“ยุทธศักดิ์” ให้หน่วยงานในพื้นที่ จชต.พิจารณาสถานการณ์ ก่อนถกเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยึดความร่วมมือ ปชช. ชี้เลิกทั้งภาพรวม หากยกเลิก พ.ร.ก.จริง ย้ำพื้นที่อันตรายมีเพียง 15% รับมีแนวร่วมมอบตัวเพิ่ม แต่ขอคุยรายละเอียด คาดอาจดูการปฏิบัติ 93 คนแรกก่อน เตือน 28 ก.ย. กลุ่มความไม่สงบป่วนทุกปี อาจเกิดจากโยกย้ายผู้ว่าฯ พร้อมสับเปลี่ยนกำลัง ตั้งด่านอุดช่องโหว่ และลดช่องว่างการปฏิบัติงาน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง"พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา"ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (26 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการเตรียมการยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า อีกประมาณ 2 เดือนเศษจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ ซึ่งตามที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวก็ถูกแล้วว่าต้องอยู่ที่คณะกรรมการพิจารณาเกี่ยวกับกฎหมายพิเศษที่จะต่อ พ.ร.ก.ใหม่หรือไม่ อยู่ในช่วงสามเดือนครั้ง ทั้งนี้ได้มอบให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และศอ.บต.ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ได้วิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ว่าอยู่ในสถานภาพที่เหมาะสมหรือไม่ โดยแยกประเด็นก่อเหตุต่างๆ ว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องการก่อไม่สงบ ไม่ใช่ว่าเกิดการต่อสู้หรือฆ่าฟันกันในพื้นที่ภาคใต้แล้วจะกลายเป็นคดีความมั่นคงไปหมด รวมถึงแยกพื้นที่ต่างๆ ที่เกิดเหตุว่ามีพื้นที่ไหนบ้าง นอกจากนี้ยังต้องดูความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ด้วยว่า หากมีการยกเลิก พ.ร.ก.แล้ว ประชาชนในพื้นที่จะให้ความร่วมมือในฐานะบุคคลที่จะทำให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่อย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ หากมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินคงไม่ยกเลิกเป็นรายพื้นที่ แต่จะเลิกในภาพรวม ที่คณะกรรมการจะรายงานเป็นส่วนรวมว่าแต่ละจังหวัดพื้นที่ไหนบ้างที่มีสถานการณ์ที่ดีขึ้น ได้รับความร่วมมือมือจากประชาชนดีขึ้น และการเคลื่อนไหนของผู้ก่อความรุนแรงเป็นอย่างไรบ้าง
“ตามที่เลขาฯ สมช.ระบุว่าพื้นที่ที่ยังมีการดำเนินการปฏิบัติการรุนแรงอยู่ ซึ่งมีประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ที่แบ่งเป็น จ.นราธิวาส และ จ.ยะลา ประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์ จ.ปัตตานี อีกประมาณเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ รวมแล้วสามจังหวัดประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์” พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่า มีกระแสว่าจะมีแกนนำออกมามอบตัวอีกนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้กำลังมีการพูดคุยกันอยู่ ที่อาจมีเงื่อนไขบางอย่างที่ไม่เหมือนกับกลุ่มที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีอีกบางกลุ่มที่คอยดูว่ากลุ่มที่มามอบตัวก่อนหน้านี้ทั้ง 93 รายนั้นได้รับการดูแลและคุ้มครองอะไรบ้าง ถามต่อว่าเงื่อนไขที่แตกต่างนั้นเปิดเผยได้หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ไว้รออีกนิดแล้วจะทราบว่ายังมีหนทางอีกหลายทาง เพราะพูดคุยไม่ใช่หนทางเดียวจากทางฝ่ายความมั่นคงของทหาร แต่จะมาจากหน่วยงานต่างๆ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้ง ศอ.บต.ทางฝ่ายการเมือง ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดหรือทางกระทรวงยุติธรรมเป็นต้น ซึ่งจำนวนผู้ที่จะพูดคุยนั้น ไม่น้อยไปกว่าเดิมแต่ขณะนี้คงกล่าวในรายละเอียดไม่ได้ เพราะจะทำให้เสียหายในสิ่งที่ดำเนินการ แต่ยืนยันว่า อีกไม่นานโดยจะมีทั้งระดับแกนนำและผู้ร่วมปฏิบัติ
เมื่อถามว่า หากมีการเจรจาจะมีเหตุการณ์ความไม่สงบเหมือนที่ อ.สายบุรี อีกหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ได้มีการสั่งเตือนให้เข้มงวดอย่างมาก ในการปฏิบัติที่ต้องเฝ้าระวังในวันที่ 26 ก.ย.นี้ โดยจากสถิติ 5 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 28 ก.ย.ของทุกปีจะมีเหตุเกิดขึ้นทุกปี
“เราก็มองว่าทำไมมันต้องเกิดทุกครั้งวันที่ 26-28 นี่เกิดทุกครั้งวันนี้ 26 แล้วก็เป็นห่วงเจ้านายที่ยังอยู่ภาคใต้ มันเกิดทุกครั้ง แต่ก็ได้คุยกับ ผบ.ทบ.แล้วว่าต้องเพิ่มความระมัดระวังดูแลความมั่นคง ซึ่งไม่ใช่จุดที่สำคัญเท่านั้น แต่ต้องดูทุกจุดรอบ ๆใน จ.ยะลาด้วย ซึ่งข้อหนึ่งอาจเป็นที่ปลายเดือนนี้ จะมีการผลัดเปลี่ยนกำลังทหารที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่สอง มีการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด เช่น ผู้ว่าฯ จ.ยะลา ก็จะเกษียรในวันศุกร์ (28 ก.ย.) นี้แล้ว ซึ่งเท่าที่ดูอยู่มันจะเกิดที่ จ.ยะลามากที่สุดจากสถิติ โดยจะเป็นเหตุใหญ่ทุกครั้ง แต่ปีนี้เราจะระวังมาก ต่อไปอาจจะมีอะไรเพิ่มเติมขึ้นโดยเฉพาะของการตั้งด่านรวมทั้งเจ้าหน้า เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างหรือจุดอ่อน ที่ผ่านมาไม่ใช่พลาดในเรื่องงานข่าวหรือนโยบาย แต่เป็นช่องว่างของการปฏิบัติ” พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าว
