“เหลิม” อ้างไม่รู้ปรับ ครม. ชี้แค่กระแสข่าว แต่รับไม่ผิดหวังหากชวดคุมมหาดไทย ปากแข็งเคยนั่งจนชินแล้ว แถมไม่พร้อมคุม ก.ยุติธรรม โว พท.ยังแน่น ชูแก๊ง111 มีความสามารถ ยก “จตุพร” เหมาะเป็น รมต. พร้อมเชื่อแดงไม่เคืองหากหลุดโผ ปัด รบ.ปรับหนีซักฟอก ท้ายื่นให้เร็ว เย้ย ปชป.ถนัดเป็นฝ่ายค้าน เตือน “เพื่อนชู” อย่าลืมที่นัดไว้
วันนี้ (25 ต.ค.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ยังไม่ทราบว่าขณะนี้นายกฯ ได้นำรายชื่อของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ หรือยัง จึงไม่สามารถให้ความเห็นได้ว่าโฉมหน้าของ ครม.ชุดใหม่เป็นอย่างไร เพราะไม่มีหน้าที่ในการพิจารณาปรับ ครม.ครั้งนี้ และในขณะนี้ก็ยังไม่ปรากฏอย่างเป็นทางการ มีแต่เพียงข่าว เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวท่านจะได้เป็น รมว.มหาดไทย ถ้าไม่ได้เป็นจะผิดหวังหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ผิดหวัง สบายๆ เพราะตนเคยเป็น รมว.มหาดไทยมาแล้ว คนเราเป็นนักการเมือง ถ้าเคยทำหน้าที่ตรงไหนมาแล้วก็ชิน ไม่มีอะไร และไม่พร้อมที่จะไปอยู่ในตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม เพราะเคยเป็นมาแล้วเช่นกัน และแสดงความเห็นไม่ได้เช่นกันเพราะยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ซึ่งจนถึงขณะนี้นายกฯ ตัดสินใจปรับ ครม.หรือยัง ก็ยังไม่แน่ มีแต่เพียงแหล่งข่าวและรายงานข่าวเท่านั้น
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวด้วยว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ไม่สร้างรอยร้าวในพรรคเพื่อไทย ยังแน่นปึ้กแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนกรณีที่มีคนจากบ้านเลขที่ 111 เข้ามาเป็นรัฐมนตรีด้วยนั้น ตนเห็นว่ามีความรู้ความสามารถ ในอดีตทำงานให้พรรคไทยรักไทยมาเยอะ แต่ตนไม่มั่นใจว่าจะมีใครเข้าใครออก เพราะตนไม่มีตำแหน่งอะไรในพรรคเพื่อไทย เป็นแค่สมาชิกพรรคธรรมดา แต่เนื่องจากระหว่างหาเสียงไปปราศรัยจึงมีความคุ้นเคยกับพรรคพวก แต่ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ก็ยังยืนยันว่านายจตุพร แกนนำคนเสื้อแดง มีความเหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรี ส่วนจะมีชื่อเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ตนไม่ทราบ และคงแสดงความเห็นล่วงหน้าไม่ได้ หากนายจตุพรไม่ได้เป็นรัฐมนตรีจะเกิดปัญหาระหว่างคนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ แต่เชื่อว่าคงไม่มีรอยร้าว และตนก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการของคนเสื้อแดงมาก่อนเพียงแต่รักชอบกัน หากจะให้ไปบอกอะไรเขาคงไม่เชื่อ
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า การปรับ ครม.ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การปรับเพื่อหนีการอภิปรายไว้วางใจรัฐบาล เพราะพรรคประชาธิปัตย์ต้องยื่นญัตติอยู่แล้ว แต่คงแสดงความเห็นไม่ได้ว่า การปรับรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ เพราะผลของการปรับ ครม.ยังไม่ออกมา และรัฐบาลก็ไม่กังวลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ห่วงแต่ฝ่ายค้านจะยื่นช้าไป และห่วงอย่างเดียวกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ระบุว่าจะใส่ชื่อตน กลัวว่าจะไม่กล้าใส่ชื่อตน ส่วนประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์จะยกมาอภิปรายนั้นตนคงไม่วิเคราะห์ และเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เก่งเป็นกรด จึงไม่วิเคราะห์เพราะถนัดเป็นฝ่ายค้าน แต่เป็นฝ่ายค้านแล้วซึม
