xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” แนะ ผบ.ตร.ใหม่เข้มใช้ กม. จี้รัฐแจงคันน้ำนิคมลาดกระบังพัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” แนะ “อดุลย์” เข้มแข็งบังคับใช้กฎหมาย ยันยังอยากคุยแต่ยังถกไม่ลงตัว ไม่วิจารณ์ข่าวบินพบ “นช.แม้ว” จี้รัฐแจงคันกั้นน้ำนิคมลาดกระบังพัง ซักเปิดงบแสนล้านทำอะไรไปบ้าง หยันโฆษกเพื่อไทยยื่นดีเอสไอสอบอุโมงค์ยักษ์แค่เกมเลือกตั้งผู้ว่าฯ ขอรัฐลงมาคุยกับ กทม.แก้น้ำท่วม


วันนี้่ (1 ต.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. ที่เพิ่งเข้ามารับหน้าที่ใหม่วันนี้เป็นวันแรกว่า ผบ.ตร.คนใหม่ต้องแสดงความเข้มแข็งและความเป็นธรรมในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะบทบาทของตำรวจมีความสำคัญที่จะช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสังคม ซึ่งที่สุดแล้วกระบวนการยุติธรรมจะเป็นหัวใจสำคัญและตั้งต้นที่ตำรวจ ดังนั้น หาก ผบ.ตร.ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่ดีมาก และอยากให้ช่วยดูแลไม่ให้เกิดการปลุกระดมปวงชนเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง รวมถึงยังอยากให้ดูแลปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมด้วย อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังยืนยันที่อยากจะไปพบและพูดคุยกับ พล.ต.อ.อดุลย์ เพื่อพูดคุยเรื่องคดีต่างๆ แต่ยังนัดหมายกันไม่ลงตัว ส่วนที่มีข่าวว่าก่อนรับตำแหน่ง พล.ต.อ.อดุลย์ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ตนไม่ขอแสดงความเห็น แต่ช่วงที่ทำงานในรัฐบาลที่แล้วก็เห็นว่าทำงานได้เรียบร้อยดี และหลังจากนี้จะเป็นบททดสอบที่สำคัญ เพราะไม่มีข้าราชการที่ไหนสังกัดพรรคการเมือง

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงกรณีที่ภาคธุรกิจมีความกังวลหลังจากเกิดเหตุคันดินกั้นน้ำนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังพังว่า รัฐบาลจะต้องเร่งชี้แจงว่ากรณีที่เกิดขึ้นแต่ละจุดเกิดจากอะไร และจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นในจุดอื่น ซึ่งในส่วนของฝ่ายค้านจะตรวจสอบต่อไปว่าความบกพร่องเกิดจากอะไร แต่ภาพที่เห็นในขณะนี้มีหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่น่าเป็นห่วง เช่น จ.ชลบุรี ปราจีนบุรี ในขณะที่พื้นที่ที่เคยท่วมบางพื้นที่ยังประสบปัญหาซ้ำซาก ทั้งที่รัฐบาลเคยพูดหลังจากปีที่แล้วว่าระบบบริหารจัดการ ระบบเตือนภัยจะชัดเจน ซึ่งฝ่ายค้านก็เรียกร้องว่าต้องแสดงให้เห็นว่าใช้เงินงบประมาณไปแสนกว่าล้านบาท แล้วผลที่ออกมากคืออะไร แต่ในขณะนี้ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงบริหารจัดการ ขีดความสามารถในการป้องกัน ยกเว้นกรณีที่ไปสร้างกำแพงรอบๆ บางนิคมอุตสาหกรรม ดังนั้นต้องยอมรับว่าตอนนี้ทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชนยังหวั่นไหวกับสถานการณ์ จึงไม่ควรปล่อยให้ยืดเยื้อ

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าในพื้นที่กทม.มีการไปยัดถุงทรายแล้วทำให้ท่ออุดตันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนอยากให้ทั้ง กทม.และรัฐบาล แสดงออกถึงความร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหากันดีกว่า เพราะประชาชนก็ทุกข์พออยู่แล้ว ดังนั้นไม่ควรมาทะเลาะกันทางการเมือง และเห็นว่าการที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย จะไปยื่นเรื่องให้สอบอุโมงค์ยักษ์และงบประมาณการลอกท่อต่อดีเอสไอนั้น คงเป็นเพราะใกล้จะมีการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ทั้งที่โครงการต่างๆ ของ กทม.นั้นสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว แต่ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไร ก็เชื่อว่าไม่ฟัง เพราะหวังผลในการเลือกตั้งอยู่แล้ว ดังนั้น นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่รับผิดชอบการบริหารจัดการน้ำ ควรหารือร่วมกับผู้ว่าฯ กทม.ในการแก้ไขปัญหาจะเป็นการดีที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น