โฆษกเพื่อไทยแจงแพ้เลือกตั้งซ่อม ส.ก.เขตดอนเมือง โบ้ยชาวบ้านเข้าใจรัฐบาลไม่ให้เงินเยียวยาน้ำท่วม อ้างจัดสรรงบให้ กทม.ไปแล้ว โดดป้องนายกฯ ถูก “อภิสิทธิ์” จวกลอยตัวเหนือปัญหาไฟใต้ ย้อนหาเสียง 99 วัน ปชป.ยังทำไม่ได้จริง เหน็บลงพื้นที่สร้างภาระให้เจ้าหน้าที่ จี้รับคำเชิญ “เฉลิม” แก้ปัญหาอย่างบูรณาการ
วันนี้ (3 ก.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตดอนเมือง เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ขอแสดงความยินดีต่อผู้ที่ได้รับชัยยชนะด้วย ซึ่งเรื่องการแพ้หรือชนะนั้นถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่คงจะไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ส.ส. หรือผู้ว่าฯ กทม.ในอนาคต เพราะการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นนั้นเป็นเรื่องของการที่ประชาชนต้องการให้ผู้สมัครเข้าไปดูแลประชาชนในพื้นที่ ส่วนการเลือกตั้งระดับชาตินั้นประชาชนจะพิจารณาในเรื่องของนโยบายของพรรคเป็นหลัก
ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ก.ที่ออกมานั้น เป็นไปได้ว่าประชาชนอาจจะยังมีอารมณ์อยู่จากเรื่องการให้เงินช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วม ทั้งๆ ที่รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณต่างๆ ให้แก่ กทม.ไปแล้ว และเป็นเรื่องของเขตที่จะนำเงินไปให้กับประชาชน ซึ่งตรงนี้เราอาจจะต้องมีการทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย โดยเฉพาะภาค กทม.นั้นเชื่อว่าจะมีการนำกรณีนี้ไปทบทวนอย่างแน่นอนว่ามีจุดดีและจุดเสียตรงไหน อย่างไรบ้าง
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลอยตัวเหนือปัญหาในการแก้ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการมอบหมายให้ 3 รองนายกรัฐมนตรีเข้าไปดูแลนั้นไร้เอกภาพและล้มเหลวว่า เป็นแค่เกมการเมืองมากกว่าการจะเสนอเหตุและผลหรือวิธีในการแก้ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ลอยตัวเหนือปัญหาหรือปล่อยให้ 3 รองนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบโดยลำพัง นายอภิสิทธิ์เองก็เคยเป็นนายกรัฐมนตรีถึง 2 ปี 8 เดือนและเคยเข้าไปแก้ไขปัญหาแต่ก็ล้มเหลวมาแล้ว ทั้งๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยหาเสียงเอาไว้ว่า 99 วันจะดับไฟใต้ให้ได้แต่ก็ไม่สามารถทำได้
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์เองก็ยังเคยมอบหมายให้นายถาวร เสนเนียม อดีต รมช.มหาดไทยเข้าไปดูแลและแก้ไขปัญหาเพียงคนเดียว แต่ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้อย่างต่อเนื่องจนมาถึงรัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ยังอ้างว่าในสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยตัวเองจะกลายเป็นภาระให้กับเจ้าหน้าที่ที่ต้องมาคอยรักษาความปลอดภัยให้อีกด้วย ทั้งนี้ การแก้ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องแก้ปัญหาแบบบูรณาการโดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนด้วย
“การเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเปิดเวทีและมารับฟังปัญหาด้วยตนเองนั้น เชื่อว่านายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะรับฟังและนำข้อมูลของฝ่ายค้านไปปฏิบัติอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้ต้องถือเป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากคงไม่มีคนไทยคนไหนไม่อยากเห็นภาคใต้สงบสุข อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีก็เคยลงพื้นที่ จ.ปัตตานีมาแล้วในการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมาเพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ ดังนั้นวันนี้หากฝ่ายค้านเสนอข้อมูลหรือวิธีแก้ไขปัญหาเชื่อว่านายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะรับฟังหากเสนอข้อมูลให้กับรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์” นายพร้อมพงศ์กล่าว
โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า เห็นได้จากล่าสุดที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือเชิญนายอภิสิทธิ์มาร่วมหารือถึงวิธีการแก้ไขปัญหาและขอข้อมูลต่างๆ ด้วย ดังนั้นตนจึงอยากเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์รับคำเชิญของ ร.ต.อ.เฉลิมเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง อย่างไรก็ตาม การที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดผ่านสื่อว่าการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลล้มเหลวโดยสิ้นเชิงนั้นถือว่าไม่เหมาะสม แต่ควรจะมาหารือกับรัฐบาลหรือนำเสนอวิธีการแก้ไขให้กับรัฐบาลโดยตรงจะดีกว่า