“ยงยุทธ” โยน อ.กพ.ดู กม.ล้างผิดอัลไพน์-คาด “เพรียวพันธ์” ไม่ลงศึกผู้ว่าฯ กทม.

มท.1 โยนที่ประชุม อ.กพ.กระทรวงพิจารณาผุด พ.ร.บ.ล้างมลทินฟอกผิดตัวเองจากคดีอัลไพน์ แนะสื่อเลิกถามทิ้งเก้าอี้หรือไม่ จ่อถาม ป.ป.ท.โกงน้ำท่วมมีจุดไหน โยน กก.ภาค กทม.เพื่อไทยคัดผู้สมัครผู้ว่าฯ เชื่อไม่นานได้ คาด “เพรียวพันธ์” ไม่ลงแข่ง โอ่ฐานเสียง กทม.ไม่น่าห่วง


วันนี้ (7 ก.ย.) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 10.30 น. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่จะมีการเสนอ พ.ร.บ.ล้างมลทิน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ หลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ว่า ยังไม่ถึงขั้นที่จะไปพูดอย่างนั้น ตนไม่ทราบว่าเป็นข่าวได้อย่างไร ซึ่งขั้นตอนจะมีการประชุม อ.กพ.กระทรวงเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ก่อน จึงขอให้รอติดตามผล ทั้งนี้ขอกราบเรียนว่าทุกอย่างต้องใช้กฎหมายเป็นเรื่องสำคัญ ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่จะทำไปใครจะได้ประโยชน์บ้าง นายยงยุทธกล่าวว่า กฎหมายว่าอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น ใครได้ประโยชน์เสียประโยชน์ก็อยู่ที่กฎหมายเป็นตัวกำหนด เมื่อถามว่าคดีนี้ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่จึงจะได้ข้อยุติ รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีก 2 อาทิตย์ ซึ่งยังมีเวลา ทั้งนี้ตนได้รายงานเรื่องนี้ให้นายกฯ ทราบมานานแล้ว

เมื่อถามว่า ท่านนายกฯ ได้แสดงความเป็นห่วงหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตนโดยตรง และเป็นประเด็นที่พูดกันไม่รู้จักจบสิ้น รอดูผลของเรื่องดีกว่าแล้วค่อยมาคุยกัน อันนี้จะพูดได้ ซึ่งตอนนี้ผลยังไม่มีแล้วมาถามเหตุการณ์ข้างหน้าว่าเหตุการณ์เป็นอย่างนี้แล้วจะเป็นอย่างไรอย่างนั้นจะทำให้ตอบลำบาก เมื่อซักต่อว่ามีความกังวลว่าจะกระทบต่อการทำงานหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่ครับ เพราะทำงานมาจนป่านนี้ เมื่อถามต่อว่า ยังจะยืนยันที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ นายยงยุทธกลั้วหัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า ไม่เกี่ยว ทำงานก็ทำไปไม่ได้ทำเพื่ออยู่ก็แค่นั้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราจะอ่อนแอและอ่อนไหวไม่ได้ เราก็ทำงานไป พี่น้องประชาชน สื่อมวลชนว่าอย่างไร

“ไม่ต้องพูดอย่างนั้นหรอกครับ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีกแล้วนะครับ ถามยังไงก็จะไม่ตอบ ถ้าจะลงเอยยังไงค่อยมาคุยอีกที” นายยงยุทธกล่าว

รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ป.ป.ท.ออกมาเผยเรื่องการทุจริตเงินเยียวยาน้ำท่วมในส่วนของท้องถิ่น ทางกระทรวงมหาดไทยจะดูแลอย่างไรว่า จะติดตามดูว่ามีที่ไหนบ้าง และจะประสานกับ ป.ป.ท.ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร ซึ่งจะมีการติดตามเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าไม่ทราบ ไม่ทราบ รอรายงาน ต้องดูงานในเชิงลึก เมื่อถามว่าทาง ป.ป.ท.รายงานความคืบหน้ามาหรือยัง รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ไม่ทราบเห็นแต่ทางข่าว สำหรับการทุจริตในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็ต้องดูว่าเหตุเกิดที่ไหน เรื่องอะไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วค่อยสรุปอีกที

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังกล่าวถึงการเลือกตัวบุคคลที่จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ว่า เบื้องต้นต้องให้คณะกรรมการภาค กทม.ทั้ง 3 โซน ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เป็นประธาน ได้พิจารณาร่วมกันก่อน จากนั้นถึงเสนอให้คณะกรรมการบริหารพรรค ก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะถ้าช้าคงต้องนับหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า แคนดิเดตผู้ลงสมัครขณะนี้มีจำนวนกี่คน นายยงยุทธกล่าวว่า รายชื่อก็มีเท่าที่สื่อมวลชนเสนอข่าว เพราะสื่อลงให้ครบแล้ว เมื่อถามว่า ถ้า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. สมัครอะไรจะเกิดขึ้น นายยงยุทธกล่าวว่า เชื่อว่าท่านคงไม่สมัครใจที่จะลงสมัคร ซักต่อว่าคุณสมบัติผู้ที่จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ควรเป็นอย่างไร นายยงยุทธกล่าวว่า จะต้องเป็นคนมีความรู้ความสามารถ และเป็นที่เชื่อมั่นของคน กทม. เมื่อถามว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย นายยงยุทธยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า ยังไม่บอกตอนนี้ ซึ่งความนิยมจากคน กทม.ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ส่วนจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ เพราะจะต้องคละกันไปโดยในความคิดทั้งสมัยใหม่และสมัยเดิม

เมื่อถามว่า มีความมั่นใจว่าจะสู้พรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวว่าจะสู้ได้หรือไม่ได้ แต่เป็นการเสนอตัวให้ประชาชนได้เลือกพิจารณา เมื่อถามว่า คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับการยอมรับจากคน กทม.หรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ก็เห็นได้จากที่นายกฯ เดินทางไปไหนมาไหนในพื้นที่ กทม. เมื่อถามว่าฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ กทม.มีความน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่ เพราะเลือกตั้งท้องถิ่นและเลือกตั้ง กทม.ไม่เหมือนกัน