“ยิ่งลักษณ์” นำทีม “ยงยุทธ-ยุทธศักดิ์-สุกำพล-ประยุทธ์” ลงพื้นที่นราธิวาสฟังปัญหาพร้อมให้นโยบายแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สั่ง รมต.เกี่ยวข้องดูแลสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมให้กำลังใจปชช. บอกแม้ไม่ได้ลงพื้นที่บ่อยแต่ก็ห่วงใย และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เชื่อความเป็นพี่เป็นน้องจะทำให้เกิดสันติสุข และมีรอยยิ้มกลับคืนมา ด้าน ปชช.ซึ้งมีความหวัง ขอให้ “ปู” มาบ่อยๆ – ชาวกรือเซะแห่ขอบคุณได้รับเงินเยียวยา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันนี้ (5 ก.ย.) ว่า จะได้ไปติดตามการทำงานหลังจากที่ได้มีการประชุมกันไป และไปฟังปัญหาในพื้นที่จริง ซึ่งหลังจากได้ทราบข้อมูลจะรายงานให้ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นโยบายประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทุก 3 เดือนดูเหมือนไม่ได้ผล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจะลงไปฟังปัญหาในพื้นที่ทั้งหมด หลังจากนั้นจะแถลงข่าวให้ทราบอีกที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.00 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) เพื่อขึ้นเครื่องบินของกองทัพบกไปยัง จ.นราธิวาส เพื่อร่วมประชุม และมอบนโยบายการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ พร้อมทั้งรับฟังปัญหาจากหน่วยงานในพื้นที่ ก่อนพบปะกับประชาชน ผู้นำศาสนา และตัวแทนภาคส่วนต่างๆ ที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส
ต่อมาที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีประชาชน กลุ่มผู้นำศาสนา กำนันผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน นักศึกษา และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส กลุ่มรอตันบาตู หรือกลุ่มแม่หม้ายที่สามีเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบเดินทางมาต้อนรับ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์กรือเซะ จังหวัดปัตตานี เดินทางมาขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ดูแลให้การชดเชยและเพิ่มเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งถือว่ารัฐบาลได้คืนความเป็นธรรมให้ชาวกรือเซะ
ทั้งนี้ ก่อนนายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์ภายในจังหวัดทั้งหมด 50 รูป โดยพระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ได้มอบพระและให้พรแก่นายกรัฐมนตรีให้มีสุขภาพแข็งแรง เดินทางปลอดภัย และอยากให้นายกรัฐมนตรีเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บ่อยๆ เพราะกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญกับคนในพื้นที่ แม้ว่าการแก้ไขปัญหาจะต้องใช้เวลา ขณะที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ปัญหาต้องใช้ความเข้าใจ และวันนี้ก็ได้นำคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ลงมาในพื้นที่ เพื่อรับทราบปัญหาที่แท้จริง พร้อมหาแนวทางในการพัฒนาและส่งเสริมทางด้านต่างๆ ในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวว่ารายงานว่า ภายหลังการประชุมแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มาพบประชาชนบริเวณศาลาประชาคมจังหวัดนราธิวาส ที่มารอตั้งแต่ช่วงเช้า โดยผู้นำภาคประชาชนได้กล่าวกับนายกรัฐมนตรีว่า ในอดีตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสงบสุข แต่เหตุการณ์ความรุนแรงทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป ซึ่งประชาชนต่างต้องการกำลังใจ และการที่นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความหวัง และมีกำลังใจมากขึ้น โดยอยากให้บรรยากาศความสุขกลับมาอีกครั้ง ขณะที่ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในนามผู้นำศาลนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รู้สึกดีใจที่นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาด้วยตัวเองและอนุมัติงบประมาณแก้ไขปัญหา
ด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนตั้งใจลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจประชาชน แต่กลับได้รับกำลังใจและความอบอุ่นจากประชาชนในพื้นที่ และทำให้รู้สึกดีใจ การเดินทางมารับฟังปัญหาครั้งนี้ ก็เพื่อช่วยสนับสนุน และส่งเสริมทั้งงบประมาณ และกำลังคนเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งให้การทำงานมีความใกล้ชิด พร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริมาพัฒนาในพื้นที่ แต่ทั้งนี้ยังต้องการการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน และผู้นำศาสนา เพื่อขอคำแนะนำจากคนในพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาให้เกิดความเหมาะสม พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่คอยดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มที่ แม้ตนเองจะไม่ได้ลงพื้นที่บ่อยแต่ก็ห่วงใย และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าความเป็นพี่เป็นน้องจะทำให้เกิดสันติสุข และมีรอยยิ้มกลับคืนมาได้
ขณะที่ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ตั้งใจลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ เพื่อให้กำลังใจคนทำงานและอยากรับฟังเสียงของคนในพื้นที่ ซึ่งหลังจากได้รับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว นายกรัฐมนตรี ได้รับปากที่จะขจัดอุปสรรคในการทำงานพร้อมสั่งการให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรีทั้ง 5 คนที่เกี่ยวข้อง ผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณ และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดูแลอย่างใกล้ชิด