ศชต.ค้าน “มาร์ค” เสอยุบ ศปก.จชต. ชม “ปู” บริหารแบบนักธุรกิจ

ศชต.ค้านแนวคิด “อภิสิทธิ์” ให้ยุบศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยันมีประโยชน์เป็นศูนย์เชื่อมหน่วยงานระดับบนสู่ล่าง ยกย่อง “นายกฯ ปู” บริหารแผนนักธุรกิจ ยิงตรงถามผู้ปฏิบัติงานโดยตรง

ที่รัฐสภา วันนี้ (13 ก.ย.) มีการประชุมคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาความคืบหน้าในการดำเนินการเหตุการณ์ลอบวางวัตถุต้องสงสัยและติดธงชาติมาเลเซียในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา โดย พล.ต.ต.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ รอง ผบช.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เสนอให้ยุบศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในวันที่ 18 ก.ย.นี้ว่า เรื่องนี้ต้องถามเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ถึงจะรู้ปัญหาดี ขอยืนยันว่าการตั้ง ศปก.จชต.ไม่ซ้ำซ้อนกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพราะสามารถเป็นตัวกลางเชื่อมการประสานงานระดับนโยบายระหว่างผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานระดับล่างได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“ศปก.จชต.เป็นการเพิ่มคนขึ้นมาโดยที่ไม่ยุบของเก่า เพื่อจะให้มีกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยตรง ช่วยแก้ปัญหาพวกข้าราชการเก่งแต่กลัวความรับผิดชอบจึงไม่กล้าสั่งการ ศปก.จชต.เปรียบเสมือนพี่เลี้ยงไปเติมช่องว่างให้มันแน่นขึ้น”

พล.ต.ต.อนุรุตกล่าวย้ำว่า ศปก.จชต.จะเป็นผู้ที่นำปัญหาทั้งหมดมาคิดเพื่อขับเคลื่อนหน่วยงานข้างล่าง คือ ศอ.บต. และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ที่ไม่มีอำนาจรองรับ เพราะแม่ทัพภาคที่ 4 ก็มีอำนาจน้อยกว่าผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ศชต.มีอำนาจน้อยกว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขณะเดียวกันส่วนงาน ศอ.บต.และ กอ.รมน.เองก็มีอำนาจน้อยกว่านายกรัฐมนตรี ในขณะนี้นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าสั่งงานแก้ไฟใต้ ต้องให้หัวหน้ารับรู้ทุกเรื่อง ดังนั้นจำเป็นต้องมีตัวกลางในการเชื่อมหน่วยงานระดับล่างและผู้สั่งงานระดับบน

พล.ต.ต.อนุรุตกล่าวอีกว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีต้องการให้แผนงานแก้ไฟใต้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือนทุกหน่วยงานฝ่ายทหาร ตำรวจ ศอ.บต. และกอ.รมน. ต้องเซตระบบทั้งหมดว่าจะเดินอย่างไรก่อนที่งบประมาณปี 56 จะมา อย่างไรก็ตาม ขอชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่ใช้แนวคิดในการบริหารงานแบบนักธุรกิจ เพราะมักยิงโทรศัพท์มาถามผู้รับผิดชอบในพื้นที่โดยตรงแบบไม่ต้องผ่านระบบราชการ เป็นสิ่งที่ดี เพราะรวดเร็วและถึงตัว