xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กประชา” เสียวสันหลัง เรื่องฉาวๆ ตกถึงมือ “เฉลิม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ
รายงานการเมือง

เป็นไปตามคาด พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ถูกเด้งไปแขวนลอยนั่งบี้สิวที่ตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ท่ามกลางการตั้งข้อกังขาของสังคมว่าสาเหตุการโยกย้าย พ.ต.อ.ดุษฎี

เพราะไปสอบสวนเรื่องลึกๆ ลับๆ ของนักการเมือง ที่ไม่อยากให้แตะต้องใช่ป่าว!!

โดยเฉพาะกรณีการเปิดโปงทุจริตงบประมาณการฟื้นฟู เยียวยาและบรรเทาสาธารณภัย 6 จังหวัดอีสานตอนบน จ.เลย บึงกาฬ หนองคาย หนองบัวลำภู ขอนแก่น และอุดรธานี เรื่องฉาวๆ เกี่ยวกับการทำทีโออาร์ก่อสร้างทางและถนน ที่ พ.ต.อ.ดุษฎียื่นเรื่องให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ไปเมื่อวันที่ 7 ก.ย.

หากสำรวจเส้นทางการก้าวหน้าในวงราชการของ “ดุษฎี” พบว่า ไต่เต้าขึ้นมาด้วยวิธีไม่ธรรมดาเหมือนกัน เป็นพวกนักต่อรองที่มีชั้นเชิงรอบด้านชนิดหาตัวจับยาก แต่งานนี้ดูเหมือนว่าเส้นทางการเติบโตของ “ดุษฎี” จะถึงคราวตีบตัน เดินไปชนปังตอ วิชาแพะที่ช่ำชองกลายเป็นเหตุถูกเด้ง!!

การเปิดโปงเรื่องดังกล่าวน่าสังเกตว่าเป็นพื้นที่อีสานตอนบน ซึ่งรู้กันดีว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม “อินทรีย์อีสาน” คุมพื้นที่อยู่ หากปล่อยให้เข้ามายุ่มย่ามสอบสวนเดี๋ยวเจอแจ๊กพ็อต ฉะนั้นจึงรีบตัดไฟต้นลม ตัดตอนไว้ก่อน ด้วยการเด้ง “ดุษฎี” ให้พ้นเส้นทางการสอบสวน

ก่อนที่จะปฏิบัติการ “ตบหัวแล้วลูบหลัง” พล.ต.อ.ประชาบุกเข้าหาเจ้าตัวพร้อมปลอบประโลมว่าย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวง เป็นการย้ายที่ใหญ่ขึ้น แถมมีงานที่อยากจะให้ทำวางไว้แล้ว เช่นเรื่องปราบปรามยาเสพติด ทว่าใครหลายคนแถวนี้ มองว่า เป็นการ “แหล...กลบเกลื่อน”ถ้าจะให้ไปทำเรื่องนั้น ทำไมไม่ย้ายไปเป็นเลขาธิการ ป.ป.ส.ล่ะวะ!!

อย่างไรก็ตาม น่าสนใจว่า “สารวัตรเหลิม” ไม่รอช้าส่งมอบเรื่องที่พ.ต.อ.ดุษฎี ร้องเรียนมาให้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา (สบ 10) สอบสวนต่อทันที พร้อมออกตัวขึงขังว่าสิ่งที่พ.ต.อ.ดุษฎีทำมาไม่เหนื่อยเปล่าแน่ ถ้ามีหลักฐานถึงใครต้องโดนหมด ถ้ามีคนในรัฐบาลเกี่ยวข้องด้วยก็จะไม่ปล่อยเช่นกัน

เรื่องดูเหมือนไม่ซับซ้อน ไม่ต่างจากกรณีอื่นๆ ที่ข้าราชการถูกพิษการเมืองเล่นงาน เหม็นหน้าก็สั่งย้ายกันดื้อๆ แต่เบื้องหลังมันมีมากกว่านั้น

“เฉลิม” ถือเป็นนักการเมืองสไตล์คล้ายคลึงกับ “ดุษฎี” ขึ้นชื่อลือชาเรื่องแบล็กเมล์ เมื่อรุ่นเล็กรุ่นใหญ่มาเจอกัน มันก็รู้ทางกัน เมื่อเรื่องฉาวๆ มันไปพันกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม “เฉลิม”ก็เก็บข้อมูลเอาไว้ปฏิบัติการบางอย่างตามถนัด!!

คนหนึ่งพยายามยุติเรื่องพยายามทำลาย แต่เรื่องกลับไปถึงมืออีกคน ก็เรียกว่าต้องเหงื่อตกเสียวสันหลังกันบ้าง เพราะหากย้อนไปดูเส้นทางการเมืองของ “เฉลิม-ประชา” เหมือนทับไลน์ ขี่กันมาตลอด การมาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้

พล.ต.อ.ประชา ในฐานะที่เคยเป็นอดีต ผบ.ตร. คลุกคลีกับวงการตำรวจมาครึ่งค่อนชีวิต อยากที่จะเป็นรองนายกฯกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากกว่า แต่ก็เป็น ร.ต.อ.เฉลิม ที่ปาดหน้าเค้ก รับกิจการตำรวจไปบริหารใหญ่โต แอ็กต์อาร์ต

“ประชา” ต้องไปหลบมุมอยู่กระทรวงยุติธรรม หนำซ้ำช่วงแรกๆ ยังถูกใช้ให้ไปทำงานดูแลปัญหาน้ำท่วมในฐานะ ผอ.ศปภ. หัวหมุนมึนงงจนเสียเครดิตมาพักใหญ่ เพราะไม่ใช่งานชอบ งานถนัด ช่วงหลังมาอยู่นิ่งๆ ในกระทรวงยุติธรรม ค่อยเข้าที่เข้าทางบ้าง พร้อมสร้างขุมกำลังเครือข่ายนายตำรวจเต็มกระทรวง อธิบดี เลขาธิการสำนักงานต่างๆ ติดยศตำรวจทั้งนั้น

จะว่าไปตำรวจที่อยู่บนสนามชั่วโมงนี้ล้วนเครือข่าย “บิ๊กผิว” ทั้งนั้น สั่งการได้ คุมอำนาจได้ ผบ.ตร.คนถัดไป พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว “ประชา” กำหนดเส้นทางไว้ให้เสร็จสรรพ โยกมาเป็นเลขาธิการ ป.ป.ส. แล้วก็ดันขึ้นไปเป็นผบ.ตร. คนในวงการทราบดี “อดุลย์” เป็นเด็กในคาถาของ “ประชา” มาตั้งแต่ต้น

ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีนายตำรวจชั้นนายพลอีกหลายตำแหน่งที่ “ประชา” วางเส้นทางเติบโตเอาไว้ในใจแล้ว ก็พานให้นึกถึง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ลูกเขยของพล.ต.อ.ประชา ที่ขึ้นชั้นเป็นพลเอกโดยเหลืออายุราชการยาวนานถึงปี 2562 ลอยโด่งอยู่ในตำแหน่งพลเอกไปเรื่อยๆ วันหนึ่งอาจได้เป็น ผบ.ตร. ด้วยกำลังภายในก็ได้

แน่นอนว่าถ้า “ประชา” สามารถขยับปรับเก้าอี้มาเป็นรองนายกฯ คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ ก็ถึงคราว “อินทรีอีสาน” บินสูงมองไกล สร้างบารมีไฮเพาเวอร์ขึ้นไปอีก ทั้งในแง่ของอำนาจ และการคุมพื้นที่ในการเล่นการเมืองในอนาคต ต่อยอดไปถึงลูกๆ หลานๆ เป็นนักการเมืองบิ๊กเนมได้ไม่ยาก

หรืออีกตำแหน่งหนึ่งคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่หลายคนหมายปอง หนึ่งในนั้นก็คือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก คนนี้ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีชื่อผลุบๆ โผล่ๆ เพราะหลายคนมองว่ามีความเหมาะสม แต่อย่างที่ว่าไว้ เส้นทางการเมืองของ “ประชา” ดูเหมือนจะเดินทับไลน์กับ “เฉลิม” อย่างแยกกันไม่ออก เพราะเนื้องานที่ถนัดมันก็คล้ายๆ กัน

ทั้งรองนายกฯ ทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หมายปองทั้งคู่ มันก็เกิดคลื่นใต้น้ำอย่างเงียบๆ ฟาดฟันกันในทีมาตลอด วันนี้เมื่อลูกเข้าตีน “เฉลิม” ข้อมูลที่หมิ่นเหม่จะฟาดไปถึง “ประชา” หลุดมาอยู่ในมือ มีหรือจะโยนทิ้งไปเฉยๆ ให้เสียของ ตามแบบฉบับนักแบล๊กเมล์ตัวพ่อ ย่อมต้องถือข้อมูลไว้ในมือเพื่อเล่นเกมพาวเวอร์เพลย์ บนกระดานอำนาจ

การส่งไม้ต่อให้ วรพงษ์ ชิวปรีชา สอบสวน ถือเป็นการส่งมอบที่ตรงจุด เพราะเส้นทางการเติบโตของ “วรพงษ์” ในวงการตำรวจนั้น แยกสายออกจาก “ประชา” ชัดเจน “วรพงษ์” นั้นรุ่งโรจน์เอาตอนที่ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ เป็นใหญ่ ในวงการสีกากี ซึ่งเป็นคนละก๊กกับ “ประชา” ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องเกรงใจ สอบสวนได้เต็มที่แบบไม่มีกั๊ก

กระนั้นหากพบเจอข้อมูลทุจริตฉาวโฉ่ สาวเข้าถึงตัว “ประชา” เข้าจริงๆ คงยังไม่เปิดเผยซัดกันหน้าหงายตอนนี้ เพราะมันจะเป็นการสาวไส้ให้กากินโดยเปล่าประโยชน์

ด้วยสไตล์ของ “เฉลิม” ของลับชั้นดีแบบนี้จะต้องเก็บไว้ให้ลึก เก็บเอาไว้คอยไว้ทิ่มแทง “ประชา” ยามที่ต้องชิงอำนาจกันภายใน ค่อยๆ ปล่อยของ บ่อนเซาะให้หมดส่งาราศี ตัดคู่แข่งสำคัญทางการเมือง ที่จะมาหยิบชิ้นปลามันที่ต่างฝ่ายต่างจ้องฮุบกันอยู่!!
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
กำลังโหลดความคิดเห็น