“ชัชวาลย์” ชี้ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงได้ต้องพึ่งทหาร ลั่นไม่รังเกียจรัฐประหารแต่ทำแล้วต้องปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ เชื่อมีคนรอจังหวะเข้ามาทำบ้านเมืองให้ดีขึ้น โดยใช้ 19 กันยาเป็นบทเรียน พร้อมเชียร์ไม่มีอะไรน่ากลัว ถ้าทำแล้วเดินบนทางที่ถูกต้อง ประชาชนจะเข้าข้างเอง
วันที่ 25 พ.ค. นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย นักวิชาการอิสระ และอาจารย์สมศักดิ์ เธียรจรูญกุล อาจารย์สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ถึงประเด็น “6 ปี รัฐประหาร 19 ก.ย.” ดำเนินรายการโดยนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ
นายชัชวาลย์กล่าวว่า วิธีเอาชนะนักการเมืองชั่ว อย่าไปเลือกตั้งแข่ง เพราะอย่างไรเขาก็ชนะ เพราะใช้เงิน ใช้อิทธิพล ฉะนั้นเลือกตั้งไม่ใช่หนทางที่ประชาชนจะเอาชนะนักการเมืองชั่วได้ ส่วนการที่ประชาชนลุกฮือแล้วชนะ ในประวัติศาสตร์ไทยไม่เคยมี เพราะสภาพสังคมเราต่างจากพวกอาหรับ จะชนะได้ก็เพราะมีทหารเข้ามา ประเทศไทยหนีทหารไปไม่พ้น พ.ต.ท.ทักษิณ เลยกลัวทหาร ถึงต้องใช้ทหาร
แต่ตนเชื่ออยู่อย่างหนึ่ง ทหารที่จงรักภักดีต่อในหลวงมีจำนวนมหาศาล สถานการณ์มันสุกงอมแล้ว แต่ติดตรงส่วนหัวยังยึดติดกับผลประโยชน์ อย่างแค่ไปลอกคลองก็ได้สตางค์แล้ว แต่ตนมั่นใจบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงแน่ จะด้วยรัฐประหารหรือเปล่าตนไม่สน แต่สนที่เนื้อหามากกว่า ต้องทำโดยมีรูปแบบการปฏิรูป แล้วก็เชื่อว่าทหารและผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมีประสบการณ์จาก 19 กันยามาแล้ว ว่าทำแบบเดิมไม่ได้ ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงจากนี้ไปต้องเกิด แล้วจะไม่เหมือนเดิม เพราะทุกคนจะอยู่ไม่ได้แล้วถ้ายังปล่อยให้นักการเมืองโกงอย่างนี้ต่อไป
นายชัชวาลย์กล่าวต่อว่า คนไทยไม่ได้ปฏิเสธรัฐประหาร ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดขึ้นหลายสิบครั้ง แต่หลังรัฐประหารแล้วต่างหาก ตั้งผู้นำไม่มีประสิทธิภาพ บางคนบอกว่ารัฐประหารไม่ใช่ประชาธิปไตย แล้วเผด็จการรัฐสภามันใช่หรือ
แม้มีคนต้องการทำรัฐประหาร แต่กลัวอิทธิพล พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเขามีมวลชนแดงเยอะ แต่ก็ต้องดูคุณภาพมวลชนด้วย ถ้าพวกนี้รู้ความชั่วของทักษิณ เขาก็ไม่ออกมาช่วยหรอก ดังนั้นรัฐประหารเสร็จต้องเอาความจริงมาวางให้เห็น แล้วอย่าลืมมวลชนไม่ได้มีแค่เสื้อแดง กลุ่มตรงข้ามก็มี ถ้ารัฐประหารแล้ว ผู้นำเข้มแข็ง เดินบนทางที่ถูกต้อง ประชาชนจะเข้าข้างเอง ไม่มีอะไรน่ากลัว
นายสมศักดิ์กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่นี้ ถ้าเกิดขึ้นจะลงถึงระดับข้างล่าง ชุมชนคงเข้าใจอะไรมากขึ้น การที่บอกว่าทุจริตแล้วประเทศพัฒนามันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งหากเข้าใจกันแล้ว เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศจะได้รับการยอมรับมากขึ้น เพียงแต่ว่าเปลี่ยนแปลงแล้วอย่าทำเหมือนปี 49 เพราะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า ต่อให้มวลชนออกมามากแค่ไหน สุดท้ายแล้วในเมืองไททยมันก็หนีไม่พ้นต้องพึ่งคนมีปืน แล้วเมื่อพูดถึงรัฐประหารมีคนที่ไม่ยอมรับ มันเกิดจากช่วงหลัง 2534 ทุนเริ่มเข้ามา เกิดนักการเมืองเติบโตมากขึ้น แล้วสร้างวาทกรรม ว่ารัฐประหารทำให้ประชาธิปไตยไม่เติบโต จนเชื่อกันมาอย่างนั้นหลายสิบปี ทั้งที่ความจริงแล้วตัวรัฐประหารไม่ได้เลวร้าย แต่อยู่ที่วัตถุประสงค์ เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น และหลังรัฐประหารว่าทำอะไร ซึ่งตอนนี้ประเทศต้องปฏิรูปขนานใหญ่แล้ว
นายสมศักดิ์กล่าวด้วยว่า ประชาชนไม่ได้ปฏิเสธรัฐประหาร ผู้นำการเปลี่ยนแปลงไม่ต้องกลัวประชาชนจะปฏิเสธ แต่อย่าทำแบบปี 49 ต้องทำแล้วให้ความเป็นนิติรัฐเกิดขึ้นอย่างแท้จริง