทั้งยังสามารถใช้ รมต.อย่างมีประสิทธิภาพได้มากขึ้นทั้งในการรับมือกับการต่อต้านและการแสวงหาประโยชน์
2.2. เธอคาดว่าคงไม่มีแรงกระเพื่อมอะไรภายใน เพราะคนที่จะฟาดงวงฟาดงา ในกลุ่มแกนนำแดงก็ถูกเงินฟาดหัวไปเรียบร้อยแล้ว
3. ผลกระทบ
3.1 การไม่เอาจตุพร ในทัศนะของเสื้อแดงเท่ากับ เป็นการเอาใจอำมาตย์ซึ่งเท่ากับเหยียบย่ำหัวใจของเสื้อแดง ทำให้เสื้อแดงที่เป็นมวลชนจำนวนมากไม่พอใจ เพราะจตุพรเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านอำมาตย์ที่ชัดเจนที่สุดของแกนนำแดงที่ยังอยู่ในประเทศไทย การเขี่ยจตุพรออกไปจึงเท่ากับการยอมจำนนกับอำมาตย์ซึ่งคนเสื้อแงจำนวนมากเกิดความรู้สึกไม่พอใจ และอาจก่อแรงกระเพื่อมในกลุ่มเสื้อแดงขึ้นมา
3.2 การปรับ ครม.ในความรู้สึกของคนทั่วไปที่ไม่ใช่ลัทธิแดง ไม่ส่งผลในทางบวกใดๆ เพิ่มขึ้น เพราะตัวปัญหาของประเทศคือตัวยิ่งลักษณ์และเครือข่ายเครือญาติของเธอ ดังนั้น ตราบใดที่เธอและพรรคการเมืองลัทธิแดงยังครองอำนาจ ก็ไม่ทำให้คนไทยทั่วไปรู้สึกดีขึ้น แต่กลับเลวร้ายลงไปอีกเพราะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การปรับ ครม.เป็นเพียงเกมรักษาอำนาจให้มั่นคงและแสวงหาประโยชน์ได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเท่านั้น
