“แม่เกด” วืดพบ “ปู” อีกครั้ง ย้ำขอศาลโลกสอบสลายแดง จวก คอป.ไม่เป็นกลาง

“พะเยา อัคฮาด” บุกทำเนียบอีกรอบ บี้ “ยิ่งลักษณ์” มอบอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ สอบเมษาเลือด อ้างขจัดอำนาจที่มองไม่เห็น ชม “ยงยุทธ” ปคอป.เยียวยา ซัด คอป.ไม่เป็นกลาง ด้าน “อนุสรณ์” รับเรื่องแทน ระบุอยู่ในช่วงศึกษา หวั่นผิด ม.190 ปัดตั้งธงเอาผิด

วันนี้ (19 ก.ย.) ที่ห้องเรื่องราวร้องทุกข์ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล นางพะเยา อัคฮาด แม่ น.ส.กมนเกด พร้อมด้วยญาติๆ เดินทางมายื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องทวงถาม “ยอมรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศในส่วนที่เกี่ยวกับอาชญากรรม สังหารประชาชนกลางกรุงเทพมหานาคร เมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553”

นางพะเยากล่าวว่า ตนและกลุ่มผู้ได้รับความเสียหายในปี 2553 กราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อโปรดพิจารณายอมรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศในส่วนที่เกี่ยวกับอาชญากรรมสังหารประชาชนกลางกรุงเทพมหานครเมื่อเดือนเมษายน-พฤษาภาคม 2553 โดยนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ส่งมอบคำประกาศให้แก่นายทะเบียนของศาลอาญาระหว่างประเทศ เพื่อให้ศาลอาญาระหว่างประเทศจะได้มีเขตอำนาจเขตศาลในการดำเนินการพิจารณาตามอำนาจที่ตราไว้ธรรมนูญกรุงโรมอันประเทศไทยได้รับรองแล้ว แต่ยังไม่ได้ให้สัตยาบันรับรอง กับบรรดาผู้ที่ต้องรับผิดชอบอาชญากรรมต่อมนุษยชาติดังกล่าว

“ดิฉันอยากขอให้นายกฯ เซ็นลงนามยอมรับในขอบเขตอำนาจศาลในเหตุการณ์ปี 53 วันนี้เป็นวันครบรอบวันที่ 19 กันยายน ซึ่งทางเราก็มีการจัดกิจกรรมอยู่แล้ว ต้องทำหนังสือมาทวงถามท่านนายกรัฐมนตรี ขอให้นายกฯ ชี้แจงว่าจะให้รัฐมนตรีกระทรวงไหนดำเนินการเรื่องนี้ เพราะนี้เป็นความหวังของประชาชน กระบวนการยุติธรรมตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วเราต้องใช้ของไทยด้วยและศาลโลกด้วย เพื่อดึงความยุติธรรม เพราะประชาชนเคลือบแคลงว่ากระบวนการยุติธรรมของเรามีสองมาตรฐานอยู่ หรือมีอำนาจที่มองไม่เห็นอยู่ แต่ถ้ามีศาลนี้เข้ามาร่วมด้วยความเชื่อมั่นของประชาชนก็จะมากขึ้น ขณะนี้ทางศาลอาญาระหว่างประเทศกำลังรอหนังสือจากประเทศไทย เพื่อมอบให้นายทะเบียนของเขาดำเนินการเรื่องนี้” นางพะเยากล่าว

นายอนุสรณ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้มาเพื่อมีหน้าที่เร่งรัดคดีเอาผิดใครแต่มีหน้าที่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อยากให้มองว่ารัฐบาลทำงานเพื่อเป็นการปลดล็อกทั้งในส่วนของ คอป.ก็มีการตั้งคณะ ปคอป.เพื่อประสานงาน โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี ส่วนคดีอาญาระหว่างประเทศนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงยุติธรรม ขณะนี้มีการคืบหน้าไปได้มาก

นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า แต่เรื่องการดำเนินการระหว่างประเทศต้องมีการศึกษาหลายเรื่อง ยิ่งรัฐบาลนี้เข้ามาเราไม่อยากให้ความตั้งใจที่จะสร้างความเป็นธรรมเป็นเหตุผิดกฎหมายเสียเอง ทั้งแง่ของทิศทางของการดำเนินการจากนี้ไป เข้าแง่ของมาตรา 190 หรือไม่ ทำไปแล้วมีข้อดีข้อเสียอย่างไร รัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่เร่งรีบเร่งรัดเอาผิดใคร แต่มีหน้าที่ปลดล็อกเพื่อให้กระบวนการเดินหน้าไปได้

นางพะเยากล่าวเพิ่มว่า ตนได้ยินคำแถลงการณ์ของ คอป.ที่ผ่านมา ตนดีใจที่เข้าไปขอเรื่องการเยียวยาของประชาชนกับนายยงยุทธ เพราะ คณะ คอป.ตนมองว่าไม่มีความเป็นกลางตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งนายยงยุทธรับเรื่องตั้งคณะกรรมการ ปคอป.ขึ้นมา ตนคิดถูก ถ้าปล่อยเวลาให้ คอป.ดำเนินการมาจะมีความเสียใจมากกว่านี้เลยสำหรับประชาชน