ครม.สัญจรไม่คุ้มค่าน้ำ-ไฟ !!

เกาะกระแส

00 เห็นจะจริงกับคำพูดแบบรู้ทันของหลายคนที่ว่าการ “สั่งการ” ให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้ฐานะนายกฯลงมาภาคใต้ในพื้นที่สัญลักษณ์ของ ปชป.เน้นเฉพาะ สุราษฎร์ฯ-นครศรีฯงานนี้รับรองไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะทั้งสองจังหวัดดังกล่าวในทางการเมืองถือว่าเป็น “เมืองหลวง” รวมไปถึงฐานที่มั่นของระดับ “ขาใหญ่” ในปชป.อย่าง “สุเทพ เทือกสุบรรณ” การที่ได้ยกขบวนลงมาโดยใช้กลไกรัฐเบิกทาง มองอีกมุมหนึ่งมันก็เหมือนกับการ “เอาเท้าลูบหน้า” หยามกันแบบไม่ไว้หน้า

00 การกำหนดให้ “เกาะสมุย” เป็นสถานที่จัดการประชุม ครม.สัญจร มองในทางการเมืองถือว่าเป็นการ “เขย่าขวัญ” ฝ่ายตรงข้ามได้พอสมควร โดยเฉพาะเรื่อง “เอกสารสิทธิ์ครอบครองที่ดิน” ข้อกล่าวหาเรื่องการ “รุกที่สาธารณะ” มักจะคู่กันเสมอกับนักการเมือง และที่ผ่านมาคดี “เขาแพง” ก็ยังเป็นชนักปักคาหลังของ สุเทพ เทือกสุบรรณ มานาน มาคราวนี้แม้ว่ายังไม่มีการนำมาฉายซ้ำ แต่มันก็ทำให้ต้องเตรียมการตั้งรับเอาไว้อยู่แล้ว ยิ่งคราวนี้มีหลายเรื่องกำลังพัวพันประดังเข้ามา และยิ่งฝ่ายรัฐบาลเป็นช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มกำลังแย่งกันทำแต้มสำหรับเก้าอี้ มท.1 ด้วยแล้ว มีหรือว่าคนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะไม่เยาะเย้ยยั่วอารมณ์ให้หัวเสีย

00 อย่างที่จั่วหัวไว้เบื้องต้นว่าการประชุม ครม.สัญจร ที่เกาะสมุย รวมทั้งที่อื่นๆที่ผ่านมามองในภาพรวมแบบมีเนื้อหาสาระแบบ “แก่นแกน” แล้วไม่อยากจะใช้คำว่า “ไร้ประโยชน์” ไร้สาระ แต่เอาเป็นว่ามัน “ไม่คุ่มค่าน้ำ-ค่าไฟ” เอาเสียเลย เพราะเป้าหมายแท้จริงที่แสดงออกมาล้วนส่อไปทางพบปะหัวคะแนน พบปะมวลชน รวมไปถึงการเพิ่มบทบาทให้ความสำคัญกับ “หัวโจก” บางรายเท่านั้น ถ้าแยกมาพิจารณาเฉพาะกรณีลงมาสัญจรภาคใต้ของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คราวนี้มองกันอย่าง “รู้ทัน” แล้วพิจารณาจากโปรแกรมและแผนงานอนุมัติงบประมาณแล้วยังมองไม่เห็นประโยชน์ ส่วนใหญ่เป็นแค่การ “รับปาก” เอาใจชาวบ้านหาคะแนนไปเรื่อย หรือที่บอกว่าอนุมัติให้ทำโน่นทำนี่ส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นโครงการที่ตั้งเอาไว้ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กที่เกาะเต่า งบ 50 ล้านบาทก็เป็นโครงการของ สธ.ที่ตั้งเอาไว้นานแล้ว

00 แต่ที่น่าจับตาของคนในพื้นที่ในตอนนี้ก็คือ โครงการก่อสร้าง “สนามบินดอนสัก” ที่แว่วว่ามีการอนุมัติงบศึกษาไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือมีเสียงวิจารณ์กันกระหื่มเมืองว่ากำลังมีการกว้านซื้อที่ดินสำหรับรองรับสนามบินแห่งใหม่กันแล้วนับพันไร่ และส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ใครล้วนแล้วแต่คนกันเอง คนใกล้ชิดของ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ฝันหวานกันว่าเหมาซื้อกันไร่ละ 4-5 หมื่นบาทแล้วเตรียมขายให้โครงการไร่ละไม่ต่ำกว่า 2-3 แสนบาท คิดเอาเองว่าจะฟันกำไรกี่เท่าตัว นอกจากนี้หากสนามบินดังกล่าวเป็นรูปเป็นร่างจริงตามฝันกันเอาไว้ก็จะมีเครือข่าย “ผู้รับเหมา” เตรียมเข้ามาเสียบ นี่ขนาดเป็นโครงการที่ยัง “ลอยในอากาศ” ยังฝันกันขนาดนี้ ถ้าทุกอย่างเดินหน้าจะขนาดไหน สนุกจริงวุ้ย !!

00 การให้เวลากับการไปเยี่ยมบ้าน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ท่าศาลา จ.นครศรีฯของ นายกฯยิ่งลักษณ์เมื่อวันที่ 21 ต.ค.แม้ว่าจะเป็นการเจียดเวลาแต่แว่บเดียวก็ตาม แต่การได้ไปพบปะกับมวลชนพี่น้องในพื้นที่มันก็มองได้หลายทาง ทางแรกก็แสดงให้เห็นว่า “ให้ราคา”กับ “เสี่ยเต้น” ไม่เบา ขณะเดียวกันยังเป็นเล็งเห็นถึง “หัวหอก” คนใหม่ในพื้นที่ “เมืองคอน” ของเพื่อไทยสำหรับเจาะทะลวงอาณาจักรของปชป.ที่ครอบครองมานานหลายสิบปี

00 ความจริงก็ไม่อยากกล่าวถึงการมาประชุม ครม.สัญจรของ นายกฯยิ่งลักษณ์ และคณะสมุนรับใช้ในมากนัก เพราะยังมองไม่เห็นประโยชน์ ไม่เห็นแก่นสารดังกล่าวข้างต้น เพราะรู้กันอยู่แล้วว่านี่คือรายการ “แอ็กอาร์ต-โชว์ออฟ” เยาะเย้ยพวก ปชป.กันเล่นเท่านั้น เพราะแต่ละโครงการที่อนุมัตินอกจากเงินจิ๊บจ๊อยแล้ว ส่วนโครงการใหญ่ก็อยู่ในอนาคต ยังเป็นความฝันแทบทั้งสิ้น ที่สำคัญมันต้องใช้งบประมาณไม่น้อย จะเอาเงินที่ไหนมาสานฝัน เพราะเมื่อลองย้อนกลับไปดูหลายพื้นที่ที่เคยมีการประชุม ครม.สัญจรมีการรับปาก มีการอนุมัติงบประมาณมากมายหลายโครงการหลายแสนล้านบาท แต่ถามว่าจนบัดนี้มีการขับเคลื่อนให้ใกล้ความจริงแค่ไหน เห็นมีแต่ “ลมที่ผาย”ออกมาเท่านั้น ทุด !!

00 มาสมุย คราวนี้สิ่งที่เห็นจริงก็คือการสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้านเขาด่าในใจกันทั้งเกาะแล้ว เพราะหงุดหงิดกับพวกบรรดา “สมุนรับใช้” ที่เว่อร์เอาใจนายเกินเหตุ แทนที่จะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ต้อง “ผักชีโรยหน้า” น่าจะปล่อยให้ นายกฯยิ่งลักษณ์ ที่ไหนๆจะ “มาเที่ยวสมุย” ทั้งที น่าจะลองหาโอกาสมาสัมผัสกับความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน “แบบดิบๆ” กันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “การข้ามฝั่ง” การใช้เรือโดยสารของพี่น้องชาวบ้านว่าพวกเขาต้อง “รอเข้าคิว”ก่อนลงเรือกันนานแค่ไหน แต่นี่เมื่อคณะของ “พะณะหัวเจ้าท่าน” ต่างไปใช้อภิสิทธิ์แทนแล้วลองคิดดูว่าชาวบ้านเขาจะเดือดร้อนกันขนาดไหน เคยใช้ลองใช้ “สมองสักเสี้ยวหนึ่ง”มาตรองดูบ้างหรือไม่ หรือไม่ก็ลองไปสัมผัสกับโรงบำบัดขยะที่ทุ่มงบไปนับพันล้าน แต่ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ขยะต้องกองส่งกลิ่นเหม็นทำลายบรรยากาศอย่างที่เป็นอยู่ ไหนๆก็ไปถึงแล้วก็ลองถามจากผู้บริหารในพื้นที่ดูบ้างว่ามีปัญหาที่จะต้องแก้ไขเร่งด่วนบ้าง ดีกว่าลอยไปลอยมา กรีดกรายไปวันๆ