รมว.กต.เมิน ปชป.ขู่ฟ้อง ป.ป.ช.ฟัน - สั่ง ตร.เข้มสถานทูตจีน-ยุ่น-มะกัน

“สุรพงษ์” เมินประชาธิปัตย์ขู่ฟ้อง ป.ป.ช.ฟันตาม ม.157 ยันคืนพาสปอร์ตให้ “นช.แม้ว” ตามระเบียบ โวยอย่าเล่นการเมือง โวต่างชาติออกวีซ่าให้เพราะรู้ดีนายใหญ่โดนเล่น จ่อขุดข้อมูลป้อง พร้อมให้ตำรวจเข้มสถานทูตจีน-ญี่ปุ่น แต่เชื่อคงยุติได้ เผยมะกันยังไม่ร้องขอคุ้มครองเป็นพิเศษ แต่ยันต้องให้ความปลอดภัย

วันนี้ (17 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.30 น. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศให้ทบทวนการออกหนังสือเดินทางให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยพรรคประชาธิปัตย์ขู่ที่จะฟ้อง รมว.ต่างประเทศตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบว่า ใครจะฟ้องร้องตนก็ฟ้องไป แต่คิดว่าสิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเป็นไปตามกฎระเบียบ อยากเรียกร้องว่าอย่ากล่าวหาข้าราชการ เพราะเขาก็ทำตามหน้าที่ของเขา ตนเองก็ทำในส่วนที่สามารถทำได้ ถ้าใครจะไปยื่นถอดถอนต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็เชิญ ก็พิสูจน์กันไป แต่ขอว่าอย่าเล่นการเมืองมากเกินไป สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณโดนมาก็คือการเมืองทั้งนั้น ทุกประเทศเขารู้ดีวันนี้ถึงออกวีซ่าให้ท่านเดินทางไปที่ไหนก็ได้ ทั้งนี้ ตนจะเตรียมข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำเสนอให้สังคมรับทราบในเรื่องนี้ด้วย

รมว.ต่างประเทศยังให้สัมภาษณ์ถึงเหตุความขัดแย้งเรื่องหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ระหว่างประเทศจีนและญี่ปุ่นว่า สำหรับเรื่องสถานทูตของทั้งสองประเทศเชื่อว่าฝ่ายความรักษาความปลอดภัยของไทยคงจะให้การรักษาความปลอดภัยมากขึ้นเพราะเราไม่อยากเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้นเช่นเดียวกับในส่วนของกงสุลจีน และญี่ปุ่นใน จ.เชียงใหม่ ที่ได้ให้ทางตำรวจดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวด แต่คิดว่าไม่มีปัญหาเพราะทั้งสองประเทศคงจะหาข้อยุติด้วยกันได้ โดยวันก่อนได้มีโอกาสพูดคุยกับรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศ ซึ่งในฐานะที่ไทยเป็นมิตรกับทั้งสองประเทศจึงอยากให้มีการพูดคุยเจรจากันเพื่อหาข้อยุติ ขณะเดียวกันขณะนี้ยังไม่มีสถานทูตใดติดต่อมาร้องขออะไรเป็นพิเศษ แต่เราก็ให้ทางกระทรวงต่างประเทศกำชับเพื่อความระมัดระวัง แต่ทั้งนี้เชื่อว่าในประเทศไทยคงไม่มีกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพราะคนไทยรักษาสงบอยู่แล้ว

นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ยังกล่าวถึงเหตุความรุนแรงระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศโลกมุสลิมว่า สำหรับกรณีการสร้างภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับศาสนาถือเป็นอุทาหรณ์ที่ราคาแพง แต่ทั้งนี้ตนจะกำชับให้ช่วยดูแลความปลอดภัย โดยคิดว่าทางตำรวจก็คงมีการเตรียมการอยู่ อย่างไรก็ตาม ทางสหรัฐฯเองยังไม่ได้มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ แต่ในฐานะที่เราเป็นเจ้าของประเทศและเขาเข้ามาอยู่เราก็ต้องให้ความปลอดภัย