โฆษกประชาธิปัตย์ ประณามบิ๊กตำรวจเชลียร์นายขนม็อบลูกน้องบุกพรรค จ่อสอบใครสั่งใช้รถตราโล่ปฏิบัติงานส่วนตัว ไม่แปลกโจกแดงโต้ คอป. ไล่ “เหวง” หาหลักฐานทหารตาย เตือนสตินายกฯ ยอมรับรายงานมาศึกษาจริงจัง วอนกล้าหาญพาชาติพ้นวิกฤต ยัน ครม.อนุมัติ 3 หมื่นล้านก็แก้ราคายางพาราตกไม่ได้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง"นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต"ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (19 ก.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตรำวจนครบาล แจ้งจะเดินทางมายื่นหนังสือที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีการเกณฑ์ตำรวจมาร่วมด้วยจนกลายเป็นภาพม็อบตำรวจข่มขู่ประชาชน โดยใช้เวลาราชการ ใช้พาหนะของทางราชการซึ่งเป็นภาษีของประชาชนในการเดินทางมาปฏิบัติภารกิจส่วนตัวของ ผบช.น. เป็นภาพที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นและไม่คิดว่าจะเห็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ข่มขู่คุกคามสร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยต่อประชาชน จนประชาชนต้องลุกขึ้นปกป้องตัวเองจากตำรวจ ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังเชื่อว่าตำรวจส่วนใหญ่มีจิตสำนึกความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์และตำรวจที่มาก็ไม่รู้ว่ามาทำอะไร แต่ถูกสั่งโดยผู้บังคับบัญชาที่ต้องการเอาใจ ผบช.น. อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อตำรวจส่วนใหญ่มีจริยธรรม คุณธรรมที่จะดูแลประชาชน แต่ผู้ที่ต้องถูกประณาม คือ ผู้บังคับบัญชาที่เกณฑ์ตำรวจชั้นผู้น้อยมา ซึ่งพรรคจะตรวจสอบต่อไปว่าผู้ที่สั่งให้มีการนำเวลาราชการมาพรรคประชาธิปัตย์ ใช้รถตำรวจจนตำรวจมาปฏิบัติภารกิจส่วนตัวของ ผบช.น.ใครเป็นผู้ออกคำสั่งและต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้อยากฝากถึงประชาชนว่า ไม่ต้องตกใจต่อพฤติกรรมข่มขู่คุกคามดังกล่าว และให้มั่นใจว่าตำรวจส่วนใหญ่ยังเป็นตำรวจของประชาชน แต่ต้องแสดงออกให้ตำรวจบางคนที่มีพฤติกรรมเลือกฝ่ายอิงการเมืองทำให้คนเหล่านั้นรูว่าประชาชนพร้อมที่จะปกป้องดูแลตัวเองเมื่อมีความอยุติธรรมเกิดขึ้นจากน้ำมือของตำรวจชั้นผู้ใหญ่
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงผลสรุปจากรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ที่ระบุว่ามีชายชุดดำปฏิบัติการสร้างความสูญเสีย ทำให้แกนนำคนเสื้อแดงออกโต้แย้งว่า เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจ แต่ที่ต้องถาม คือ นายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำคนเสื้อแดงที่มีออกมาโจมตี คอป.นั้นมีหลักฐานที่ชัดเจนในการหักล้างข้อมูลของ คอป.หรือไม่ และสามารถระบุได้หรือไม่ว่าการเสียชีวิตของทหารเกิดขึ้นได้อย่างไรถ้าไม่มีคนชุดดำแฝงตัวในผู้ชุมนุม ซึ่งในรายงานของ คอป.ระบุชัดว่าได้รับการอำนวยความสะดวกของการ์ด นปช. จึงเป็นไปไม่ได้ที่แกนนำจะไม่รับทราบถึงการมีอยู่ของชายชุดดำ
“นายแพทย์เหวงต้องเลิกหลอกประชาชนและหลอกตัวเอง เพราะมีประชาชนจำนวนมากไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของแกนนำคนเสื้อแดง ที่เลือกรับแต่เรื่องที่เป็นคุณกับพวกตัวเอง แต่ปฏิเสธความจริง จึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีที่ประกาศในช่วงหาเสียงว่าจะมอบหมายให้ คอป.ดำเนินการค้นหาความจริงนำไปสู่ความปรองดอง ดังนั้น นายกรัฐมนตรีต้องจำคำพูดของตัวเองได้ ซึ่งบนเวทีก็มีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อยู่ด้วย วันนี้จะไม่ยอมรับรายงานของ คอป.ไม่ได้ สังคมไทยต้องร่วมกันหาทางออกให้ประเทศ ไม่ใช่หาทางออกให้ตัวเองด้วยการสร้างชุดความคิดใหม่ ซึ่งผมเชื่อว่าไม่มีใครยอม และไม่ทราบว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ฉีกรายงานได้อ่านอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือยัง ถ้าไม่ยอมรับรายงานของ คอป. คนบางคนที่รับเงิน 7.75 ล้านจากการอ้าง คอป.จะคืนเงินหรือไม่” นายชวนนท์กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีต้องนำรายงานนี้มาศึกษาอย่างจริงจังเพื่อร่วมกันหาแนวทางที่จะนำไปสู่ความปรองดอง แต่ถ้าความจริงสร้างความเจ็บช้ำให้แกนนำคนเสื้อแดงเพราะต้องไปอยู่ในคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ต้องยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องให้แก่ประเทศ พรรคฝ่ายค้านยินดีที่จะให้ความร่วมมือจัดตั้งเวทีเพื่อค้นหาความจริงร่วมกันเพื่อเป็นจุดเริ่มต้น มิเช่นนั้นการทำงานของ คอป.จะสูญเปล่าเพราะแกนนำเสื้อแดงกลัวติดคุก จึงขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้ความกล้าหาญนำประเทศพ้นวิกฤต แต่ถ้าตระบัดสัตย์ ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของแกนนำเสื้อแดง ก็ไม่มีคุณสมบัติเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะความปรองดองเป็นแค่ลมปากเท่านั้น
นายชวนนท์ยังกล่าวถึงกรณีที่ ครม.อนุมัติงบประมาณ 3 หมื่นล้านบาทเพื่อพยุงราคายางพาราว่า ไม่สามารถแก้ปัญหายางพาราตกต่ำได้ เพราะเคยมีการใช้งบ 1.5 หมื่นล้านให้ราคายางอยู่ที่ 104 บาท แต่ราคายางก็ยังตกต่ำอยู่ที่ 80 กว่าบาท ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ในวันที่ 1 ส.ค. 55 มีการใช้งบประมาณ 1 หมื่นล้าน รับซื้อยางไปแล้ว 61,762 ตัน เท่ากับซื้อกิโลฯ ละกว่า 160 บาทเพื่อพยุงราคาที่ 104 บาท เหตุใดจึงมีส่วนต่างเกือบ 60 บาท เงินส่วนนี้หายไปไหน ซื้อยางพาราแล้วทั้งหมดเท่าไหร่ เก็บสต๊อกไว้ที่ไหน เกษตรกรได้รับผลประโยชน์จริงหรือไม่ นายณัฐวุฒิต้องตอบให้ได้ก่อนเอาเงินอีก 3 หมื่นล้านบาทไปละลายแม่น้ำ เพราะไม่เช่นนั้นจะมีการนำเงินไปซื้อจากสต๊อกพ่อค้าคนกลาง มีการกินหัวคิวระหว่างนักการเมืองและพ่อค้ารายใหญ่โดยที่เกษตรกรไม่ได้ประโยชน์ ก่อนหน้านี้ ครม.มีมติวันที่ 28 สิงหาคม 55 ไม่อนุมัติตามที่นายณัฐวุฒิของบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทเพื่อพยุงราคายางพารา โดยให่นายกิตติรัตน์ เป็นหัวหน้าทีมจัดทำยุทธศาสตร์ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ แก้ปัญหาราคาพางยารานำเสนอกลับเข้า ครม.ใหม่ แต่ล่าสุดกลับอนุมัติโดยที่ยังไม่มียุทธศาสตร์ใหม่ในการนำเสนอต่อ ครม. นอกจากการเสนองบประมาณซึ่งเพิ่มมากกว่าเดิมถึงเท่าตัว จึงตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการล็อบบี้ภายในหรือไม่ และเป็นการอนุมัติที่ฝ่าฝืนมติ ครม.เดิมหรือไม่ เพราะยังไม่มียุทธศาสตร์แต่กลับอนุมัติงบประมาณให้