xs
xsm
sm
md
lg

เดิมพัน “เก้าอี้ปลัดคมนาคม” วัดพลัง “เจ๊ ด.” งัดข้อนายใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี
รายงานการเมือง

ทำท่าจะราบรื่น โรยด้วยกุหลาบในแผนปฏิบัติการปูพรม กรุยทางให้ “พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร” รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ขึ้นชั้นผงาดไปนั่งบนเก้าอี้เบอร์หนึ่งของ สมช. หลังจากไกล่เกลี่ยจน “พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี” เลขาธิการ สมช.คนปัจจุบันยอมลุกจากเก้าอี้ได้สำเร็จ

และม้าแข่งที่มีชื่อโผล่มาเป็นแคนดิเดตในช่วงแรกอย่าง พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ที่บางฝ่ายหนุนหลังเสนอชื่อให้เข้าชิงตำแหน่งเลขาธิการ สมช. เพื่อเป็นการปลอบใจหลังจากแห้วเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาหยกๆ ก็ส่ายหน้าไม่ขอเข้าท้าชิงเอาเสียดื้อๆ เนื่องจากต้องการทำงานอยู่ในตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ต่อไป

แว่วว่าสาเหตุจริงๆ เป็นเพราะช่องทางเพิ่มฐานะทางเศรษฐกิจส่วนตัวในตำแหน่งเดิมนั้น เยอะกว่าตำแหน่งใหม่ที่มีคนจะหยิบยื่นให้อยู่บานตะไท จึงไม่สนใจตำแหน่งที่มีแต่หัวโขนแต่ไร้ความอู้ฟู่

มันเลยทำให้ลู่ทางการวิ่งเข้าเส้นชัยของ “พล.ท.ภราดร” สว่างสดใส และเหลือเพียงรอเวลาเข้าวินเพียงอย่างเดียว แต่แล้วทุกอย่างกลับต้องสะดุดกลางคัน

เมื่อตำแหน่งใหม่อย่างเก้าอี้ปลัดกระทรวงคมนาคมที่ “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหลบหนีคดี เปิดไว้รอ “พล.ต.อ.วิเชียร” ไปนั่งก่อนเกษียณ เพื่อปูทางให้ “พล.ท.ภราดร” เข้าสู่เก้าอี้เลขาธิการสมช.ได้อย่างสะดวกโยธิน เจอตอเข้าอย่างจัง

เดิมทีเดียวจะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อนแล้ว แต่ก็ถูกเตะถ่วงเลื่อนไปเลื่อนมา จนส่งกลิ่นปัญหาความไม่ลงตัว เบื้องลึกเบื้องหลังการคาเรื่องเอาไว้

ว่ากันว่า “เจ๊ด.” ผู้มีอำนาจที่อยู่ข้างหลังนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่แส่ไปทุกเรื่อง แทรกแซงไปแทบทุกกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงที่ผลประโยชน์เยอะๆ ออกอาการไม่ปลื้มที่จะให้ “พล.ต.อ.วิเชียร” ไปนั่งคั่วเก้าอี้ปลัดกระทรวงคมนาคม แต่ต้องการที่จะให้อธิบดีกรมการขนส่งทางบกได้เป็นแทน

อย่างว่าเก้าอี้ตัวนี้ จัดเป็นตำแหน่งสำคัญระดับ “ดับเบิลเอ” ที่ข้าราชการทั้งหลายปรารถนาครอบครองเป็นอันดับต้นๆ เพราะผลประโยชน์ผ่านไปผ่านมาอื้อซ่า และตามสถิติส่วนใหญ่ที่ผ่านมา คนที่ได้นั่งก็มักจะเป็นคนที่ฝ่ายการเมืองเลือกสรรเคาะเองกับมือ

ที่สำคัญ ยังมีการซุบซิบกันแหลกลาญเลยว่า สำหรับเก้าอี้ดับเบิ้ลเอตัวนี้ หากตีราคาในการได้มาจะต้องย่อมแลกด้วยตัวเงินที่มีมูลค่า 8-9 หลักทีเดียว!!

เหตุที่มีการตีราคาค่าเก้าอี้กันแพงลิบลิ่ว ก็สืบเนื่องจากกระทรวงคมนาคมจัดเป็นแหล่งเงินแหล่งทองที่ปีๆ หนึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงเป็นอันดับต้นๆ และยังมีสารพัดโครงการมูลค่ามหาศาลจ่อคิวจะสร้างกันตลอดทั้งปีทั้งชาติ

และมันมีรอยรั่วที่เปิดอ้าให้ “เหลือบ-ไร” ได้แทะเล็มชอนไชงบประมาณได้ตลอด การหลีกเร้นระบบตรวจสอบก็มีอยู่หลายช่องหลายทาง ซึ่งทำกันมาเป็นวัฒนธรรมอุบาทว์ ความน่าพิศวาสตรงนี้มีความยั่วยวนใจเป็นล้นพ้น ไม่ต่างจาก ส.ส. หรือนายทุนเอง ที่ต้องวิ่งเต้นกันฝุ่นตลบทุกครั้งช่วงฤดูกาลปรับครม. หวังเข้ามาตักตวงผลประโยชน์บนเก้าอี้รัฐมนตรีกันอย่างหน้าไม่อาย

กรณี “สุพจน์ ทรัพย์ล้อม” อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ถูกไอ้โม่ง (การเมือง) เข้าไปปล้นทรัพย์สินในบ้านพักส่วนตัว ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดถึงความอู้ฟู่ตรงนี้ เพราะขนาดเจ้าตัวดำรงตำแหน่งไม่เพียงกี่ปี แต่ทรัพย์สมบัติที่มีก็พอจะปรนเปรอครอบครัวให้อยู่สุขสบายไปหลายชาติๆ

ด้วยงบประมาณที่กองอยู่ในกระทรวงหูกวางแบบกองพะเนิน ดังนั้นคนที่จะถูกผลักดันเข้าไปนั่งเก้าอี้ในบั้นปลายของการแข่งขันได้ ก็ต้องมีคุณสมบัติที่ฝ่ายการเมืองและผู้มีอำนาจตัวจริงพึงปรารถนาคือ “สั่งได้” และ “ไว้ใจได้” และพร้อมจะเป็นเครือข่ายที่ดี หากวันหนึ่งผู้มีบุญคุณหมดอำนาจลงไปแล้ว

ซึ่ง “เจ๊ ด.” มองว่า “พล.ต.อ.วิเชียร” ขาดคุณสมบัติตรงนี้อย่างแรง พร้อมเตรียมดันเด็กในคาถาจ่อไว้แล้ว

ทว่า หนังเรื่องนี้ก็ยังต้องอีนุงตุงนังหาทางลงกันอีกยกใหญ่ เพราะแม้ “พล.ต.อ.วิเชียร” จะไม่เป็นที่ถูกตาต้องใจ “เจ๊ ด.” ผู้มากบารมีของพรรคสีแดง แต่เจ้าตัวก็ถือเป็นคนที่ถูก “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” เลือกให้มาอยู่ตำแหน่งดังกล่าวเองกับมือ

ทั้งนี้เพื่อวัตถุประสงค์หลักคือ ผลักดัน “พล.ท.ภราดร” ที่มีศักดิ์เป็นหลานของ ปรีดา พัฒนถาบุตร อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ซึ่ง “พ.ต.ท.ทักษิณ” เคยเป็นนายเวรเดินถือกระเป๋าให้และมีความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ได้ผงาดนั่งบนเก้าอี้เลขาธิการ สมช.ให้สำเร็จ

ขณะที่ “พล.ต.อ.วิเชียร” เองครั้งหนึ่งก็เคยยอมสละเก้าอี้เบอร์หนึ่งสีกากีแบบว่านานสอนง่ายให้กับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ มาแล้ว ก็ย่อมจะได้นับถอยหลังอายุราชการตัวเองที่จะเกษียณในเดือนกันยายนปีหน้าในตำแหน่งที่มีระดับใกล้เคียงกัน ซึ่ง “นายห้างดูไบ” ก็ล็อกเป้าให้ที่กระทรวงคมนาคม

กระนั้นเมื่อเกิดปัญหาภายในครอบครัว “นายห้างแม้ว” และ “เจ๊ ด.” ความเห็นไม่สอดคล้องกัน วิบากกรรมก็อาจตกอยู่ที่ “พล.ท.ภราดร” เพราะสำหรับ “พล.ต.อ.วิเชียร” นั้น หากฝ่ายอำนาจไม่สามารถจัดสรรเก้าอี้ที่เหมาะสมมาให้ได้ สถานการณ์ตัวเองก็จะยังนั่งคาอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการสมช.เหมือนเดิมจนกว่าจะเกษียณอายุราชการ

“พล.ท.ภราดร” อาจต้องนั่งแช่รอคอยอีก 1 ปีในตำแหน่งเดิมต่อไป ซึ่ง “ทักษิณ” เองก็คงจะไม่แฮปปี้นัก เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงอาจตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อให้การโยกย้ายครั้งนี้เกิดขึ้น แต่หนทางดูแล้วยากไม่น้อย

เพราะหากมองไปที่เก้าอี้ที่พอจะให้ “พล.ต.อ.วิเชียร” ไปนั่งนอกเหนือจากกระทรวงคมนาคมที่เป็นเป้าหมายแรกแล้วก็แทบจะไม่เหลือพอให้โอนย้ายได้เลย แต่ละสัดส่วน ได้ถูกสลับติ้วจัดวางไว้เกือบลงตัวหมดแล้ว

ตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่เคยมีข่าวว่าอาจให้อดีตเบอร์หนึ่งสีกากีคนนี้ไปนั่งนั้น ก็ไม่น่าจะมีหนทางสำเร็จ เพราะเจ้าของกระทรวงตัวจริงนาม “บรรหาร ศิลปอาชา” ได้ยินก็คงปิดประตูใส่หน้าดังปั้งตั้งแต่ทำท่าจะเดินเข้ารั้วแล้ว

น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่าปฏิบัติการปูทางให้ “พล.ท.ภราดร” ก้าวสู่ “เบอร์หนึ่ง สมช.”ครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงหรือไม่

หากในท้ายที่สุด ครม.มีมติเห็นชอบให้ “พล.ต.อ.วิเชียร” นั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงคมนาคมเมื่อไหร่ นั่นหมายถึง “ทักษิณ” ได้เคลียร์ใจกับ “เจ๊ ด.” เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว “ทักษิณ” เลือกที่จะขัดใจ เจ๊ ด. เพื่อตอบแทนหลานของผู้มีพระคุณ

แต่ถ้าจนแล้วจนรอดชื่อ พล.ต.อ.วิเชียร ยังค้างเติ่งอยู่ที่เดิมไม่กระโดดไปกระทรวงคมนาคม นั่นก็สะท้อนว่า เจ๊ ด. และเครือข่ายสายตรงในประเทศ แผ่ขยายอิทธิพล กุมอำนาจประเทศไว้ส่วนใหญ่ กดให้ “นายใหญ่” ต้องจำยอม!!
กำลังโหลดความคิดเห็น