รองนายกฯ ด้านความมั่นคงเผย ครม.ไฟเขียวต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินภาคใต้ไปอีก 3 เดือนถึงกลาง ธ.ค. อีกด้านอ้างแม่ทัพภาค 4 พบตัวแทนบีอาร์เอ็น แสดงตัวกลุ่มที่เป็นกลาง 80 คน ไม่ใช่พวกหัวรุนแรง ร้องขอความปลอดภัย-ช่วยเหลือด้านกฎหมาย ลั่นนายกฯ พร้อมดูแล
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ครม.มีมติต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ 20 ก.ย. ถึง 19 ธ.ค. ว่า ได้มีการวิเคราะห์ในส่วนของคณะกรรมการพิจารณาการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งแม้การก่อสถานการณ์จะลดน้อยลง แต่ยังมีเหตุการณ์ที่รุนแรง ทั้ง กอ.รมน.และเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ขอร้องให้มีการดำเนินต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 3 เดือน แต่หากสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงการเจรจาระหว่างแม่ทัพภาคที่ 4 และตัวแทน บีอาร์เอ็น ในบ่ายวันที่ 11 ก.ย.นี้ดีขึ้น ก็สามารถที่จะยกเลิกได้ ซึ่งการยกเลิกจะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ด้วย
อย่างไรก็ตาม วันนี้ที่แม่ทัพภาค 4 ไป พบกับตัวแทนบีอาร์เอ็น นั้นไม่ใช่เป็นการเจรจา แต่เป็นการแสดงตัวของกลุ่มที่มีความเป็นกลาง จำนวน 80 คน ส่วนที่เป็นพวกที่หัวรุนแรงนั้นยังไม่ออกมา โดยจะมีการจัดตั้งคณะทำงานประสานงานเพื่อสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดำเนินโครงการพาคนกลับบ้าน ซึ่งกลุ่มบีอาร์เอ็นที่มอบตัวมองว่า กลุ่มเด็กใหม่ที่เข้ามานั้นมีความรุนแรง ไม่มองในเรื่องของศาสนา เรื่องของโลกที่กำลังพัฒนาไป และความรุนแรงทีเกิดไม่ได้เกิดกับเจ้าหน้าที่ แต่ไปเกิดกับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งใน 80 คนส่วนหนึ่งมีคดีอาญาตาม พ.ร.ก.
อย่างไรก็ตามกลุ่มคนเหล่านี้ได้มีการเรียกร้องความปลอดภัยในชีวิตและทางกฎหมาย โดยให้แม่ทัพภาค 4 ประสานไปยังรัฐบาล และขอให้ดูเรื่องของการประกอบอาชีพด้วย เป็นเรื่องที่ดี ที่จะแยกพลเรือนที่ดีออกมา เพราะสิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้มันไม่เกิดประโยชน์ ในแง่ของกฎหมาย ทางนายกฯ ยืนยันให้ความเป็นธรรม ผู้ที่มีคดีอาญาตนบอกไปแล้วว่า ทางรัฐบาลจะดูเรื่องความเป็นธรรมทางกฎหมายให้ มีทางที่จะช่วยเหลือ แต่เราคงไปพูดไม่ได้ แต่เราจะดูแลให้ เชื่อว่าหลังจากนี้จะดีขึ้น เพราะหากกลุ่มที่มาอยู่กับเรามีความปลอดภัยมีชีวิตที่ดีขึ้น การต่อสู้ทางแนวความคิดตรงนี้ก็จะทำให้อีกฝ่ายกลับมารวมพัฒนาชาติไทย และสุดท้ายก็จะไม่ถูกหลอก
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการเจรจาเงื่อนไขที่จะต้องไม่มีการก่อเหตุความรุนแรง เป็นเรื่องที่จะต้องมีการพูดคุยกันต่อไป ซึ่งเวลานี้ยังไม่มีการรับรองพวกหัวรุนแรง แต่ทั้ง 80 คนจะดูในส่วนของเงื่อนไขของทางการก่อน คือความปลอดภัย และการมีอาชีพ ซึ่งได้สั่งแม่ทัพภาค 4 แล้วว่านายกรัฐมนตรี พร้อมที่จะดูแลในเรื่องของอาชีพ โดยส่งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมถึงธนาคารอิสลามไปเป็นตัวแทนของกองทุนให้กับทางภาคใต้ด้วยในเรื่องของการประกอบอาชีพ