รายงานการเมือง
แค่เพียงเสียง ปี่ กลอง เชิดฉิ่ง ส่งสัญญาณเข้าสู่โหมดการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ “พล.ต.ต.” ตำแหน่ง “รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.)” ถึง “ผู้บังคับการ (ผบก.)” ประจำปี 2555 หรือโผ “นายพลเล็ก”
อุณหภูมิในแวดวง “สีกากี” ร้อนแรงเดือดพล่าน ชนิดปรอทแทบแตก เพราะแค่มีรายชื่อโผล่แพลมออกมา หลายตำแหน่งหลายเก้าอี้ก็เริ่มมีเสียง “ยี้”
ถึงขนาด พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ จากการเลือกตั้ง ออกมาโวยการถูกแทรกแซงแต่งตั้งในกองบัญชาการต่างๆ จากบรรดาผู้มีอำนาจ!!!!
พล.ต.อ.อชิรวิทย์บอกกว่า เป็น ก.ตร.ที่มาจากการเลือกตั้ง จึงเหมือนเป็นตัวแทนของตำรวจ ดังนั้นต้องออกมาพูด เพราะได้รับรู้ ได้รับร้องเรียนทั้งทางวาจา และทางเอกสาร ว่าการแต่งตั้งระดับ ผบก.ถึงรอง ผบช.ครั้งนี้ จะมีตำแหน่ง ผบก.ว่าง มีผู้มีโอกาสขึ้นเป็นนายพลใหม่ ประมาณ 80 ตำแหน่ง กำลังมีปัญหา ทั้งที่การแต่งตั้งระดับรอง ผบ.ตร.ถึง ผบช.ที่ผ่านมา แต่ละตำแหน่งพิจารณาแต่งตั้งได้เหมาะสมมาก แต่พอระดับรองลงมากลับมีเสียงร้องเรียน
“ทั้งๆ ที่ระดับกองบัญชาการ ผบช.มีอำนาจในการพิจารณาคัดเลือก และเสนอให้ ผบ.ตร. นำเข้า ก.ตร. แต่ครั้งนี้ปรากฏว่า ฝ่ายนโยบาย ทั้งการเมืองและฝ่ายบริหาร ตร.ส่งรายชื่อ ส่งบัญชีแต่งตั้งมาให้เลยทั้งหมดแล้วให้ บช.ทำขึ้นไปตามนั้น ระดับ บช.ไม่มีโอกาสคัดเลือกคนที่เหมาะสมมาทำงานเลย”
ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ บอกว่า ครั้งนี้หลาย บช.เปลี่ยน ผบช.ใหม่ ตนสอบถามไป ก็พบว่า ว่าที่ผบช.คนใหม่แทบไม่ได้ไปมีส่วนร่วมในการทำบัญชีแต่งตั้งเลย ทั้งที่คนใหม่ต้องมาเป็นผู้บังคับบัญชา ผบก.-รอง ผบช.เหล่านี้ แน่นอนว่าตามกฎหมายอำนาจเป็นของ ผบช.คนปัจจุบัน แต่ในเชิงบริหารธรรมเนียมปฏิบัติต้องให้คนใหม่ มีส่วนร่วมพิจารณาแต่อย่างไรก็ตามครั้งนี้ส่วนใหญ่นโยบายสั่งมาหมด
“ผมอยากร้องเรียนว่าโปรดให้โอกาสคนทำงานคนมีผลงานได้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ให้คนที่ความรู้ ความสามารถ ประพฤติดี คนในองค์กรยอมรับได้เลื่อนตำแหน่ง ฝ่ายนโยบายอย่าเข้าใจว่า เอาคนที่ตัวเองสั่งได้มาวางในตำแหน่งสำคัญ เพื่อหวังผลทางการเมืองหากว่าลูกน้องไม่ยอมรับคนเหล่านี้ที่แต่งตั้งมา ก็มาสั่งใครไม่ได้หรอก และผลกระทบจะเกิดกับประชาชน”
พล.ต.อ.อชิรวิทย์ยืนยันว่าจะพยามต่อสู้ซักค้านเต็มที่กับการแต่งตั้งที่ไม่เหมาะสม แต่ในที่ประชุม ก.ตร.พอต้องโหวต เสียงของ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิน้อยกว่า โหวตก็แพ้ทุกครั้ง แต่งตั้งระดับ ผบก.วาระปีก่อน พูดกันตั้งนาน ถกกันตี 4 พอโหวตก็แพ้อยู่ดี
การออกมาพูดโจมตีการแต่งตั้งโผนายพลเล็กของ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ก่อนที่บัญชีรายชื่อจะนำเข้า ก.ตร.เป็นการต่อสู้ให้ตำรวจที่เลือกเขาเข้ามาทำหน้าที่โดยไม่มีเลศนัยเบื้องหลัง หรือเป็นการสร้างราคาให้ตัวเองเพื่อนำไปต่อรองกับฝ่ายผู้มีอำนาจ ก็ย่อมมีสิทธิ์คิดได้ เพราะนายตำรวจที่ได้รับยกย่องจากตำรวจด้วยกันคนนี้เป็นที่รู้กันดีว่ามีวิชาทั้งสองด้าน
อย่างไรก็ตาม ตามปฎิทินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กอ๊อบ” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กำหนดให้หน่วยขึ้นตรงสำนักงาน ผบ.ตร. ให้ส่งบัญชีในวันที่ 22 สิงหาคม ส่วนกองบัญชาการอื่นให้ส่งบัญชีวันที่ 24 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา
ก่อนที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ในฐานะ “ผบ.ตร.” คนปัจจุบัน ตามอำนาจหน้าที่จัดทำบัญชีแต่งตั้งนายพลล็อตเล็กทั้งหมดทุกกองบัญชาการทั่วประเทศ เสนอให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ประชุมพิจารณาอนุมัติการแต่งตั้ง ในวันที่ 29 สิงหาคม 2555 เวลา 14.00 น. ห้องประชุม 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ปีนี้ ตำแหน่งระดับรอง ผบช.ว่าง 39 ตำแหน่ง ได้แก่ รอง ผบช.สยศ.ตร. 1 ตำแหน่ง, รอง ผบช.สกพ. 2 ตำแหน่ง, รอง ผบช.สงป. 1 ตำแหน่ง, รอง ผบช.ก.ตร. 1 ตำแหน่ง, รอง จตร.(สบ 7) 1 ตำแหน่ง, รอง ผบช.น. 2 ตำแหน่ง, รอง ผบช.ภ.1 2 ตำแหน่ง, รอง ผบช.ภ.4 3 ตำแหน่ง, รอง ผบช.ภ.5 2 ตำแหน่ง, รอง ผบช.ภ.6 2 ตำแหน่ง, รอง ผบช.ภ.7 4 ตำแหน่ง , รอง ผบช.ภ.8 2 ตำแหน่ง, รอง ผบช.ศชต. 3 ตำแหน่ง , รอง ผบช.ก. 3 ตำแหน่ง , รอง ผบช.ส. 1 ตำแหน่ง, รอง ผบช.สตม. 4 ตำแหน่ง, รอง ผบช.สทส. 1 ตำแหน่ง , รอง ผบช.รร.นรต. 1 ตำแหน่ง, รองนายแพทย์ใหญ่ (สบ 7) 2 ตำแหน่ง, รอง ผบช.ตำแหน่งเทคนิค 1 ตำแหน่ง
ตำแหน่งระดับ ผบก.ว่าง 74 ตำแหน่ง ได้แก่ ผบก.ยธ., ผบก.สพ., ผบก.กช., ผบก.ตป., ผบก.กต.8, ผบก.กต.10, ผบก.ประจำ.ภ.2, ผบก.ภ.จว.ตราด, ผบก.ภ.จว.สุรินทร์, ผบก.ภ.จว.ยโสธร, ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ, ผบก.ภ.จว.เชียงราย, ผบก.ภ.จว.น่าน, ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก, ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี, ผบก.ศฝร.ภ.8, ผบก.ภ.จว.กระบี่ , ผบก.ภ.จว.พังงา , ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, ผบก.สส.ภ.9, ผบก.ภ.จว.สตูล, ผบก.สส.ศชต., ผบก.ปปป, ผบก.ปส.1, ผบก.อก.สตม., ผบก.ตม.3, ผบก.กฟ., ผบก.ศพฐ.2, ผบก.ศพฐ.3, ผบก.สศป., ผบก.ศูนย์ฝึกตำรวจ, นายแพทย์ (สบ 6) 2 ตำแหน่ง , ผบก.รพ.ตร., ผบก.วพ.
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเสียงสะท้อนจาก พล.ต.อ.อชิรวิทย์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน ก.ตร.ชุดที่จะพิจารณารายชื่อแต่งตั้งในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ จะไม่ได้ทำให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ รับรู้หรือมีปฎิกริยากังวลที่จะไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว
แต่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กลับตอบคำถามเรื่องนี้ ชนิดไม่รู้ไม่ชี้หน้าตาเฉย....
“เรื่องนี้ผมไม่ทราบ แต่ผมไม่ได้เป็นคนส่งลงไปแน่ๆ ต้องไปถามฝ่ายกำลังพลว่าส่งหรือไม่”
โบ้ยออกจากตัวเอง แบบที่น่าจะลืมไปแล้วว่าตำแหน่ง “ผบ.ตร.” ที่พยายามสู้จนได้มานั่งเก้าอี้แบบเต็มๆ ก้นอยู่ตอนนี้ ไม่เช่นแค่ตำแหน่งโก้หรู แต่เป็นตำแหน่ง “ผู้นำตำรวจ” ซึ่งต้องรับผิดชอบดูแลตำรวจใต้บังคับบัญชา 2 แสนกว่าคน ในทุกๆ เรื่อง
ยิ่งพอรายชื่อตำรวจที่ผ่านการพิจารณาจากบอร์ดกลั่นกรองฯ กองบัญชาการต่างๆ แพลมออกมา หลายเก้าอี้ หลายตำแหน่ง ก็ต้องยอมรับว่ามีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา และดูเหมือนจะสอดคล้องกับเสียงสัญญาณที่ พล.ต.อ.อชิรวิทย์แสดงความเป็นห่วงออกมา
พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผบก.จต.1 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ซึ่งพยายามจะสนับสนุนให้ไปเป็น ผบก.ภ.จ.นนทบุรี แต่ไปชนกับ “ผู้การโอ๋” พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จ.นนทบุรี ที่ถือตั๋วคนดูไบ “บิ๊กอ๊อบ” เลยต้องหลีทางให้ และขยับเพื่อนมาเป็น ผบก.ทล. แทน พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผู้การฯทางหลวง ที่ขยับขึ้นรอง ผบช.ก.
พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ที่กำลังโด่งดังกับผลงานลุยปราบยาเสพติดในเรือนจำนครศรีธรรมราช อาวุโสระดับ ผบก.ในสังกัด บช.ภ.8 แต่พอชื่อจากบอร์ดกลั่นกรองออกมา กลับไม่ได้ขึ้น รอง ผบช.ภ.8 และถูก ผบก.ที่อาวุโสลำดับ 5 แซงคิดขึ้น รอง ผบช.ภ.8 ทั้งที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ร้องขออยู่ตำแหน่งเดิม
พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.ภ.3 สายตรง ร.ต.อ.เฉลิม ถูกสั่งตรงเข้ามาอยู่ในเมืองกรุง นั่ง ผบก.สส.บช.น. แทน พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. ที่แม้จะมีผลงาน แต่ก็ต้านทานเด็กนายไม่ไหว ต้องหลีกทางให้และไปนั่งเป็น ผบก.สส.สตม. ช่วยงาน พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม.คนใหม่
พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รอง ผบช.น. ลูกหม้อนครบาล แต่สีเสื้อออกไปทางสายสีน้ำเงินของ “เนวิน ชิดชอบ” เที่ยวนี้เลยต้องโดนเช็คบิลเข้ากรุ รอง ผบช.สยศ.ตร. ต่างจาก พ.ต.อ.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล รอง ผบก.น.1 มีแรงหนุนจากขาใหญ่เชียงราย ขึ้นเป็น ผบก.น.1 เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.9 (นรต.32) สายตรงว่าที่ลูกสะใภ้ ร.ต.อ.เฉลิม ขยับพื้นที่เข้ามาใกล้เมืองเป็น ผบก.น.8
เพียงแค่เริ่มต้นตั้งไข่ยังไม่ทันทำคลอด โผ “นายพลเล็ก” ก็ทำท่าจะสร้างรอยร้าวเกิดขึ้นภายใน “กรมปทุมวัน” แล้ว วันพุธที่ 29 ส.ค.วงประชุม ก.ตร.หนนี้ เลยบอกได้คำเดียวว่า
ห้ามกะพริบตา!!!