“กรุงเทพโพลล์” สำรวจนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ พบส่วนใหญ่ 58.6% เห็นว่าโครงการประชานิยมไม่ช่วยสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และไม่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ 77% เห็นว่าโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรต่างๆ จะเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริต ขณะที่ 77% เห็นว่าผลได้จากประชานิยมจะน้อยกว่างบประมาณที่ใช้ไป เชื่อคนไทยส่วนใหญ่เริ่มเสพติดประชานิยมแล้ว ชี้มี 7 โครงการที่ไม่ดี
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 27 แห่ง จำนวน 70 คน เรื่อง “นโยบายประชานิยมส่งผลดีหรือเสียต่อประเทศไทย” พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 58.6 เห็นว่าโครงการประชานิยมไม่ช่วยสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ รองลงมาร้อยละ 38.6 คิดว่าช่วยสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันได้บ้างแต่ไม่ยั่งยืน
ส่วนโครงการประชานิยมจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจได้หรือไม่นั้น ร้อยละ 50 คิดว่าช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจได้บ้างแต่ไม่ยั่งยืน รองลงมาร้อยละ 47.1 คิดว่าไม่ช่วย
สำหรับโครงการประชานิยมจะนำไปสู่การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่สมดุลมีความเข้มแข็งของเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Demand) มากขึ้นได้หรือไม่ นักเศรษฐศาสตร์ ร้อยละ 52.9 คิดว่าช่วยทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศมีความเข้มแข็งขึ้นได้บ้างแต่ไม่ยั่งยืน รองลงมาร้อยละ 40.0 คิดว่าไม่ช่วย
ในส่วนของโครงการประชานิยมที่มีการแทรกแซงกลไกราคาผ่านโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรต่างๆ ของรัฐบาลจะก่อให้เกิดปัญหาที่สำคัญ (โดยเฉพาะในระยะยาว) คือ ร้อยละ 77.1 เชื่อว่าจะเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน การโก่งราคาเกษตรกร รองลงมาร้อยละ 68.6 เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่สามารถกำหนดราคาขายในตลาดโลกได้ เนื่องจากสินค้าเกษตรจะเก็บไว้นานไม่ได้ และจะขาดทุนจากการดำเนินโครงการ ร้อยละ 65.7 เห็นว่าจะเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดพลาด ราคารับจำนำที่สูงจะทำให้เกษตรกรขยายการเพาะปลูกที่เพิ่มขึ้น และร้อยละ 60.0 เชื่อว่าประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรจะลดลง
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ได้ทำการประเมินผลได้สุทธิจากนโยบายประชานิยมกับงบประมาณที่ใช้ไป ว่าสิ่งใดจะมากกว่ากัน ร้อยละ 77.1 เห็นว่าผลได้สุทธิจากนโยบายประชานิยมจะน้อยกว่างบประมาณที่ใช้ไป และมีเพียงร้อยละ 5.7 เท่านั้นที่เห็นว่าผลได้สุทธิจากนโยบายประชานิยมจะมากกว่างบประมาณที่ใช้ไป
สุดท้ายเมื่อถามนักเศรษฐศาสตร์ในประเด็นว่าปัจจุบันนี้ “คนไทยเสพติดนโยบายประชานิยมหรือไม่” ร้อยละ 48.6 เชื่อว่าประชาชนเสพติดโครงการประชานิยมแล้ว รองลงมาร้อยละ 47.1 เชื่อว่าประชาชนเริ่มเสพติดโครงการประชานิยม (ไม่มีนักเศรษฐศาสตร์คนใดเลยที่เห็นว่าคนไทยยังไม่เสพติดโครงการประชานิยม)
นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ยังได้ทำการประเมินนโยบายประชานิยมของรัฐบาลชุดปัจจุบันจำนวน 16โครงการ ว่าโครงการใดถือเป็นโครงการประชานิยมที่ดีหรือไม่ดี ผลสำรวจพบว่า มีโครงการประชานิยมที่ไม่ดีจำนวน 7 โครงการโดยโครงการที่มีค่าร้อยละมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ โครงการโครงการรับจำนำข้าวเปลือก (ร้อยละ 65.7) โครงการแจกแท็บเล็ตพีซี (ร้อยละ 65.7) โครงการรถยนต์คันแรก (ร้อยละ 58.6)
ส่วนโครงการประชานิยมที่ดีแต่ใช้วิธีดำเนินโครงการที่ไม่ถูกต้องจำนวน 5 โครงการโดยโครงการที่มีค่าร้อยละมากที่สุด 2 ลำดับแรก คือ โครงการการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน (ร้อยละ 50.0) โครงการจบปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท (ร้อยละ 45.7)
มีโครงการประชานิยมที่ดีจำนวน 4 โครงการ โดยโครงการที่มีค่าร้อยละมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ โครงการเบี้ยยังชีพคนชราแบบขั้นบันได (ร้อยละ 80.0) โครงการอินเทอร์เน็ตฟรีในที่สาธารณะ (ร้อยละ 78.6) โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคได้จริง (ร้อยละ 71.4)