xs
xsm
sm
md
lg

กกต.แจงเชิญผู้ว่าฯพิษณุโลกให้ข้อมูล เหตุใช้เงินบริจาคของ ปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภุชงค์ นุตราวงศ์ (แฟ้มภาพ)
เลขาฯ กกต. เผยดีเอสไอใช้กฎหมายพิเศษ เรียก 2 เจ้าหน้าที่ กกต.ให้ข้อมูลเงินบริจาค ปชป. ระบุเหตุเชิญผู้ว่าฯ พิษณุโลกให้ข้อมูลเพราะเป็นผู้รับเงินบริจาคไปดำเนินการ ด้าน “เรืองไกร” มึน กกต.เชิญพ่อเมืองพิษณุโลกให้ข้อมูล ระบุอาจสับสนกับคำร้อง บอกที่ยื่นเรื่องให้ดีเอสไอสอบเพราะกลัว กกต.ช้า สอบไม่ตรงประเด็น

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ กกต. 2 คนเข้าให้ข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีเงินบริจาค 1 ล้านบาทของบริษัท อีสท์ วอเตอร์ฯ ที่ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวทราบว่าทางดีเอสไอมีหนังสือเชิญโดยอ้างกฎหมายพิเศษ ที่ทำให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่สามารถปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือได้ และทราบว่าทางดีเอสไอก็ได้สอบถามในประเด็นข้อกฎหมายที่ กกต.มีอำนาจอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณาของคณะกรรมการไต่สวนของ กกต.ที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งขณะนี้กำลังรอการเข้าให้ถ้อยคำของนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าฯ พิษณุโลก ในขณะนั้นที่ได้รับเงินช่วยเหลือน้ำท่วม เนื่องจากได้แจ้งขอเลื่อนการเข้าให้ถ้อยคำเพราะยังติดราชการ อย่างไรก็ตามทราบว่าทางดีเอสไอก็ได้มีการเรียกนายปรีชาเข้าให้ถ้อยคำด้วยเช่นกัน

“ที่ต้องเชิญนายปรีชามาก็เพราะส่วนใหญ่เป็นเงินช่วยเหลือน้ำท่วมในจังหวัดพิษณุโลก และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ก็ร้องมาว่าเงินดังกล่าวนั้นเป็นการเข้าพรรคหรือไม่ จึงต้องเชิญมาให้ถ้อยคำเพราะขณะนั้นนายปรีชาอยู่ในพื้นที่และมีการใช้เงินในส่วนนี้ด้วย”

ด้าน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่ กกต. ชี้แจงว่าจะเชิญนายปรีชา เรืองจันทร์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก มาให้ปากคำกรณีเงินบริจาค 1 ล้านบาท ของ บริษัท อีสท์ วอเตอร์ฯ ว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับนายปรีชา ซึ่งก็ไม่ทราบว่า กกต.สับสนกับกรณีที่ตนร้องขอให้ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ยุ่งเกี่ยวการแจกถุงยังชีพที่ จ.พิษณุโลกหรือไม่ เพราะตอนยื่นคำร้องก็ไล่เลี่ยกัน รวมทั้งที่คณะกรรมการไต่สวนของ กกต.เชิญมาให้ถ้อยคำ ก็ให้ตนให้ถ้อยคำทั้ง 2 เรื่องพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม ในกรณีเงินบริจาคของอีสท์ วอเตอร์ฯ นั้นหลังยื่นคำร้องแล้ว ตนเห็นว่าการดำเนินการของ กกต.ล่าช้าและเกรงว่าจะสอบสวนไม่ตรงประเด็น รวมถึงเป็นประเด็นที่มีความผิดทางอาญาด้วย จึงได้ไปยื่นร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกทางหนึ่ง

“เท่าที่ผ่านมาดีเอสไอได้เรียกผมไปให้ข้อมูล 2-3 ครั้งแล้ว ขณะที่ กกต. เรียกมาเพียงครั้งเดียว อีกทั้งยังปล่อยให้เรื่องผ่านเลยไป ซึ่งหลังจากนี้ กกต. ควรเร่งรัดดำเนินการเพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฎโดยเร็ว รวมถึงเร่งสอบข้อมูลอีก 191 ราย ว่ามีที่มาที่ไปของเงินและสิ่งของที่มาบริจาคผ่านพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไรบ้าง และหากจะเรียกผมไปชี้แจง ก็พร้อมให้ข้อมูลตลอดเวลา เพราะเชื่อว่าการมาร้องเรียนมีข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน ไม่เช่นนั้นคงจะต้องถูกจับไปนานแล้ว” นายเรืองไกรกล่าว

นายภุชงค์กล่าวถึงคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ ว่า กรณีดังกล่าวนั้นทาง กกต.ได้ขอไป 10 ล้านบาทในการจัดการเลือกตั้ง แต่ ครม.เห็นสำนักงาน กกต.มีเงินสะสมอยู่จึงให้นำที่มีอยู่ออกมาใช้กับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ แต่ยืนยันว่าการนำเงินสะสมของสำนักงานออกมาใช้ไม่กระทบกับงบประมาณของสำนักงานที่จะต้องนำไปใช้ดำเนินการในเรื่องอื่น
กำลังโหลดความคิดเห็น