ผลสอบ ส.ส.เสียบบัตรแทนกันไม่คืบ ตั้ง กก.สอบใหม่

คำสั่งรัฐสภาแต่งตั้ง “พีรพันธุ์-นพคุณ” นั่งกรรมการซีก รบ.สอบภาพ ส.ส.กดบัตรแทนกันในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ร่างรธนงแทนกรรมการชุดเก่าที่ลาออกไป พร้อมขยายอำนาจเพิ่มรับร้องฝ่ายค้านได้

วันนี้ (18 พ.ค.) นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการออกเสียงลงคะแนนแทนกันของสมาชิกรัฐสภา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีออกเสียงลงคะแนนแทนกันของสมาชิกรัฐสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ว่า จากเดิมที่คำสั่งรัฐสภาได้กำหนดขอบเขตให้รายงานผลการตรวจสอบต่อประธานรัฐสภาภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ครั้งแรก วันที่ 25 เม.ย.นั้น แต่เนื่องจากได้มีการลาออกจากการเป็นกรรมการของนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย จึงทำให้ไม่สามารถพิจารณาตรวจสอบกรณีภาพ ส.ส.กดบัตรแทนกัน ตามที่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.สรรหา ได้ร้องเรียนมา

แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีคำสั่งรัฐสภา ที่ 24/2555 ลงวันที่ 14 พ.ค. 2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แทนตำแหน่งที่ว่างลงแล้ว โดยแต่งตั้งให้ นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พร้อมด้วยนายนพคุณ รัฐผไท ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ขึ้นเป็นกรรมการแทนที่ อาศัยอำนาจตามความใน ข้อ 5 (6) ของข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2553 ในการแต่งตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อให้ทราบข้อเท้จจริงในเรื่องดังกล่าวซึ่งเป็นตัวแทนจาก 3 ฝ่ายๆ ละ 2 คน รวม 7 คน

นายนิคมกล่าวว่า ทั้งนี้ได้มีหนังสือเชิญนัดประชุมคณะกรรมการฯเป็นที่เรียบร้อย ในวันที่ 21 พ.ค. เวลา 10.00 น. โดยในการประชุมครั้งแรกนี้จะเป็นการวางกรอบวิธีพิจารณาของทางคณะกรรมการฯให้แน่ชัดไปก่อน จากนั้นในการประชุมครั้งถัดไปจึงจะมีการเชิญ น.ส.รสนาเข้าชี้แจงเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวต่อไป ตามที่คำสั่งรัฐสภาได้ขยายขอบเขตและอำนาจหน้าที่เพิ่มเติมในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งขั้นการลงมติรวมไปถึงกรณีออกเสียงลงคะแนนแทนกันของสมาชิกรัฐสภาในกรณีอื่นที่ได้มีการเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการฯ และยังสามารถเรียกบุคคลหรือหน่วยงานมาชี้แจงและส่งเอกสารหรือพยานหลักฐานต่างๆที่อยู่ในความครอบครองได้เช่นกัน ส่วนการรายงานผลการตรวจสอบและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาต่อประธานรัฐสภานั้นก็ได้ระบุให้เป็นไปอย่างโดยเร็ว นั่นหมายความว่าทุกฝ่ายไม่เว้นแม้แต่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย ที่อ้างว่ามีหลักฐานคลิปภาพ ส.ส.กดบัตรแทนกันก็สามารถร้องมายังคณะกรรมการฯ ได้อีกด้วย