“พิภพ” จี้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบที่ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยประชาชนได้ ชี้อย่างน้อยต้องออกมาพูดว่าเสื้อแดงไล่ตีพันธมิตรฯ เป็นสิ่งที่ผิด ตั้งข้อสังสัยหรือรู้เห็นเป็นใจ ออกแบบความรุนแรงเพื่อปฏิเสธรายงาน คอป. ด้าน “ส.ว.วีรวิทย์” หวั่นถ้าปล่อยปละละเลยต่อไปจะกลายเป็นการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ไม่จบไม่สิ้น
วันที่ 25 ก.ย. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ พล.อ.อ.วีรวิทย์ คงศักดิ์ ส.ว.สรรหา ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ถึงประเด็น “ความรุนแรงที่กองปราบ” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
นายพิภพกล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่หน้ากองปราบปรามว่า ฟังจากพี่น้องพันธมิตรฯ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ที่แรกเสื้อแดงมานิดเดียวแต่มีการเรียกให้สมทบมากขึ้นๆ พันธมิตรฯ อยู่ในกองปราบปราม พอออกมาก็พยายามกระจายกันกลับ หลบไปที่โลตัส แต่เสื้อแดงก็ยังตามไป แสดงว่ามีความจงใจก่อความรุนแรง
การก่อกวนของกลุ่มคนเสื้อแดงเกิดขึ้นหลายครั้ง ทั้งกับพันธมิตรฯ และประชาธิปัตย์ แต่ตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่เคยแสดงความเห็นในเรื่องนี้เลย ซึ่งมันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลความปลอดภัยของประชาชน ถ้าปล่อยปละละเลยแบบนี้ต่อไปมันจะบานปลาย มันก็จะเกิดความรุนแรงเป็นจุดๆ ไปเรื่อยๆ
นายพิภพกล่าวต่อว่า บางคนบอกว่าเหมือนโมเดล 6 ตุลา ให้ประชาชนฆ่ากันเอง รัฐบาลต้องการแบบนั้นหรือ ในเมื่อไม่สามารถผ่านกฎหมายปรองดองได้ ไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ ก็เลยใช้วิธีเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่ของตัวเอง ถ้าไม่แสดงความรับผิดชอบแล้วจงใจให้เกิดโมเดล 6 ตุลา รัฐบาลจะไม่มีความชอบธรรมในการอยู่ต่อไป อย่างน้อยต้องออกมาบอกว่าทำแบบนี้ไม่ถูก
นายพิภพยังกล่าวด้วยว่า ขอตั้งข้อสงสัย เป็นการออกแบบให้เกิดความรุนแรงเพื่อปฏิเสธรายงาน คอป.หรือเปล่า เพราะข้อเสนอของ คอป.ให้มีจัดสานเสวนาเพื่อความปรองดองด้วย แต่ถ้ารุนแรงแบบนี้การสานเสวนาคงเกิดไม่ได้
นายวีรวิทย์กล่าวว่า รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบในเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะมันเกิดจากการปล่อยปละละเลยของตำรวจ กลวิธีต้องประเมินสถานการณ์ก่อนแล้วว่าเมื่อสองกลุ่มมาเจอกันมีโอกาสที่จะปะทะ ต้องมีวิธีป้องกัน แต่นี่ไม่มีเลย อีกทั้งเกิดเหตุที่หน้ากองปราบ นายกฯในฐานะคนคุมกรมตำรวจต้องรับผิดชอบด้วยการบอกประชาชนว่าต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
กลัวว่าปล่อยต่อไปจะรุนแรงกว่านี้ เพราะจะเกิดความแค้น ก็จะเหมือนกับเหตุการณ์นักเรียนตีกัน พอเจออีกฝ่ายก็จะตีกัน มันจะกลายเป็นการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ แล้วจะยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราหรือ ในเมื่อรัฐบาลอาสาเข้ามาบริหารประเทศต้องป้องกันไม่ให้เหตุเกิดขึ้นอีก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์) ต้องมาดูว่าปล่อยเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่หน้ากองปราบได้อย่างไร แล้วตำรวจจับใครไม่ได้เลย จะมีตำรวจไปทำไม
นายวีรวิทย์กล่าวอีกว่า ถ้าเล่นเกมรุนแรงเพื่อปฏิเสธรายงาน คอป.ถือว่าเสี่ยงมาก ความจริงแล้วมีตำราบริหารอยู่อันหนึ่ง การทำให้คนในองค์กรขัดแย้งกันแล้วจะปกครองได้ง่าย แต่ลักษณะนั้นต้องเป็นข้อขัดแย้งที่ควบคุมได้และทำได้ในองค์กรเล็กๆ แต่ในระดับประเทศอย่าเสี่ยงทำ ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีบทเรียนกับสิ่งที่ทำแล้วคุมไม่ได้ แล้วถ้ายังจะทำ ตนคิดว่าเป็นการคิดสั้น
ถ้าอ่านดูรายงานของ คอป. คืองานวิจัยที่มาจากข้อเท็จจริงที่สอบถามจากแต่ละคนมา แต่เราห้ามคนที่ถูกสอบถามไม่ให้โกหกไม่ได้ อีกทั้งไม่มีงานวิจัยใดถูกทั้งหมด ฉะนั้นหากเสื้อแดงไม่เห็นด้วยกับประเด็นไหน ก็หาข้อมูลมาหักล้าง พูดคุยกันแบบปัญญาชน ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยแล้วจะฉีกทิ้งทั้งฉบับ มันง่ายไป เป็นวิธีที่ไม่มีวุฒิภาวะ