“เฉลิม” อ้างความลับราชการ กั๊กตอบนั่งหัวโต๊ะ ครม.

“เฉลิม” อ้างเป็นความลับทางราชการ ตอบไม่ได้จะนั่งหัวโต๊ะ ครม.แทน “ยงยุทธ” หรือไม่ พร้อมยกกฤษฎีกาปี 2526 อ้าง “ยงยุทธ” ไม่หลุดตำแหน่ง ขณะเดียวกันแว้งงับ ปชป.จะมีข่าวดีคดี 98 ศพแก๊งแดงเผาเมืองเร็วๆ นี้ ปัด ควง “คำรณวิทย์-ภาณุพงศ์” พบ “นช.แม้ว” ที่สิงคโปร์

วันนี้ (25 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสข่าวว่านายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีการซื้อขายที่ดินอัลไพน์ ได้มอบหมายให้เป็นประธานการประชุมครม.แทน ว่า เป็นความลับทางราชการ ยังไม่ได้ประชุมจะบอกได้อย่างไร ต้องให้ประชุมครม.เสร็จก่อน และจะให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นมีกระแสข่าวว่านายยงยุทธจะลงพื้นที่จ.ปราจีนบุรีเพื่อตรวจน้ำท่วม ร.ต.อ.เฉลิม ย้ำว่า เป็นความลับทางราชการ ตอบไม่ได้ เมื่อถามว่า ที่นายยงยุทธไม่เข้าร่วมประชุมครม.เพราะเกรงว่าคดีอัลไพน์จะทำให้เกิดปัญหาภายหลังใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้ชัดแล้วว่ามีบรรทัดฐานตั้งแต่ปี 2526 อย่างไรก็ตาม ศาลก็ยังเห็นไม่เหมือนกัน นักกฎหมายก็เห็นไม่เหมือนกัน พรรคประชาธิปัตย์ก็คิดอีกอย่าง และไม่มีวันเห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทย ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น สบายๆ พรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลต่อไป พรรคประชาธิปัตย์ก็ค้านต่อไป

เมื่อถามว่า มติอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงมหาดไทย (อ.ก.พ.) ที่ออกมาจะทำให้มีปัญหาหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า คงไม่มี เรียบร้อยดี เพราะมีพ.ร.บ.ล้างมลทิน เมื่อถามย้ำว่า แต่ในพ.ร.บ.ล้างมลทินระบุว่าผู้ที่จะได้รับอานิสงส์จะต้องได้รับโทษทางวินัยหรือโทษทัณฑ์ทั้งหมดหรือบางส่วนก่อน รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้มีบรรทัดฐานมาตั้งแต่ปี 2526รัฐบาลต้องฟังคณะกรรมการกฤษฎีกา เพราะเป็นหน่วยงานทางด้านกฎหมายที่คอยให้คำปรึกษารัฐบาล ซึ่งหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจต้องยึดเป็นแนวทางปฏิบัติ ส่วนความเห็นอื่นๆก็รับฟัง แต่ไม่ต้องปฏิบัติตาม เรื่องนี้มีบรรทัดฐานมาแล้ว ยืนยันไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า สถานการณ์กดดันแบบนี้จะทำให้การทำงานของรัฐบาลมีปัญหาหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า หากจะกดดันน่าจะเป็นเรื่องอื่น ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องการไต่สวนชันสูตรคดี 98ศพ โดยตนเคยบอกครม.แล้วว่า สถานการณ์การเมืองวันนี้ร้อน ไม่เรียบ จะมาในรูปแบบอื่น อาจจะหาเหตุและมาประท้วงในรูปแบบของการชุมนุม เพราะวันนี้เรื่องชักใกล้ตัวแล้วก็ออกมาตีอกชกตัว แต่ตอนทำกันไว้ไม่คิดว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

รองนายกฯ กล่าวว่า สำหรับการประชุมครม.นั้น โดยหลักการหากนายกรัฐมนตรีไม่อยู่ จะไม่นำวาระจรเข้ามาพิจารณา ส่วนเรื่องรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นไม่ใช่วาระจร

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะนำกรณีของนายยงยุทธไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ รองนายกฯ กล่าวว่า ทำได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครอง เพราะเป็นสิทธิ ตนเห็นพรรคประชาธิปัตย์ไปไม่เป็น วนอยู่ตรงนั้น วนไปวนมา

รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.)ว่า เป็นเพียงความเห็นไม่มีกฎหมายรองรับ อีกทั้งคอป.เองยังไปเอากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาสอบ และมาบอกว่ารายงานบางส่วนไม่ครบถ้วน ถามว่าแล้วจะนำมารายงานทำไม อย่างไรก็ตาม ตนไม่ขอแสดงความเห็นค้านนายคณิต ณ นคร ประธานคอป. เพราะถือเป็นอาจารย์ที่ตนเคารพ

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า เร็วๆ นี้ จะมีข่าวดีเรื่องคดี 98 ศพ โดยคดีอาจจะออกมาในสองทางคือ คดีหลุดหรือถูกจับ ส่วนใครจะถูกจับบ้างตนไม่ทราบ แต่ไม่มีการกลั่นแกล้ง และหากใครคิดว่าจะถูกกลั่นแกล้งนั้น ตนเป็นคนนับถือพระเจ้า ใครกลั่นแกล้งใครขอให้วิบัติ ใครทำผิดอะไรก็ขอให้เข้าคุก เข้าตะราง

ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกรณีที่เดินทางไปชมการแข่งขันฟอร์มูลาวัน ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า ไม่มีตั๋ว จึงไม่ได้ชม ได้ยินแต่เสียง และตนก็ไม่ได้พบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปครั้งนี้ตนไปกับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ด้วยชวนไปเที่ยวปลอบใจ ขณะเดียวกันก็มีพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะเกษียณอายุราชการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าจะมีการปลดพล.ต.ท.คำรณวิทย์ออก ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พวกตกใจง่าย นึกว่าพล.ต.ท.คำรณวิทย์จะเป็นสายล่อฟ้าของรัฐบาล ไม่ใช่ตำรวจปล่อยข่าว สำหรับเรื่องนี้มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคนตกใจง่ายก็เลยพูดว่าพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ทำแบบนี้จะต้องย้าย พวกห่านตกใจง่าย ทั้งนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นตำรวจที่ดี หากจะคุกคามมีวิธีการอย่างอื่นตั้งเยอะ ไม่ใช่ตำรวจที่จะข่มเหงรังแกประชาชน ตนถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ใครกล้าไปข่มขู่ คนอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ใครกล้าไปกลั่นแกล้ง ตนไม่เอาด้วยหนึ่งคน

เมื่อถามว่า หลังจากไปสิงคโปร์ดูแล้ว พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะอยู่ในตำแหน่งต่อ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ให้ไปไหน คิดถึงใจจะขาด ต้องเป็นตลอดไป สำหรับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นพลร่มถอดใจไม่ได้ เป็นของจริงไม่ใช่ของปลอม ไม่มีถอดใจ หึกเหิมห้าวหาญแบบพลร่ม

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการเอาผิด พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ผู้ต้องหาในคดีหายตัวไปอย่างปริศนาของสองสามีภรรยาในจ.เพชรบุรีว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเอากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไป เพราะตำรวจภูธรภาค 7 สามารถทำได้ คดีนี้ไม่ซับซ้อนเพราะตำรวจเก่ง ทั้งนี้ หลักการสืบสวนสอบสวนเขียนไว้ว่า อาชญากรรมที่สมบูรณ์คนร้ายเก่งมักย่อมทิ้งร่องรอยและพยานหลักฐานไว้มากที่สุด ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ได้คุยกับพล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหลังจากตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ค่อนข้างมั่นใจ ตนตามคดีนี้ไม่ได้ปล่อยปละละเลย