ประชุมร่วม 2 สภา ฝ่ายค้านข้อง ปธ.วุฒิสภา เหตุประชุมรอบที่แล้วสั่งปิดประชุมขณะถกนาซาขอใช้ไทยทำการทดลอง ทำวาระค้างและวันนี้กลับไม่มีวาระ “มาร์ค” ชี้ผิด ม.47-48 จี้เคลียร์ให้ชัด หวั่นเข้า ม.190 ด้าน “นิคม” แก้ต่างยกทำถูก ม.48 พร้อมใช้ ม.19 ลุยประชุมต่อ ไร้เหตุขัดแย้ง
วันนี้ (16 ต.ค.) การประชุมรัฐสภา มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานรัฐสภา โดยก่อนเข้าวาระการประชุมได้เกิดความวุ่นวายขึ้น โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้ลุกขึ้นท้วงติงว่า ในการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 55 กรณีรัฐบาลขอความเห็นชอบการขออนุญาตให้องค์การบริหารการบิน และอวกาศ แห่งชาติสหรัฐอเมริกา เข้ามาดำเนินการศึกษาการก่อตัวของเฆมที่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทย ตามมาตรา 179 ซึ่งมีการรวบรัดปิดประชุม ทำระเบียบวาระยังค้างอยู่ แต่ระเบียบวาระวันนี้กลับไม่มีเรื่องดังกล่าวอยู่ในการพิจารณา และหากมีการพิจารณาเรื่องอื่นจะทำให้เรื่องดังกล่าวตกไป ซึ่งตนเสนอขอให้งดใช้บังคับ โดยนำเรื่องดังกล่าวมาบรรจุเป็นวาระเร่งด่วน จากนั้นที่ประชุมจะพิจารณาอย่างไรต่อไปก็อยู่ที่ที่ประชุม
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน เห็นว่า ประธานรัฐสภาทำผิดข้อบังคับการประชุม เพราะในการปิดการประชุม มาตรา 47 การอภิปรายยุติเมื่อไม่มีผู้อภิปราย หรือที่ประชุมมีมติให้ปิดประชุม แต่ในวันดังกล่าวยังมีผู้ที่จะอภิปรายต่อ มาตรา 48 ประธานสภาไม่ได้ขอมติที่ประชุมให้มีการปิดประชุมหรือให้ที่ประชุมวินิจฉัยลงมติปิดอภิปราย โดยหากไม่ดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เกิดผลกระทบในอนาคตและการดำเนินการดังกล่าวถือว่าไม่สมบูรณ์ ทำให้อาจเกิดปัญหาในอนาคตกับรัฐบาล โดยเฉพาะที่มีสมาชิกติดใจว่า เรื่องดังกล่าวจะเข้ามาตรา 190 หรือไม่เพราะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง
นอกจากนี้ยังมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคนได้เสนอความคิดเห็นว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ยุติเพราะยังมีสมาชิกอีกหลายคนต้องการอภิปราย และในวันดังกล่าวนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เสนอให้มีการนับองค์ประชุม แต่ประธานได้รวบรัดปิดประชุม โดยไม่มีการขอมติในที่ประชุม
ขณะที่นายนิคมยืนยันว่า เป็นอำนาจประธานในข้อบังคับมาตรา 48 ที่เห็นว่า เมื่อที่ประชุมหารือกันพอสมควรเป็นอำนาจของประธานสภาในการตัดสินว่าจะปิดประชุมได้โดยไม่ต้องขอมติจากที่ประชุม
จากนั้นสมาชิกได้มีการท้วงติงกันอย่างกว้างขวางทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับนายนิคม โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ทำให้นายนิคมได้ใช้ข้อบังคับมาตรา 19 ดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระที่รัฐสภาจัดไว้ เว้นแต่ที่ประชุมรัฐสภาจะลงมติเป็นอย่างอื่น โดยกล่าวว่า หากสมาชิกคนใดมีความเห็นก็ให้เสนอมา แต่ที่ประชุมกลับไม่ได้มีผู้ใดเสนออะไร ทำให้การประชุมได้เดินหน้าต่อตามระเบียบวาระการประชุม เรื่อง กรอบเจรจาภายใต้ร่างความตกลงระหว่างไทยกับสำนักเลขาธิการ อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) เกี่ยวกับการประชุมสมัยสามัญภาคีอนุสัญญาว่าด้วย การค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 และการประชุมคณะกรรมาธิการการบริหาร ครั้งที่ 63 และ 64
