xs
xsm
sm
md
lg

“ณัฐวุฒิ” ไม่รู้ “จตุพร” ได้ขึ้นแท่นเป็นอำมาตย์อีกคน ให้รอดูใจ “ปู”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(ภาพจากแฟ้ม)
“ณัฐวุฒิ” บอกไม่รู้ “จตุพร” จะได้เป็นรัฐมนตรี ส่วนตัวหนุนเต็มที่ แต่ต้องอยู่ที่ดุลพินิจนายกฯ ยิ่งลักษณ์จะพิจารณา ปัดแกนนำ พท.บีบ “ยงยุทธ” ลาออก เหตุสนิทเสื้อแดงเกินไป โวราคายางปรับตัวต่อเนื่องล่าสุดกิโลฯ ละ 90 บาทแล้ว ดึงผู้ว่าฯ เมืองตงหยิงและเมืองชิงเต่าจากจีนดูถนนลาดยางพาราสายแรกของไทย ใช้งบฯ 85 ล้านบาท ยาว 19 กิโลเมตร


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และแกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย สนับสนุนให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ได้เป็นรัฐมนตรีว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่การจะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นดุลพินิจและอำนาจของนายกรัฐมนตรี และตอนที่ตนเข้ามาทำงานก็ไม่ได้มีเรื่องโควตาของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทุกคนใน ครม.ทำงานอย่างเต็มกำลัง ซึ่งหากผู้นำสูงสุดคิดว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนทีมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ก็เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายเข้าใจได้

อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่าการที่พี่น้องคนเสื้อแดงออกมาเรียกร้องให้มีการแต่งตั้งนายจตุพรเป็นรัฐมนตรีทุกครั้งที่มีกระแสข่าวปรับ ครม.นั้น ก็เพราะพี่น้องที่ร่วมต่อสู้มาด้วยกันได้เห็นศักยภาพ ขีดความสามารถ และความทุ่มเทจริงใจต่อพรรค จึงเห็นว่าเพื่อนน่าจะได้รับโอกาส ซึ่งก็เป็นการสนับสนุนกันธรรมดา ส่วนการพิจารณาเป็นเรื่องของนายกฯ พวกเราไม่เคยก้าวล่วง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงเวลาที่นายจตุพรจะได้เป็นรัฐมนตรีหรือยัง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นายจตุพรมีขีดความสามารถทางการเมืองไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร จุดยืนเรื่องประชาธิปไตยแน่ชัด และได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก ฉะนั้นหากพิจารณาคุณสมบัติเฉพาะตัวของนายจตุพรเรียกว่าพร้อมอย่างที่สุด แต่จะเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ หรือจะเป็นตอนไหนอย่างไร เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือนายจตุพรและคนอื่นๆ เพราะเป็นเรื่องของนายกฯเป็นหลัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายจตุพรได้เป็นรัฐมนตรีจะได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ หรือมีคนใดคนหนึ่งต้องไป นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนกับนายจตุพรเราอยู่กันด้วยหัวใจ ร่วมเป็นร่วมตายกันมา การจะได้อยู่ในสภาด้วยกัน หรืออยู่ใน ครม.ด้วยกันนั้นถือเป็นเส้นทางทางการเมือง แต่เส้นทางชีวิตถือว่าอยู่กันทั้งชีวิตอยู่แล้ว กอดคอหลังพิงกันมาตลอด

ส่วนที่มีการระบุว่านายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เนื่องจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแกนนำคนเสื้อแดงมากเกินไปนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า คงไม่เลยเถิดขนาดนั้น และคงไม่ใช่เพราะรัฐมนตรีคนไหนไปใกล้ชิดกับคนเสื้อแดงแล้วจะถูกกดดันให้ออก แต่เรื่องของนายยงยุทธเป็นเรื่องเฉพาะกรณี เนื่องจากเวลานี้มีเป้าหมายทางการเมืองที่ทำให้คนเสื้อแดงและรัฐบาลเกิดรอยร้าวทางความรู้สึก ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้ผล

นายณัฐวุฒิยังกล่าวถึงสถานการณ์ยางพาราว่า ขณะนี้สถานการณ์ยางพาราขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคายางแผ่นดิบในประเทศทะลุผ่าน 90 บาทต่อกิโลกรัมไปแล้ว จึงมั่นใจว่าหลังจากนี้ราคาจะยังขยับตัวสูงขึ้น เพราะทุกมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการกำลังส่งผลในเชิงบวก ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจในระดับโลกก็ยังอยู่ในสภาพทรงตัว ไม่มีสัญญาณลบอะไรมากกว่าที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในวันที่ 3 ต.ค.ตนและคณะจะเดินทางไปประเทศเวียดนามเพื่อหารือกับรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ของเวียดนาม เพื่อที่จะเชิญชวนให้มาร่วมสังเกตการณ์ในการประชุมใหญ่ไตรภาคีสภายางพาราที่ กทม.ในเดือน ธ.ค.นี้

รมช.เกษตรฯ กล่าวด้วยว่า หลังจากตนเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้พบกับผู้ว่าเมืองตงหยิงและเมืองชิงเต่า ซึ่งเป็นเมืองที่มีอุตสาหกรรมยางพาราใหญ่ที่สุดในประเทศจีน โดยได้ไปเชิญให้ผู้ว่าฯ ทั้งสองเมืองนำภาคเอกชนมาสังเกตการณ์การก่อสร้างถนนสายยางพาราเส้นแรกของประเทศไทย ที่ ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มีขนาดถนนหน้ากว้าง 9 เมตร ยาว 19 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 85 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้งบประมาณได้ผ่านคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยปลายปี 55 น่าจะเริ่มก่อสร้างได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ราคายางพาราจะได้กิโลกรัมละ 100 บาท ภายในปีนี้หรือไม่ รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า วันนี้ก็เลย 90 บาทต่อกิโลกรัมไปแล้ว และราคายางราคาในจุดส่งออกก็เลย 100 บาทต่อกิโลกรัมไปแล้ว ขยับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว อนาคตข้างหน้าก็จะขยับตัวสูงขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตาม อยากบอกพี่น้องชางสวนยางว่า หากเราจะไปคาดหวังให้ขยับขึ้นพรวดพราดนั้นเป็นไปไม่ได้ในสถานการณ์นี้ แต่รัฐบาลจะดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นตามความจริงของสถานการณ์
กำลังโหลดความคิดเห็น