xs
xsm
sm
md
lg

กบอ.เผยไต้ฝุ่นเข้ายุ่นแล้ว จับตาฝนตกกรุง 17-19 ก.ย.-รัฐโวย กทม.งานไม่คืบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กบอ.เผยไต้ฝุ่นซันปาเข้าญี่ปุ่นแล้ว ทำไทยได้รับอิทธิพลเหนือตอนบนบ้าง ยังจับตา 17-19 ก.ย.ฝนชุก กทม. ยันเขื่อนภูมิพลยังรับไหว ชูท่วมต่างกับปีที่แล้วหลายเท่า ย้ำรัฐไม่ประมาท ด้านรองโฆษกรัฐบาลได้ทีโวยโครงการ กทม.จัดการน้ำไม่คืบ จวกส่วนใหญ่ไม่ใช่พื้นที่เพื่อไทยทั้งนั้น

วันนี้ (17 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.00 น. นายรอยล จิตดอน คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) และนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ (องค์การมหาชน) ร่วมแถลงวิเคราะห์สถานการณ์อุทกภัยว่า ขณะนี้ปัจจัยสำคัญอย่างไต้ฝุ่นซันปาล่าสุดได้เคลื่อนตัวอยู่ในประเทศญี่ปุ่นทำให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้อ่อนตัวลง ซึ่งศูนย์กลางของพายุอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากหางของพายุอาจจะส่งผลให้ภาคเหนือตอนบน เช่น จ.แพร่ อุตรดิตถ์ และพิษณุโลกมีปริมาณฝนเริ่มน้อยลง แต่ฝนจะเริ่มตกหนาแน่นในภาคกลางและฝั่งตะวันตก ขณะที่ปริมาณน้ำฝนในแม่น้ำยม และน่านเริ่มน้อยลง ซึ่งคงต้องจับตาวันที่ 17-19 ก.ย.ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ยังมีฝนยังตกอยู่

ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและจังหวัดปทุมธานียังคงอยู่ในระดับที่ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลยังสามารถรับน้ำได้อีกกว่า 6 พันล้าน ลบ.ม. โดยปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมนั้นเกิดจากพายุที่จะสามารถสร้างปริมาณน้ำได้1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งคงต้องใช้ประมาณ 4-5 ลูก โดยขณะนี้จากการคาดการณ์สถานการณ์ยังเป็นไปไม่ได้

ด้านนายอานนท์แถลงพร้อมกับแสดงภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงถึงภาพพื้นที่ของประเทศไทยที่ถูกน้ำท่วมทั้งของปี 2554 และปี 2555 พร้อมกล่าวว่า ปีนี้พื้นที่น้ำท่วมมีประมาณ 1.2 ล้านไร่ ขณะที่ปีที่ผ่านมามีถึง 66 ล้านไร่ ซึ่งแตกต่างกันหลายเท่า และหากเทียบกับปี53 จะอยู่ที่ 2.9 ล้านไร่ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 48 เป็นต้นมาประเทศไทยมีน้ำท่วมทุกปี ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 54 ปี 55 สถานการณ์นั้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ประมาท

ขณะที่นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีความล่าช้าของโครงการบริหารจัดการน้ำที่รับผิดชอบโดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า หลังจากที่ได้เข้าไปตรวจสอบความคืบหน้าในโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำของ กทม. จึงพบว่าโครงการต่างๆ จำนวน 82 โครงการยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ทั้งที่รัฐบาลให้เงินสนับสนุนไปแล้ว 1,845 ล้านบาทเศษ แต่ปรากฏว่ามีการใช้งบประมาณดังกล่าวไปเพียง 14.61%

“เป็นที่น่าสังเกตว่าในพื้นที่ที่มีการดำเนินการในโครงการต่างๆ ล่าช้านั้นอยู่ในพื้นที่ที่มี ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย (พท.) ทำให้เกิดความสงสัยว่า อาจจะมีวาระทางการเมืองแอบแฝงอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ซึ่งตนเห็นว่าควรดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วนเพราะเหลือเวลาอีกไม่มากก็จะสิ้นปีงบประมาณแล้ว และที่สำคัญหากเกิดความล่าช้าก็จะส่งผลให้เกิดน้ำท่วม กทม.ได้” นายภักดิหาญส์กล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ฝั่งพระนครตรงแถวตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีคลองสามวาอยู่ งบประมาณบอกว่าให้จัดซื้อคอนกรีตของแบริเออร์กั้นยาวประมาณ 84,000 เมตร แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีแผนการดำเนินการและยังไม่มีการเบิกจ่ายแม้แต่บาทเดียว ดังนั้นถ้าน้ำเข้ามาทางมีนบุรี และเขตสายไหมก็จะต้องเกิดปัญหาน้ำท่วมขึ้นอีกแน่นอน





กำลังโหลดความคิดเห็น