ส.ส.ประชาธิปัตย์ ดาหน้าแถลงโกหกสีขาวรัฐบาลต่อ "ธนา" จวกกู้ 3.5 แสนล้าน หลอกศาล หลอกสภา หลอกประชาชน "นริศ" ซัดปลูกป่ากันน้ำท่วมใน 3 เดือนยังไม่เห็นมีสักต้น "ประเสิรฐ" ฉะสุดโม้ค่าแรง 300 ทั่วประเทศทำไม่ได้ "กนก" หยันกองทุนตั้งตัว 1 ปี ยังไม่มีใครตั้งตัวได้
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.15 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) แถลงเรื่อง 1 ปีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โกหกสีขาว 19 เรื่อง ซึ่งในวันนี้เป็นการแถลงล็อตที่ 3 เรื่องที่ 9 - 12 โดยนายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กรุงเทพมหานคร แถลงเรื่องที่ 9 เรื่องอ้างเรื่องด่วน พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านหลอกศาล หลอกสภา หลอกประชาชน ซึ่งเรื่องดังกล่าวรัฐบาลอ้างความจำเป็นเร่งด่วนว่าหากไม่สามารถได้งบประมาณ 3.5แสนล้านบาทจะทำให้ไม่สามารถวางระบบป้องกันน้ำท่วม ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับประชาชนและประเทศ พร้อมกับแจ้งต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าหากไม่อนุมัติเป็นพ.ร.ก.เงินกู้ก็จะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ และรัฐบาลก็มีความพร้อมที่จะดำเนินการป้องกันปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ทราบถึงความจำเป็นในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้กว่า 8 เดือนมีน้ำท่วม 22 จังหวัด แต่รัฐบาลก็ไม่มีมาตรการที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ และเมื่อมีการอนุมัติพ.ร.ก.เงินกู้แล้วรัฐบาลก็เบิกจ่ายงบประมาณได้เพียง 1.55 พันล้านบาท แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของรัฐบาลในการป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่เป็นการโกหกประชาชนว่าจะไม่มีน้ำท่วมอีกแล้วหากได้รับงบประมาณจากพ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท รวมทั้งไม่สามารถดำเนินการที่รับปากต่อสภาและโกหกศาลรัฐธรรมนูญว่าได้เตรียมพร้อมโครงการทั้งหมดไว้แล้ว หากศาลอนุมัติก็ดำเนินการได้ทันที
ด้านนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรื่องที่10 ปลูกป่ากันน้ำท่วมใน 3 เดือนถึงวันนี้ยังไม่มีสักต้นเดียวว่า เรื่องนี้นายกฯและผู้ที่เกี่ยวข้องแถลงว่าการเกิดมหาอุทกภัยเพราะป่าต้นน้ำถูกทำลาย จึงจะมีการเร่งฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 3.5 แสนไร่ใช้งบประมาณกว่า 6 หมื่นล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ระยะเวลากว่า 7 เดือนก็ยังไม่มีการปลูกต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว เนื่องจากเห็นว่านายกฯหลอกตัวเอง เพราะนายกฯควรจะรู้ว่าการปลูกต้นไม้ไม่สามารถทำได้ใน 3 เดือน เพราต้องหาและเตรียมพื้นที่ปลูกต้นไม้ และต้องใช้เวลาในการเพาะชำ ขณะเดียวกันก็หลอกราชการ เพราะกบอ.ไม่ได้จัดสรรงบประมาณในการปลูกต้นไม้ และนายกฯหลอกประชาชน เนื่องจากอุทกภัยปี 54 ประชาชนหวังว่านายกฯจะแก้ไขปัญหา โดยการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ
ขณะที่นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรื่องที่ 11 ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทโกหกทันทีทั่วประเทศว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเรื่องดังกล่าวกลับทำไม่ได้ และมีการเปลี่ยนจกกค่าจ้างขั้นต่ำเป็นรายได้ 300 บาท นายจ้างก็ได้ออกมาระบุว่า การเพิ่มรายได้ต่อวัน 300 บาทไม่ใช่เป็นการเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ เพราะรายได้มีการเหมารวมถึงสวัสดิการ ขณะที่ลูกจ้างก็เห็นว่าการเปลี่ยนค่าจ้างขั้นต่ำเป็นรายได้ถือเป็นการโกหกของรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลกลับพูดอีกอย่างว่าต้องการให้ผู้ใช้แรงงานมีรายได้ 300 บาท จึงถือเป็นการโกหกต่อผู้ใช้แรงงาน หลังจากนั้นมีการดำเนินการโครงการนี้นำร่องใน 7 จังหวัด ทั้งที่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งบอกว่าจะทำทันทีทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามถือว่ารัฐบาลไม่ได้ทำพร้อมกันทั่วประเทศและไม่ได้ทำทันทีตามที่สัญญาไว้กับประชาชน ทั้งนี้ประชากรแรงงานทั้งประเทศมี 38,460,000 คน ทั่วประเทศก่อนปรับค่าแรง 300 บาท ซึ่งเป็นข้อมูลเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.54 มีทั้งสิ้น 7,517,394 คน แต่หลังจากปรับค่าจ้างขั้นต่ำเมื่อ 1 เม.ย.55 ซึ่งรับข้อมูลเมื่อวันที่ 17 ก.ย.55 มีผู้ได้รับค่าจ้าง 300 บาท จำนวน 7,515,957 คน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าผู้ที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำลดลง 1,437 คน และถ้าเอาตัวเลข 7 จังหวัดก่อนปรับเมื่อเดือนธ.ค.54 มีทั้งหมด 4,016,571 คน และหลังจากการปรับก็พบข้อมูลเมื่อวันที่ 17 ก.ย.55เหลือเพียง 3,956,401 คน ซึ่งนโยบาย 300 บาทถือเป็นการโกหกประชาชนไม่สามารถตอบสนองให้กับผู้ใช้แรงงานได้จริง
ทางด้านนายกนก วงศ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรื่องที่ 12 กองทุนตั้งตัวได้ครบ 1 ปียังไม่มีใครได้ตั้งตัว เพื่อให้บัณทิตจบใหม่สามารถมีเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพ ทั้งนี้ในปี 2555 ได้ตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการ จำนวน 1,300ล้านบาท แต่ในการประชุมกรรมาธิการฯ งบประมาณ ปี 2556 พบข้อเท็จจริงว่าไม่ได้มีการนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ในโครงการ โดยทาง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้สารภาพต่อที่ประชุมว่า ยังไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปดำเนินการ อีกทั้งสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไท (ทีอีอาร์ไอ) ได้สำรวจตัวเลขนักศึกษาจบใหม่ ในปี 2555 พบว่าในจำนวน 1.5 แสนคนยังไม่มีงานทำ
