ที่ประชุม ส.ส.ปชป.จับตารัฐบาลเปิดพิจารณากรณีนาซาฯ ขอใช้อู่ตะเภา ส่อโยงถึงธุรกิจพลังงานของคนสนิท “ทักษิณ” เตรียมตั้งกระทู้ถามสดแก้ไฟใต้ 4 ต.ค.นี้ สั่ง ส.ส.ทำการบ้านหาต้นตอ “ถาวร” เผยเหตุร้ายยังเกิดถี่ยิบรายวัน โดยเฉพาะขู่ไม่ให้ประกอบอาชีพทุกวันศุกร์ แต่ ศปก.กปต.ไม่ได้ทำอะไรเลย ร้องนายกฯ สร้างสันติภาพ
วันนี้ (1 ต.ค.) ในที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการหารือถึงการประชุมร่วมรัฐสภาที่จะมีการนำเรื่องกรณีที่องค์การนาซาจะขอเข้ามาใช้พื้นที่ของสนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง ที่ก่อนหน้านี้เคยจะเข้ามาขอใช้พื้นที่โดยระบุเหตุผลว่าเพื่อขอใช้เป็นสถานีตรวจวัดเมฆหมอกและชั้นบรรยากาศ โดยที่รัฐบาลไม่ได้มีการนำเรื่องเข้าหารือต่อที่ประชุมรัฐสภาตามมาตรา 179 และ 190 ของรัฐธรรมนูญ จนเกิดกระแสต่อต้านว่าอาจมีการเหตุอื่นที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐาน ที่สุดองค์การนาซาจึงต้องยกเลิกโครงการดังกล่าว
โดย ส.ส.หลายคนได้แสดงความเห็นว่า หลักการยกเลิกโครงการที่พรรคทำหน้าที่ตรวจสอบ โฆษกและ ส.ส.พรรคเพื่อไทยต่างออกมาวิจารณ์และเบี่ยงประเด็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ปิดกั้นโอกาสของประเทศ เพราะนาซาระบุว่าจะสำรวจได้เฉพาะช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงมรสุมและจะไม่เข้ามาใช้พื้นที่ประเทศไทยอีก แต่การขอเปิดอภิปรายร่วมสองสภาครั้งนี้มีเรื่องนี้อยู่ด้วย แสดงว่าจะต้องมีความพยายามที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ในไทยอีก จึงต้องจับตามองเป็นพิเศษว่าเพราะเหตุใดและโยงถึงธุรกิจพลังงานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่คนใกล้ชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปลงทุนในเรื่องนี้หรือไม่ อย่างไร และที่สำคัญต่างเป็นห่วงถึงความมั่นคงของชาติที่อาจถูกจารกรรมข้อมูลจากเครื่องบินของสหรัฐฯที่จะเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานสำรวจ
นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงปัญหาความรุนแรงของสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ที่รุนแรงขึ้น จนมีชาวบ้านในพื้นที่ต่างร้องเรียนต่อ ส.ส.ของพรรคว่า ไม่รู้จะไปประกอบอาชีพอะไรในพื้นที่แล้ว เพราะไม่มีความมั่นใจในชีวิตและทรัพย์สิน ท่ามกลางความเสี่ยงของการวางระเบิด ก่อเหตุร้าย ที่สุดในที่ประชุมจึงมีมติให้ยื่นเรื่องเพื่อที่จะขอตั้งกระทู้ถามสดต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงการแนวทางในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันที่ 4 ต.ค.นี้
โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้ ส.ส.พรรคทำการบ้านหาข้อมูลว่าต้นเหตุของความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้เกิดขึ้นเพราะอะไร เพื่อที่จะได้เข้าใจต้นตอของปัญหาที่มีทวีความรุนแรงขีดสุดในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณที่ใช้กำลัง เพื่อจะเป็นฐานข้อมูลในการตั้งกระทู้ อภิปรายซักถาม ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ฯ และแกนนำพรรคกล่าวเตือนลูกพรรคว่า ขอให้ ส.ส.ทุกคนลงพื้นที่ทำกิจกรรมกับชาวบ้าน อย่าคิดแต่เกาะกระแสพรรค หรืออย่าคิดเพียงว่าในพื้นที่เขตเลือกตั้งใครก็สู้ไม่ได้ โดยขอให้เร่งหาสมาชิกพรรคเพิ่มและขยายโรงเรียนการเมืองในพื้นที่รับฟังปัญหาชาวบ้านจากนโยบายของรัฐบาล
ด้าน นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคใต้ แถลงข่าวที่พรรคว่า กรณีที่ตนเองและ ส.ส.จังหวัดชายแดนภาคใต้เคยเข้าพบนายกฯ และได้ยื่นข้อเสนอ 9 และคัดค้านการตั้งศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) เนื่องจากทำงานซ้ำซ้อนกับหน่วยงานเดิมที่มีอยู่ แต่ทางผู้ที่เกี่ยวข้องระบุว่าอย่าเพิ่งคัดค้าน พวกตนจึงได้ให้โอกาส แต่พบว่าเหตุร้ายยังเกิดถี่ยิบรายวันแม้แต่งานวันของดีเมืองบาเจาะ จ.นราธิวาส ยังมีผู้ก่อความไม่สงบยิงอาร์พีจีเข้าไปในพื้นที่จัดงานหน้าที่ว่าการอำเภอ
นอกจากนี้ เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายจดหมายข่มขู่ให้คนไทยมุสลิมหยุดประกอบอาชีพวันศุกร์ทั้งที่หลักศาสนาไม่ได้ระบุว่าให้หยุดประกอบอาชีพ เพียงแต่บอกให้ไปละมาดใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้ ศปก.กปต. ทั้ง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ไม่ได้ทำให้เกิคดวามมั่นใจ ไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย จนทำให้ประชาชนว้าเหว่หวาดกลัว จึงอยากให้ช่วยเอาจริงเอาจังเรื่องนี้
“นายกฯ บอกว่าจะทำให้เกิดสันติภาพในพม่า ก็อยากขอให้ทำให้สันติภาพเกิดที่ชายแดนใต้หน่อย แสดงประสิทธิภาพ และทำให้เกิดความมั่นใจ ประชาชนสามารถออกกมาประกอบอาชีพ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการเตรียมตั้งกระทู้ถามสด ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง เรื่องบ้านเมือง ถ้านายกฯ ไม่กล้าตอบเพราะไม่รู้เรื่องก็ส่งใครก็ได้มาหารือ และที่ ร.ต.อ.เฉลิมส่งสารมาให้ร่วมประชุมถึงสองครั้ง ผมก็ยินดี ทำเพื่อบ้านเมือง แต่ต้องระวังขออย่าให้ใครไปร้องแทรกแซงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ” นายถาวรกล่าว