เกาะกระแส
00 คำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่เตือนให้บางคนหยุดปล่อยข่าวเรื่องเก้าอี้รมต. เพราะจะชวดเก้าอี้ เป็นการสะท้อนภาพการเคลื่อนไหวภายในพรรคเพื่อไทยได้เป็นอย่างดี ภาพของการชิงดีชิงเด่นแย่งเก้าอี้กันชุลมุน และที่สำคัญคนที่ออกมาพูดดักคอคนอื่นนั่นแหละตัวดีกว่าใคร ถ้าจะว่าไปแล้วคนที่ “โชว์เก๋า” ทำตัวเป็นขาใหญ่แบบไม่ต้องลงทุน อาศัยท่วงท่า ออกแต่ลีลาให้โดดเด่นเข้าตา “นาย” ทำตัวเป็น “องครักษ์พิทักษ์ปู” เพราะรู้กันอยู่ว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร นี่แหละทำให้ “หวานหมู” ทำตัวให้โดดเด่นในสภา ได้ทั้งภาพ และเสียง ของแบบนี้มีแต่กำไร
00 ขณะเดียวกันที่ออกมาดักคอคนอื่นไม่ให้ปล่อยข่าวแย่งเก้าอี้ รมต. แต่ตัวเองก็ดันสะเออะเสนอหน้าไปฮ่องกงกับเขาด้วย การพูดว่าตัวเองและครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อน ไม่ได้ไปพบกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่นั่นเหมือนคนอื่น ถ้าคิดว่าชาวบ้านเขาโง่แล้วอวดฉลาดแบบตัวเองก็พูดต่อไป ไม่มีใครว่า คิดว่าตัวเองทำให้เรตติ้งรัฐบาลพุ่งพรวดพราดก็เชิญตามสบาย
00 แน่นอนว่าตำแหน่งที่หลายคนถวิลหารับรองว่าต้องมีเก้าอี้ มท.1 ที่ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ เคยนั่งอยู่ และงานนี้สำหรับคนที่อยากมานั่งแทนก็มีหลายประเภท ล้วนแล้วประเภทเชิงสูงทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่า “นายใหญ่” จะไว้ใจใครมากกว่า นาทีนี้ถ้าถามว่าใครเต็ง ก็ต้องตอบแบบไม่มีข้อมูลว่า ภูมิธรรม เวชยชัย ที่กำลังลุ้นอยู่หลายตำแหน่ง ติดโผ แน่ เข้าข่ายประเภท “ของจริงไม่ต้องโชว์”
00 ค่อนข้างแน่นอนว่าการแถลงผลงานรัฐบาลครบ 1 ปี คงจะได้ฤกษ์ในราวกลางเดือนพ.ย. เพราะต้องมีการคิดประดิดประดอย สรรหาถ้อยคำสวยหรูอย่างไร อีกทั้งต้องเค้นผลงานออกมาให้ได้ว่า มีอะไรประทับใจคนทั่วไปบ้าง และในฐานะคนที่ต้องรับผิดชอบดูแลในส่วนนี้สำหรับ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกฯ คงต้องทำงานหนักหน่อย ที่แปลกพิลึกก็คือ เป็นการเตะถ่วงให้นานที่สุด จนฝ่ายค้านยื่นซักฟอกไปแล้ว ที่จริงถ้าอยากให้ “นายกฯหญ้าแพรก” ต้องขึ้นเขียงในสภาช้าออกไปอีก ทำไมไม่รอให้รัฐบาลอายุครบสองปีเสียเลยล่ะ ทุด !!
00 สำหรับโครงการรับจำนำข้าว ถ้าคิดแบบซาดิสต์ ก็ต้องบอกว่า ใจหนึ่งอยากให้รัฐบาลเพื่อไทยได้เดินหน้าให้สุดๆไปเลย ไม่ต้องไปขัดขวาง โดยเฉพาะไม่อยากให้ศาลรธน. ต้องมาขัดขวาง และเชื่อว่าในทางกม. ก็ขวางไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายรัฐบาล แต่ถ้าเป็นศาลปกครองแล้วน่าจะเป็นไปได้มากกว่า อย่างไรก็ดีที่น่ากลัวสุดๆ ตอนนี้น่าจะเป็น “คำเตือน” จาก ป.ป.ช. มากกว่า ว่าอาจเข้าข่าย ม.157 แต่ถึงอย่างไรก็อยากให้เดินไปให้สุด แต่ขณะเดียวกันก็ต้องบันทึกเป็นหลักฐานไว้ให้ชัดเจนว่า ใครพูดอย่างไร ทำอะไรไว้บ้าง เช่น ที่ รมว.พาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ บอกว่า ขายข้าวแบบ “จีทูเจ๊ง” เอ้ย จีทูจี กับประเทศไหน เท่าไหร่ กี่ตัน กี่บาท เมื่อไหร่ ต้องมีหลักฐานพูดออกมาให้ชัด ไม่ใช้อ้างความลับ แบบนี้เขาเรียกว่าปกปิด เพราะเวลาฉิบหายขึ้นมาในภายหลังจะได้ตามไปกระทืบได้ไม่ผิดตัว ของแบบนี้บางทีระบอบประชาธิปไตยปลอมๆ มันก็ต้องให้เดินไปแบบนี้แหละ อยากทำอะไรก็ทำไป ทำให้เต็มที่ สุดๆไปเลยเจ๊ !!