xs
xsm
sm
md
lg

“ฝ่ายค้าน-รัฐบาล” ดวลเดือด แฉ “ประชา” ล็อบบี้อธิบดีศาลช่วย “เจ๋ง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฝ่ายค้าน-รัฐบาลฟัดกันนัว “นิพิฏฐ์” จี้ดำเนินคดีการ์ดแดงตามรายงาน คอป. ยกคำพูด “ธาริต” มัดชายชุดดำฆ่า “พล.อ.ร่มเกล้า” พร้อมแฉ “ประชา” ดอดล็อบบี้ผู้พิพากษาช่วย “เจ๋ง ดอกจิก” พ้นคุกกลางโรงแรมหรู ด้าน “เฉลิม” เฉไฉยกคำตัดสินศาล แท็กซี่ นปช.ตายเพราะ จนท.รัฐ เจอตอกกลับ “โง่” ถามอย่างตอบอย่าง หวังกระทบชิ่ง “มาร์ค-เทือก” ขณะที่เจ้าตัวรับไม่ได้ถูกด่า ถามเป็นดอกเตอร์โง่ได้ไง “ประชา” รับพบอธิบดีศาลจริง แต่ไปร่วมงานสัมมนากับ “ปู” อ้างช่วย “เจ๋ง” ตามกรมคุ้มครองสิทธิฯ ฝ่าย “อภิสิทธิ์” เตือนต้องตรงไปตรงมา ลั่นงานนี้ต้องไม่มี “ไอ้ปึ๊ด”

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (27 ก.บ.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กระทู้สดถามนายกรัฐมนตรีเรื่องการปฏิบัติงานของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมว่า จากผลสรุปของ คอป.ชี้ชัดว่า การชุมนุมของ นปช.มีลักษณะเป็นกองกำลังใช้อาวุธโจมตีเจ้าหน้าที่ และได้รับความร่วมมือจากการ์ด นปช. ซึ่งขณะนี้การ์ด นปช.เข้ามามีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร อยากถามว่ารัฐบาลได้ดำเนินคดีต่อการ์ด นปช.ดังกล่าวอย่างไร และได้ดำเนินการต่อคนเสื้อแดงตามที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่าเป็นผู้สังหาร พล.อ.ร่มเกล้า ธุว ธรรม เสียชีวิตอย่างไร

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมยังน่าเชื่อถือ ไม่มีการรับใช้การเมือง และไม่ดำเนินการนอกกระบวนการ แต่รายงาน คอป.ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย พนักงานสอบสวนจะรับฟังหรือไม่ก็ได้ เพราะ คอป.เองก็ยังเอาการ์ดพันธมิตรฯมาร่วมเป็นกรรมการด้วย หากพบว่าการ์ด นปช.ไม่ว่ามีตำแหน่งอะไร ถ้าผิดก็จับหมด ไม่จำเป็นอะไรที่จะอุ้มเผือกร้อน

โดยคดีที่มีการดำเนินการทั้งหมดส่วนใหญ่มาจากรัฐบาลที่แล้ว และผู้ที่ตกเป็นจำเลยส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อแดงและการ์ด นปช.แต่ประเด็นที่น่าสนใจ คือ จากคำตัดสินของศาลในคดีการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง ศาลอาญาชี้ชัดว่าเป็นการเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่ยิงไปที่รถตู้ระหว่างการปิดล้อมเพื่อกระชับพื้นที่ภายใต้คำสั่งของ ศอฉ. ประกอบกับมีทนายความของนายกิตติชัย แข็งขัน ที่บาดเจ็บจากการชุมนุมได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ข้อหาพยายามฆ่า ยืนยันว่างานนี้ไม่มีมวยล้ม ทุกอย่างจะเดินหน้าตามกระบวนการยุติธรรม

ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ถามต่อว่า ตนมีหลักฐานว่ากระบวนการยุติธรรมล้มเหลวและรับใช้การเมือง รัฐมนตรียุติธรรมวันๆ ไม่ทำอะไร วันดีคืนดีดอดไปพบผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่ในโรงแรมหรู ไม่ใช่ระดับจิ้งหรีด เพื่อขอประกันตัวผู้ต้องหา นายเจ๋ง ดอกจิก ตนมีเทปยืนยันถึงความเสื่อมทรุด วันดีคืนดีผู้ใต้บังคับบัญชาสอบสวนการทุจริต กำลังจะสาวถึงตัวนายกฯ และคนใกล้ชิด รมว.ยุติธรรม ก็สั่งย้ายออกไปเพื่อสกัดการสอบสวน ร.ต.อ.เฉลิมมีแต่ความอาฆาตเคียดแค้น ไปตอบเรื่องนายพันทั้งที่ตนไม่ได้ถาม แต่ที่ถามกลับไม่ตอบ แต่ไปพูดเรื่องนายพันเพื่อพาดพิงไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ ตนไม่อยากว่าโง่ ไม่ฉลาด ถ้าเปิดเทปการให้สัมภาษณ์ของนายธาริต (เพ็งดิษฐ์) ที่ระบุว่าคนเสื้อแดงฆ่า พล.อ.ร่มเกล้า พูดชัดขนาดนี้แล้วทำไมไม่ดำเนินคดี นปช. มีโครงสร้างเครือข่ายชัดเจน มีประธาน มีเลขาฯ มีโฆษก มีการ์ด

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ตนมีหลักฐานว่ามีการรับใช้การเมือง โดยมีเทปบันทึกภาพที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ไปล็อบบี้ผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งชื่อท้ายการ์เด้นส์ แต่ดีใจที่ผู้พิพากษาไม่ให้ประกันตัวตามที่ พล.ต.อ.ประชารับรอง เพราะไม่เชื่อถือในตัว พล.ต.อ.ประชา แม้จะพยายามไปล็อบบี้ก็ตาม เพราะไม่เคยมี รมว.ยุติธรรมเดินไปบนศาลเพื่อรับรองคดีอุกฉกรรจ์ นอกจากนี้ตนยังฝันถึงผลการสอบสวนคดีก่อการร้ายเห็นว่า ในสำนวนสอบสวนแผ่นที่ 7 บรรทัดที่ 24 ได้ระบุชื่อคนยิง พล.อ.ร่มเกล้า ว่ามีอักษรย่อ “ส.” แต่ยังไม่ถูกดำเนินคดี เพราะอยู่ในกลุ่ม นปช.

ร.ต.อ.เฉลิมตอบโต้ว่า นายนิพิฏฐ์ไม่มีสมบัติผู้ดีที่มากล่าวหาตนว่าเป็นคนโง่ เพราะตนจบระดับดอกเตอร์ด้านกฎหมาย มีความรู้ดี ไม่สมควรมากล่าวหาตนโง่ในสภาแบบนี้ ควรไปซื้อหนังสือสมบัติผู้ดีมาอ่าน

ขณะที่ พล.ต.อ.ประชา ได้ขอใช้สิทธิชี้แจงเพราะถูกพาดพิงว่า ยอมรับได้ไปพบกับอธิบดีศาลคนหนึ่งจริงที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ แต่ไม่ได้ไปล็อบบี้ เป็นการพบกันในงานของสำนักงานอัยการสูงสุดจัดสัมมนาเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่เชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงาน ดังนั้นนายนิพิฏฐ์ไม่ได้พูดความจริง ตนทำงานเพื่อประชาชน เมื่อมีใครร้องเรียนมาก็ให้ความช่วยเหลือเต็ม เช่นกรณีนายเจ๋งนั้น ภรรยานายเจ๋งมาร้องเรียนให้ช่วยประกันตัว ตนก็ดำเนินการให้กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพให้การช่วยเหลือถือว่าตนแสดงออกถึงความเป็นผู้นำในการให้กฎหมายบังคับใช้ตามสิทธิรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นหน้าที่ที่กระทรวงต้องดูแลผู้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อศาลยังไม่ตัดสินก็ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นได้มีการพูดจาตอบโต้กันไปมาร่วมชั่วโมง โดยนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นใช้สิทธิพาดพิงชี้แจงว่า รัฐบาลที่แล้วได้มีผู้ร้องขอความเป็นธรรมเพราะถูกคุมขังหลายราย ตนก็มอบให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ ดำเนินการ โดยไม่เคยให้ รมว.ยุติธรรมไปดำเนินการให้กับใคร เพราะความใกล้ชิดหรือคุ้นเคยส่วนตัว พล.ต.อ.ประชาไม่ควรใช้สถานะของตัวเองปะปนกับกรมคุ้มครองสิทธิฯ

“ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิมบอกว่าไม่ก้าวก่ายการสอบสวนของพนักงานสอบสวน แต่ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม และอธิบดีดีเอสไอ ให้สัมภาษณ์ไปไกลว่าคดีนายพันจะเป็นบรรทัดฐานในอีก 35 คดีที่เหลือ ไม่ทราบว่าพูดมาจากตำราใด เพราะเป็นคนละเหตุการณ์ ไม่สามารถนำมาเป็นบรรทัดฐานกันได้ ถ้าทำอย่างตรงไปมาผมก็เห็นด้วย อย่าเอาการเมืองเข้าแทรก พวกเราเคารพกระบวนการยุติธรรม พร้อมเข้าสู่กระบวนการปกติ ไม่หนีไปไหน แต่งานนี้ต้องไม่มีไอ้ปื๊ดมาเกี่ยวข้อง”

ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบโต้ว่า ตามหลักกฎหมายการที่ไม่ประสงค์ผล แต่เล็งเห็นผลก็ถือว่ามีเจตนาแล้ว เพราะการยิงไปยังรถตู้ท่ามกลางประชาชนที่สัญจรไปมาก็เล็งเห็นผลได้ ทำให้นายอภิสิทธิ์ลุกขึ้นตอบโต้ปิดท้ายว่าถ้าจะเอาคนที่เล็งเห็นผล ก็ขอให้เอาคนที่สั่ง นปช.ออกมาชุมนุมมาลงโทษด้วย เพราะทำให้บ้านเมืองเสียหาย


กำลังโหลดความคิดเห็น