“ประยุทธ์” อ้างเฝ้าระวังเหตุไม่สงบปลายเดือน ก.ย.ทำมาตลอดอยู่แล้ว แนะทุกฝ่ายช่วยดูแล ชี้ วิธีแก้ไม่เหมือนตัดเสื้อ ไม่มีสูตรสำเร็จ อย่าคิดอะไรตื้นๆ ชี้ พระเทพฯ เสด็จฯภาคใต้แสดงว่าพื้นที่รุนแรงมีเพียงส่วนน้อย ซัดพวกเสนอแนวทางอย่าดูถูกทหาร อ้างจะหมดกำลังใจ
วันนี้ (26 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นห่วงว่า ช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้จะมีเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ท่านคงห่วงในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา ส่วนผู้ปฏิบัติทำมาตลอดอยู่แล้ว ซึ่งเป็นข้อห่วงใยที่จะต้องนำมาปฏิบัติ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นซับซ้อนจึงจะต้องแก้ไขกันไป แกะกันให้ออก ไม่ให้มันเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน และแก้กันทีละปัญหาจึงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ไม่ใช่แก้กันเป็นโครมครามใช้กำลัง หรือใช้ความรุนแรง หรือใช้กฎหมายที่รุนแรง ถ้าใช้กำลังไม่ได้ และประชาชนไม่เห็นด้วย
“ถามว่า เจ้าหน้าที่จะสามารถทำอะไรได้ พวกเราต้องช่วยกันสร้างสภาวะแวดล้อมให้ทุกคนเห็นด้วยในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ วันนี้ตนไม่ตำหนิใครอยู่แล้ว ใครอยากจะแนะนำอะไรก็เชิญ ซึ่งก็จะต้องดูว่าจะทำได้แค่ไหนอย่างไร ถ้าทำได้ง่ายคงไม่ต้องใช้เวลาแก้ไขกันนาน ไม่เหมือนกับการตัดเสื้อตัวหนึ่งแล้วใส่ได้ทุกคน เพราะกฎหมายและวิธีการแก้ในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน บางพื้นที่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่บางพื้นที่ไม่ได้ใช้ จะเห็นว่า มีหลายมิติไม่มีสูตรใดสำเร็จ อย่าคิดอะไรตื้นๆ ง่ายๆ ถ้าคิดง่ายๆ คงแก้ได้ทั้งโลก ทุกวันนี้ปัญหาแบบนี้มีทั้งโลก ไม่ใช่ประเทศไทยแย่ไปเสียหมด คิดว่ายังดีกว่าหลายๆ ประเทศในโลก แต่เราก็ยังพยายามดึงประเทศกลับไปเป็นแบบเขา”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ท่านทรงเสด็จฯต่อเนื่องอยู่แล้ว และท่านไม่ได้ทรงเกรงกลัวอะไร เป็นการแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ทั้งหมดไม่ได้เป็นพื้นที่ที่ไม่ได้ปลอดภัยทั้งหมด แต่เป็นเพียงบางพื้นที่มีประมาณ 10-15 เปอร์เซ็นต์ จากพื้นที่ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว เราประโคมข่าวจะกลายเป็นว่าภาคใต้มีความรุนแรงทั้งหมด ซึ่งความจริงเป็นเพียงบางพื้นที่ที่มีการปลุกระดม และมีการทำผิดกฎหมาย ซึ่งเราจะต้องเปลี่ยนพื้นที่ 15 เปอร์เซ็นต์นี้ให้ได้ และไม่ให้พื้นที่ 85 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ ไปเป็นฝ่ายกลุ่มก่อความไม่สงบ นี่คือ การแก้ไขปัญหาที่สำเร็จ ตอนนี้ฝ่ายความมั่นคงเขาคิดหมดแล้ว ทุกวันนี้ไม่ใช่จะเอากำลังไปปิดล้อมตรวจค้นบ้านใครก็ได้
ส่วนศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) นั้น ขณะนี้มีความชัดเจนอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนั้น เพราะคนทำงานก็มีอยู่แค่นั้น ถ้าจะเปลี่ยนแปลงก็จะต้องเพิ่มจำนวนมากขึ้น หรือ ลดจำนวนลง แต่ขั้นตอนการปฏิบัติเหมือนเดิม เพราะคนเหล่านี้มาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ศปก.จชต.จะมาดูว่าอะไรควรทำก่อนหรือทำหลัง เพราะถ้าไม่เร่งทำงานก็จะไม่ทันเวลา ยืนยันว่า ไม่ได้ไปซ้ำซ้อนกับใคร อีกทั้ง ผอ.ศปก.จชต.จะเป็นผู้เสนอไป และนายกรัฐมนตรี ก็จะเป็นอนุมัติสั่งการลงไป อย่าไปกังวลไม่ใช่ ศปก.จชต.แล้วเขาจะเลิกรบกัน หรือว่ามีการพูดคุยกันแล้วจะเลิกรบกัน
“ประชาชนมี 2 ฝ่าย คือ ประชาชนที่มีเป็นฝ่ายเรา 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ก่อความรุนแรงก็มี 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งต้องการความสันติ อีกฝ่ายต้องการความรบอย่างเดียว ต้องการจะเอาชนะ โดยมีทั้งพวกยาเสพติด อิทธิพล เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือพวกเลวๆ เข้ามาเกี่ยวข้องที่ไม่อยากให้จบ เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งเราจะต้องทำอย่างไรให้ทั้งสองอย่างไปด้วยกัน ใครจะมอบตัวก็มา ใครไม่มอบตัวก็รบกัน คนไหนไม่มอบตัวก็รบกันปะทะกัน โดยวิธีการทางทหาร หรือ ใช้ ป.วิอาญา มันจะแก้อะไรได้มากกว่านี้ ดังนั้น อย่ามาเสนอว่าไม่ทำอย่างนั้นไม่อย่างนี้ ถามว่าคนเสนอเคยทำหรือไม่ สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้วผมไม่อยากดูถูกใครทั้งสิ้น แต่ท่านอย่ามาดูถูกพวกเรา อย่าดูถูกเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ทำงานเสียชีวิต เพราะจะทำให้คนหมดกำลังใจ” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ