รองโฆษก ครม.เงา เผยที่ประชุมห่วงภัยแล้ง รัฐไร้แผนรับมือ ปล่อยเขื่อนแห้ง แถมชดเชยต่ำ ซัด “เต้น” ผุดไอเดียโค่นยางทำเฟอร์นิเจอร์ซ้ำเติมเกษตรกรทำราคาไม้ต่ำอีก พร้อมเกาะติด มท.จัดเวทีแก้รัฐธรรมนูญ จี้ ป.ป.ช.บอกขาดหลักฐานคดีซีทีเอ็กซ์อะไรจะส่งไปให้
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ในฐานะรองโฆษกครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมของ ครม.เงาว่า ที่ประชุม ครม.เงามีความเป็นห่วงสถานการณ์ภัยแล้งที่ขณะนี้เกิดกขึ้นแล้วใน 8 จังหวัด คือ 5 จังหวัดภาคใต้ และ 3 จังหวัดภาคอีสาน แต่รัฐบาลไม่มีการวางแผนรับมือหรือเตรียมการล่วงหน้าในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจากภัยแล้ง เพราะคาดการณ์ว่าปีนี้และปีหน้าสถานการณ์ภัยแล้งจะทวีความรุนแรงมาก ซึ่งจะกระทบภาคเกษตรกรรมของไทยและทำให้เกษตรกรไทยเดือนร้อนสาหัสแน่นอน เพราะขณะนี้เขื่อนหลักที่ใช้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง มีปริมาณน้ำน้อยมากเพราะการคาดการณ์ผิดพลาดของนโยบายรัฐ เช่น เขื่อนภูมิพลมีน้ำเพียง 20% ของเขื่อน เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำเพียง 23% ของเขื่อนเท่านั้น ที่สำคัญการชดเชยภัยแล้งให้เกษตรกรของรัฐบาลที่ระบุว่าจะให้ 600 บาทต่อไร่นั้น ค่อนข้างต่ำมากเมื่อเทียบกับผลกระทบด้านเศรษฐกิจและต้นทุนการผลิตที่เกษตรกรลงทุนไป โดยล่าสุดผู้ว่าฯ จ.นครศรีธรรมราช ได้ทำหนังสือเสนอต่อกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาลเพื่อขอให้พิจารณาเพิ่มค่าชดเชยให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ไร่ละ 2,200 บาทต่อไร่
น.ส.รัชดากล่าวต่อว่า ครม.เงายังเป็นห่วงถึงการส่งสัญญาณที่ผิดพลาดของรัฐบาลหรือรัฐมนตรีที่แก้ไขสินค้าเกษตรตกต่ำ ที่ล่าสุด ครม.จะมีมติอุดหนุนเงินอีก 2 พันล้านบาท ให้องค์การสวนยางไปแทรกแซงราคายางเพิ่มจากที่ให้ไปแล้ว 1 หมื่นล้านบาท และ 5 พันล้านบาทให้ภาคเกษตรกร และการเสนอแนวคิดแปลกๆ ของรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ เช่น ให้โค่นยางเก่าก็ยิ่งทำให้ราคาไม้ยางพาราที่นำไปผลิตเฟอร์นิเจอร์ จากเดิมที่ราคา 1.20 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 60 สตางค์ต่อ กก. แม้จะไม่มีผลในทางปฏิบัติคือ ไม่มีเกษตรกรสวนยางตัดล้มไม้ยางเก่าเพราะไม่เชื่อถือ แต่ก็มีผลต่อจิตวิทยาการตลาดทำให้ไม้ยางราคาตก เป็นการซ้ำเติมภาคเกษตรกรรมอีก
รองโฆษก ครม.เงา แถลงอีกว่า ครม.เงายังตั้งข้อสังเกตถึงการที่รัฐบาลให้กระทรวงมหาดไทยจะตั้งเวทีรับฟังความเห็นประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 8 หมื่นหมู่บ้านทั่วประเทศว่าจะมีความเป็นกลาง ไม่มีการยัดเยียดชี้นำจากภาครัฐ เพราะกระทรวงมหาดไทยก็เป็นเครื่องมือของรัฐบาล แทนที่จะใช้องค์กรที่เป็นกลางหรือสถาบันการศึกษาลงไปทำหน้าที่นี้แทน ซึ่ง ครม.เงาจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ ไม่ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาโครงการทุจริตจัดซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 และการก่อสร้างระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าในท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ครม.เงาขอให้ทาง ป.ป.ช.ออกมาระบุ และชี้แจงว่ายังขาดพยาน หลักฐานหรือข้อมูลในส่วนใดที่ว่าไม่ครบถ้วน เพื่อที่ทางพรรคประชาธิปัตย์จะได้ช่วยติดตามและส่งมอบพยาน หลักฐานหรือข้อมูลในส่วนที่ขาดหาย เพื่อความสมบูรณ์ในมลูคดีเพื่อความโปร่งใสในการดำเนินงานของ ป.ป.ช.ที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนสมบูรณ์