“เรืองไกร” สงสัย กกต.แยกสอบ ปชป.เรื่องน้ำดื่ม กับคดีอีสต์วอเตอร์ จี้สอบใช้ทหารช่วยบริจาคที่สงขลา มีกองทัพหนุนเรื่องเงิน ยันมีหลักฐานภาพ เอกสารชัดเจน ลั่นไม่ยอมถูกตัดประเด็นทิ้ง ย้ำผิดมาตรา 65 อ้างเคยสอบถามพรรค แต่ไร้คำตอบ
วันนี้ (28 ส.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวก่อนการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการไต่สวนของนายทะเบียนพรรคการเมืองตามหนังสือเชิญลงวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา กรณีที่ได้ยื่นร้องต่อนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนฯ ขอให้ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์รับบริจาคน้ำดื่มบรรจุขวด จำนวน 850 โหล มูลค่า 35,700 บาท จากบริษัท อีสต์วอเตอร์ จำกัด (มหาชน)
โดยนายเรืองไกรกล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมนายทะเบียนฯ จึงให้แยกสอบเรื่องน้ำดื่ม ออกจากเรื่องการเงินบริจาค 1 ล้านบาทของอีสต์วอเตอร์ ทั้งที่เป็นเรื่องการรับบริจาคในคราวเดียวกัน แต่ถ้านายทะเบียนฯ มองว่าเพื่อให้เกิดความรวดเร็วก็ไม่เป็นปัญหา ทั้งนี้ยังติดใจว่าในครั้งที่ร้องต่อนายทะเบียนฯ เพิ่มเติมขอให้สอบเรื่องการรับบริจาคน้ำดื่มนั้น ตนได้ร้องขอให้สอบการใช้รถยนต์ทหารจัดส่งของบริจาคไปยัง จ.สงขลา ซึ่งมีเอกสารของราชการทหารยืนยันชัดเจนว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ฝ่ายอำนวยการ 3 กรมทหารขนส่งรักษาพระองค์มีหนังสือถึงผู้บัญชาการกรมทหารขนส่งรักษาพระองค์ ว่า กองยุทธการได้รับการประสานจากกองยุทธการและการข่าว กรมการขนส่งทหารบก ให้กรมทหารขนส่งรักษาพระองค์จัดยานพาหนะรถยนต์บรรทุกเบาจำนวน 5 คันพร้อมพลขับสนับสนุนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยเพื่อใช้บรรทุกสิ่งของบริจาคในวันที่ 23 พ.ย. 53 เวลา 08.30 น. โดยพร้อมที่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นำส่ง จ.สงขลา และเดินทางกลับเมื่อจบภารกิจ ซึ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกให้การสนับสนุน
นายเรืองไกรกล่าวต่อว่า โดยการขอสนับสนุนรถจากทหารดังกล่าวมีภาพยืนยันชัดเจนในเว็บไซด์ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการปล่อยรถบรรทุกสิ่งของบริจาคจากพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 23 พ.ย. 53 แต่ทำไมที่เชิญตนมาให้ถ้อยคำครั้งนี้กลับระบุในหนังสือเชิญเพียงว่าขอให้มาให้ถ้อยคำเรื่องน้ำดื่มเท่านั้น ซึ่งจะได้มีการสอบถามคณะกรรมการไต่สวนว่ามีการตัดประเด็นนี้ออกไปหรือไม่ เพราะเหตุใด
“หากมีการตัดประเด็นนี้ผมก็จะผลักดันให้มีการสอบให้ได้ เพราะหลักฐานชัดเจนทั้งภาพการปล่อยรถบรรทุกของทหารแต่ป้ายผ้าที่ติดข้างรถกลับเป็นป้ายพรรคประชาธิปัตย์ และเอกสาร เท่ากับว่าพรรครับหรือยอมรับที่จะใช้รถยนต์ของทางราชการทหาร ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 65 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองชัดเจน อีกทั้งในเอกสารของทหารฉบับนี้ยังระบุชัดว่า ค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งก็คือค่าน้ำมัน ค่าพลขับ หลวงเป็นคนจ่าย ทั้งที่ภาพฟ้องว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการทำในนามพรรค ไม่ใช่รัฐบาล” นายเรืองไกรกล่าว และเผยต่อว่าเคยนำเรื่องนี้ไปสอบถามพรรคประชาธิปัตย์เพื่อขอคำอธิบายเมื่อวันที่ 6 ก.ค. แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับคำชี้แจง
